“พาณิชย์” ประกาศ 7 เมนูจานด่วนต้องขาย 20-30 บาทใน 38 จังหวัด เผยห้าง ฟูดคอร์ต อาคารสำนักงาน ตึกแถว ปั๊มน้ำมัน สถานีขนส่ง โดนหมด ยกเว้นหาบเร่ แผงลอย และร้านหรู พร้อมเดินหน้าบี้ห้างเลิกเก็บค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน หวังดึงราคาขายลงมาอีก
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จ เห็นชอบให้ใช้มาตรการกำหนดราคาแนะนำสูงสุดอาหารปรุงสำเร็จ ประเภทข้าวแกง อาหารตามสั่ง อาหารถุงหรือกล่อง เพื่อไม่ให้ราคาขึ้นสูงเกินไป 7 รายการอาหารใน 38 จังหวัด เริ่มต้นไม่เกินจานละ 20-30 บาท พร้อมกับกำหนดพื้นที่และรูปแบบร้านอาหารที่เข้าข่ายต้องปฏิบัติตามราคาแนะนำ โดยจะเสนอให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนที่จะให้กรมการค้าภายในออกประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป ซึ่งจะใช้เป็นมาตรการขอความร่วมมือ โดยจะมีการติดตามทุก 2 สัปดาห์ หากไม่ได้ผลก็จะเพิ่มมาตรการให้เข้มงวดขึ้นจากเบาไปหาหนัก และสุดท้ายอาจจะเสนอให้เป็นสินค้าควบคุม
ทั้งนี้ รายการอาหารทั้ง 7 รายการ ประกอบด้วย ข้าวผัดหมู-ไก่ ขายไม่เกินจานละ 30 บาท ข้าวราดกะเพราหมู-ไก่ ไม่เกิน 30 บาท ข้าวราดแกง 1-2 อย่างไม่เกิน 30 บาท ก๋วยเตี๋ยวหมู-ไก่ ไม่เกิน 30 บาท ข้าวไข่พะโล้ไม่เกิน 30 บาท ข้าวไข่เจียวไม่เกิน 20 บาท และโจ๊กหมู
สำหรับราคาแนะนำ จะใช้เฉพาะร้านอาหารทั่วไปที่ตั้งอยู่ในสถานที่ถาวรชัดเจน เช่น อาคารพาณิชย์ บ้าน รวมถึงร้านอาหารในศูนย์อาหาร ในตลาดสด สำนักงาน ปั๊มน้ำมัน สถานีขนส่ง ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ โดยยกเว้นพื้นที่ภาคใต้ที่อนุญาตให้ขึ้นราคาได้อีกรายการละ 5 บาท เนื่องจากมีต้นทุนการขนส่งสินค้าสูง รวมถึงในห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่ขายได้เพิ่มอีก 5 บาท เพราะมีต้นทุนการบริหารจัดการสูง ส่วนร้านหาบเร่ แผงลอย เช่น รถเข็น รถถีบ ภัตตาคาร ร้านอาหารที่มีบริการพิเศษ ร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยว ผับ หรือสถานบันเทิง ได้รับการยกเว้น
ส่วนจังหวัดที่มีการประกาศราคาแนะนำ 38 จังหวัด เนื่องจากเห็นว่าเป็นจังหวัดที่เกิดปัญหาอาหารแพงเกินจานละ 30 บาท และประชาชนบริโภคอาหารปรุงสำเร็จเกิน 10% ของรายได้ ประกอบด้วย สมุทรปราการ นครปฐม ภูเก็ต นนทบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา สตูล สงขลา จันทบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก ปัตตานี สิงห์บุรี อ่างทอง ขอนแก่น ตราด ชัยภูมิ ระนอง ลพบุรี ชลบุรี กาญจนบุรี พังงา นราธิวาส ยโสธร สระบุรี ลำพูน เชียงใหม่ ยะลา สุราษฎร์ธานี อุดรธานี ตรัง หนองคาย และกระบี่
อย่างไรก็ตาม เร็วๆ นี้จะเรียกเจ้าของห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ มาหารือเพื่อขอปรับลดค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนที่พ่อค้าแม่ค้าต้องจ่ายนอกเหนือจากค่าเช่าพื้นที่ เงินประกัน ค่าน้ำประปา ไฟฟ้า แก๊ส เช่น ค่าส่วนต่างการขาย (จีพี) ที่ปัจจุบันเก็บสูง 30-35% จะขอลดให้เหลือ 20% ส่วนร้านค้าที่ให้ความร่วมมือในการขายอาหารตามราคาแนะนำดังกล่าว ภาครัฐจะสนับสนุนวัตถุดิบประกอบอาหารราคาถูก เช่น ข้าวสาร ซอส น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมันพืช จากโครงการร้านถูกใจและธงฟ้าให้เพื่อแบ่งเบาภาระต้นทุนแก่ผู้ประกอบการ
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จ เห็นชอบให้ใช้มาตรการกำหนดราคาแนะนำสูงสุดอาหารปรุงสำเร็จ ประเภทข้าวแกง อาหารตามสั่ง อาหารถุงหรือกล่อง เพื่อไม่ให้ราคาขึ้นสูงเกินไป 7 รายการอาหารใน 38 จังหวัด เริ่มต้นไม่เกินจานละ 20-30 บาท พร้อมกับกำหนดพื้นที่และรูปแบบร้านอาหารที่เข้าข่ายต้องปฏิบัติตามราคาแนะนำ โดยจะเสนอให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนที่จะให้กรมการค้าภายในออกประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป ซึ่งจะใช้เป็นมาตรการขอความร่วมมือ โดยจะมีการติดตามทุก 2 สัปดาห์ หากไม่ได้ผลก็จะเพิ่มมาตรการให้เข้มงวดขึ้นจากเบาไปหาหนัก และสุดท้ายอาจจะเสนอให้เป็นสินค้าควบคุม
ทั้งนี้ รายการอาหารทั้ง 7 รายการ ประกอบด้วย ข้าวผัดหมู-ไก่ ขายไม่เกินจานละ 30 บาท ข้าวราดกะเพราหมู-ไก่ ไม่เกิน 30 บาท ข้าวราดแกง 1-2 อย่างไม่เกิน 30 บาท ก๋วยเตี๋ยวหมู-ไก่ ไม่เกิน 30 บาท ข้าวไข่พะโล้ไม่เกิน 30 บาท ข้าวไข่เจียวไม่เกิน 20 บาท และโจ๊กหมู
สำหรับราคาแนะนำ จะใช้เฉพาะร้านอาหารทั่วไปที่ตั้งอยู่ในสถานที่ถาวรชัดเจน เช่น อาคารพาณิชย์ บ้าน รวมถึงร้านอาหารในศูนย์อาหาร ในตลาดสด สำนักงาน ปั๊มน้ำมัน สถานีขนส่ง ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ โดยยกเว้นพื้นที่ภาคใต้ที่อนุญาตให้ขึ้นราคาได้อีกรายการละ 5 บาท เนื่องจากมีต้นทุนการขนส่งสินค้าสูง รวมถึงในห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่ขายได้เพิ่มอีก 5 บาท เพราะมีต้นทุนการบริหารจัดการสูง ส่วนร้านหาบเร่ แผงลอย เช่น รถเข็น รถถีบ ภัตตาคาร ร้านอาหารที่มีบริการพิเศษ ร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยว ผับ หรือสถานบันเทิง ได้รับการยกเว้น
ส่วนจังหวัดที่มีการประกาศราคาแนะนำ 38 จังหวัด เนื่องจากเห็นว่าเป็นจังหวัดที่เกิดปัญหาอาหารแพงเกินจานละ 30 บาท และประชาชนบริโภคอาหารปรุงสำเร็จเกิน 10% ของรายได้ ประกอบด้วย สมุทรปราการ นครปฐม ภูเก็ต นนทบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา สตูล สงขลา จันทบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก ปัตตานี สิงห์บุรี อ่างทอง ขอนแก่น ตราด ชัยภูมิ ระนอง ลพบุรี ชลบุรี กาญจนบุรี พังงา นราธิวาส ยโสธร สระบุรี ลำพูน เชียงใหม่ ยะลา สุราษฎร์ธานี อุดรธานี ตรัง หนองคาย และกระบี่
อย่างไรก็ตาม เร็วๆ นี้จะเรียกเจ้าของห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ มาหารือเพื่อขอปรับลดค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนที่พ่อค้าแม่ค้าต้องจ่ายนอกเหนือจากค่าเช่าพื้นที่ เงินประกัน ค่าน้ำประปา ไฟฟ้า แก๊ส เช่น ค่าส่วนต่างการขาย (จีพี) ที่ปัจจุบันเก็บสูง 30-35% จะขอลดให้เหลือ 20% ส่วนร้านค้าที่ให้ความร่วมมือในการขายอาหารตามราคาแนะนำดังกล่าว ภาครัฐจะสนับสนุนวัตถุดิบประกอบอาหารราคาถูก เช่น ข้าวสาร ซอส น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมันพืช จากโครงการร้านถูกใจและธงฟ้าให้เพื่อแบ่งเบาภาระต้นทุนแก่ผู้ประกอบการ