“ปู” นั่งหัวโต๊ะ กรอ.ทัวร์ภาค ตอ. เตรียมเคาะไฮสปีดเทรน-สนามบินอู่ตะเภา

ภาคเอกชนเตรียมเสนอนายกฯ “ปู” นั่งหัวโต๊ะ กรอ. ทัวร์ภาค ตอ.ตั้ง กก.ร่วม ติดตามปัญหา “มาบตาพุด” พร้อมให้รัฐดูแลปัญหา “ท่าเรือระยอง” กลับมาเปิดได้อีกครั้ง พร้อมเสนอให้มีการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-ระยอง-ตราด รวมทั้งให้มีนโยบายใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินสำรอง

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) ในวันที่ 18 มิถุนายน 2555 ที่จังหวัดชลบุรี โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทางเอกชนจะเสนอให้ตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อติดตามปัญหามาบตาพุดอย่างจริงจัง ทั้งเรื่องความปลอดภัย และการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 เพราะที่ผ่านมานั้นมีภาคเอกชนได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว แต่ยังติดขัดในกระบวนการอนุญาตของภาครัฐซึ่งล่าช้า ส่งผลกระทบต่อการลงทุน

นอกจากนี้ จะหารือถึงแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงผังเมืองจังหวัดระยอง และ 4 จังหวัดใกล้เคียง ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ชลบุรี และระยอง เพื่อให้มีความชัดเจนว่าส่วนใดเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย พื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ และพื้นที่สีเขียว พร้อมทั้งจะเสนอตั้งวอร์รูมดูแลเรื่องน้ำในภาคตะวันออกแบบบูรณาการ เพราะภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ที่เคยมีปัญหาการใช้น้ำ

นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวถึงแผนด้านลอจิสติกส์ โดยระบุว่า ภาคเอกชนจะเสนอรัฐบาลเข้ามาดูแลเรื่องการเปิดท่าเรือระยองให้กลับมาดำเนินการอีกครั้ง หลังจากที่ท่าเรือดังกล่าวได้หยุดดำเนินกิจการไป เนื่องจากท่าเรือระยองมีขนาดใกล้เคียงกับท่าเรือมาบตาพุด รับขนส่งสินค้าวัตถุดิบต้นน้ำป้อนให้โรงงานภายในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะในจังหวัดระยองเป็นท่าเรือที่ดำเนินการโดยภาคเอกชน หากสามารถเปิดทำการอีกครั้งน่าจะเป็นผลดีในด้านลอจิสติกส์ ส่วนการดำเนินการครั้งใหม่จะให้ใครเข้ามาดำเนินการแทนนั้นคงต้องพิจารณาอีกครั้ง

นอกจากนี้ จะเสนอให้มีการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงวิ่งระหว่างกรุงเทพมหานคร-ระยอง-ตราด รวมทั้งให้มีนโยบายใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินสำรอง และเปิดด่านชายแดนที่จังหวัดตราดเข้าประเทศกัมพูชา เพื่อสะดวกต่อการค้าชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา