xs
xsm
sm
md
lg

“SF” ลุยมอลล์ดาวน์ทาวน์ 3 พันล. ผุดโรงหนังอีก 3 แห่งคุมทั่ว กทม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ : credit รูป ThaiPR.net

“เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้” สยายปีกสู่ธุรกิจรีเทลชอปปิ้งมอลล์ หวังเสริมธุรกิจโรงหนังให้แข็งแกร่งขึ้น ทุ่ม 3,000 ล้านบาทผุดย่านดาวน์ทาวน์พื้นที่ 12 ไร่ เผยในกรุงเทพฯ คงเปิดโรงหนังอีก 3 สาขาก็เต็มตลาดแล้ว
 
นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด ผู้บริหารโรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟ กล่าวว่า บริษัทเตรียมขยายธุรกิจใหม่เป็นธุรกิจรีเทล เป็นศูนย์การค้าแนวใหม่หรือชอปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นธุรกิจขาที่สองของเอสเอฟ จากเดิมที่ทำธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นหลัก ทั้งโรงหนัง สายหนัง โบว์ลิ่ง คาราโอเกะ เป็นต้น และจะเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของเอสเอฟและตัวของสุวัฒน์เองด้วยจากที่บริหารเอสเอฟมานานกว่า 31 ปี เฉลี่ยลงทุนปีละ 1,000 ล้านบาทเท่านั้น

โดยปีนี้จะใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท มีทั้งเงินสดบริษัทและเงินกู้ เพื่อก่อสร้างชอปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่แนวใหม่ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างไตรมาสสองนี้และแล้วเสร็จเปิดบริการปีหน้า เป็นอาคารสูงหลายชั้น บนพื้นที่ 12 ไร่ใจกลางเมือง ซึ่งซื้อที่ดินมาแล้วยังเป็นที่ดินเปล่า จะเป็นมอลล์ที่มีทั้งเอนเตอร์เทนเมนต์ แฟชั่น อาหาร ไอที

“ในท้องตลาดก็เห็นมีแต่รายใหญ่อย่างกลุ่มเซ็นทรัลเท่านั้นที่มีการเปิดศูนย์การค้าใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งหากเราลงทุนเปิดเองบ้างก็จะเป็นการช่วยทำให้ธุรกิจโรงหนังของเราเติบโตตามไปด้วยและเร็วขึ้น เพราะทำเลดีๆ ในกรุงเทพฯ เริ่มหายากแล้ว และอีกอย่างคอนเซ็ปต์ของเราจะแตกต่างจากผู้ประกอบการพัฒนาศูนย์การค้ารายอื่นในตลาด เช่น บางรายก็จะเป็นแบบเช่าระยะสั้น บางรายก็จะเป็นคอมมูนิตีมอลล์เน้นทำเลเปิดอยู่ชานเมือง ส่วนของเราจะเป็นแบบชอปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่เน้นให้เช่าระยะยาว เรามั่นใจในระดับหนึ่งของทีมงานและประสบการณ์ของเราที่เคยทำแบบรีเทลให้เช่าพื้นที่มาแล้ว เช่นที่เอ็มบีเคเซ็นเตอร์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราได้พื้นที่มากถึง 28,000 ตารางเมตร เราก็บริหารพื้นที่ปล่อยให้ร้านค้ามาเช่าก็ประสบความสำเร็จ เพียงแต่โครงการใหม่นี้จะมีขนาดใหญ่มากขึ้นหลักแสนตารางเมตร”

อีกทั้งทำเลดีๆ หรือไพรม์แอเรียในกรุงเทพฯ ที่จะเปิดโรงหนังได้นั้นเหลือน้อยลงแล้ว ซึ่งในส่วนของเอสเอฟเองคาดว่าจะเปิดในกรุงเทพฯ ที่เป็นไพรม์แอเรียได้อีก 2-3 สาขาเท่านั้นก็ถือว่าครอบคลุมพื้นที่บริการได้แล้ว จากปัจจุบันมีสาขา 14 แห่งในกรุงเทพฯ รวม 126 โรง และมีอีก 13 สาขาใหญ่ในต่างจังหวัดรวม 68 โรง ซึ่งการลงทุนสร้างชอปปิ้งมอลล์เองเป็นการสปีดการขยายตัวได้ส่วนหนึ่งด้วย

ส่วนแผนการลงทุนสร้างโรงหนังปีนี้มี 7 สาขา เปิดแล้ว 2 แห่งที่สุพรรณบุรี กับอุบลราชธานี ส่วนที่เหลืออีก 5 แห่ง คือที่ สุราษฎร์ธานี 7 โรง, มหาสารคาม 5 โรง, ลำปาง 4 โรง, อุดรธานี 8 โรง, ลพบุรี 5 โรง ส่วนปีที่แล้วเปิด 2 สาขาใหญ่ในกรุงเทพฯ คือ ตึกเทอร์มินัล 21 และที่เซ็นทรัลพระราม 9 ปีหน้าคาดว่าจะมีที่โคราช เป็นต้น คาดว่าอีก 3 ปีก็คงจะขยายครอบคลุมทั่วประเทศ

สำหรับผลประกอบการปีนี้ของเอสเอฟคาดว่าจะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีที่แล้ว จากปกติจะเติบโตเฉลี่ย 15-20% เนื่องมาจากรายได้สาขาใหม่ที่เทอร์มินัล 21 กับพระราม 9 จะเต็มปี อีกทั้งหน้าหนังในปีนี้ก็เป็นหนังทำเงินทั้งสิ้นและเป็นหนังภาคต่อ เช่น สไปเดอร์แมน พระนเรศวรมหาราช เมนอินแบล็ก ดิแอดเวนเจอร์ ทไวไลต์ มาดากัสการ์ เป็นต้น

กำลังโหลดความคิดเห็น