อสมท วืดรายได้โทรทัศน์ตก 4% เหตุรายการข่าว และไทม์แชริ่งตกลง ขณะที่ภาพรวมรายได้โต 3% หวังบิ๊กอีเวนต์ใหญ่ ทั้งฟุตบอลยูโร และโอลิมปิกช่วยเพิ่มยอด ส่งไตรมาสสองกระเตื้อง ทั้งปีตั้งเป้าโต 5% “เปรมกมลย์” อ้ำอึ้ง ผังใหม่จะผุดละครเพิ่มหรือไม่
วันนี้ (11 พ.ค.) อสมท ได้มีการแถลงข่าวผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2555 ขึ้น ซึ่งในวันนี้ถือเป็นวันแรกที่นายเปรมกมลย์ ทินกร ณ อยุธยา เข้ามาทำงานในฐานะรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ แทนนายจักรพันธุ์ ยมจินดา ที่ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวในวันก่อน
โดยนายเปรมกมลย์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกที่เข้ามาทำหน้าที่รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ดังนั้นจึงยังไม่สามารถตอบข้อซักถามได้มากนัก แต่ในภาพรวมแล้ว อสมท จะดำเนินงานไปตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ โดยเฉพาะผังรายการครึ่งปีหลังนั้นน่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ และจะเปิดเผยรายละเอียดได้ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้เช่นกัน ทั้งนี้ ในส่วนของรายการละครนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะนำมาเสริมในผังรายการหรือไม่ ขอกลับไปดูรายละเอียดก่อน ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการที่ดูแลการจัดผังรายการดังกล่าว ซึ่งแนวทางการจัดผังรายการนั้นจะคงยึดตามนโยบายของ อสมท กับความเป็นสังคมอุดมปัญญา
โทรทัศน์ต่ำเป้า 4% ในไตรมาสแรก
นายเจษฎา พรหมจาด หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน หรือ CFO บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมรายได้ของ อสมท ในไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา พบว่าทำได้ 1,312 ล้านบาท โตขึ้น 3% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยแบ่งรายได้ออกเป็นรายได้จากโทรทัศน์ 819 ล้านบาท ลดลง 4%, รายได้จากวิทยุ 197 ล้านบาท โตขึ้น 2%, รายได้จากการร่วมดำเนินกิจการ 237 ล้านบาท โตขึ้น 13%, รายได้จากผลประโยชน์นอกเหนือสัญญา 12 ล้านบาท และรายได้จากส่วนอื่นๆ อีก 47 ล้านบาท โตขึ้น 87% ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมมีกว่า 853 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ ที่ 356 ล้านบาท ลดลง 3% ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดของสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ เพิ่มจากร้อยละ 17 เป็นร้อยละ 21.8 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
สาเหตุที่รายได้โทรทัศน์ลดลง 4% เป็นผลจากรายได้โฆษณาที่รายการที่ อสมท ผลิตเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายการในช่วงนอนไพรม์ไทม์ในช่วงเช้า เช่น คุยโขมงยามเช้า และรายการการ์ตูน เป็นต้น และรายได้จากรายการข่าว และไทม์แชริ่งลดลง ยกเว้นละครซิตคอม และรายการเรียลิตี รวมถึงรายได้โฆษณาที่ลดลงเป็นผลต่อเนื่องจากไตรมาสสี่ปีก่อน
ด้านนายเขมทัตต์ พลเดช รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานการตลาดและการขาย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า จากแนวโน้มที่เกิดขึ้น เชืี่อว่ารายได้รวมในไตรมาสสองจะทำได้ดีกว่าไตรมาสแรก หรือน่าจะทำได้ตามเป้าที่วางไว้ 15% ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบแล้วรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของกลุ่มโทรทัศน์อาจจะยังตกอยู่บ้างก็ตาม
แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงกลางปีนี้เรามีบิ๊กอีเวนต์ใหญ่ อย่าง การแข่งขันฟุตบอลยูโร และโอลิมปิก ซึ่งทาง อสมท น่าจะสามารถหารายได้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้รายได้จากกลุ่มโทรทัศน์ทำได้ดีขึ้น ขณะที่ภาพรวมรายได้ทั้งปีนี้ของ อสมท ยังคงมองว่าจะเติบโตได้ที่ 5% โดยแนวโน้มการเติบโตมาจากกลุ่มนิวมีเดีย และการบูรณาการสื่อของ อสมท ที่จะทำได้ดียิ่งขึ้น
คลิป