“โอบองแปง” ชูแผนแอ็กเกรสซีฟ หลังทุนใหม่ “ทรัพย์ศรีไทย” เป็นเจ้าของใส่เกียร์เร่งเปิดสาขาใหม่เพิ่มเป็น 9 แห่งต่อปี จากเดิมแค่ 3 สาขาต่อปีเท่านั้น พร้อมเป้าเติบโต 20% แย้มอนาคตมีแนวโน้มเพิ่มแบรนด์อาหารใหม่อีก ชี้ต้นทุนขึ้นขยับราคา 3%
นายนาดีม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอบีพี คาเฟ่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านโอบองแปง และบริษัท โกลเด้น โดนัทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านดังกิ้นโดนัท เปิดเผยว่า จากนี้ไปบริษัทฯ มีแผนธุรกิจของทั้งสองแบรนด์ในเชิงรุกมากขึ้น หลังจากที่กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามาเป็นเจ้าของเมื่อไม่นานนี้ คือ กลุ่มบริษัททรัพย์ศรีไทย ซึ่งธุรกิจอาหารมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 60% ของบริษัทแม่
รวมทั้งในอนาคตมีนโยบายที่จะขยายธุรกิจในแบรนด์ใหม่ๆ มากขึ้นด้วยตามการเติบโตของธุรกิจอาหารในไทย ซึ่งมีโอกาสอย่างมาก อาจจะเป็นไปได้ในหลายรูปแบบทั้งการสร้างแบรนด์ขึ้นมาเอง การเทกโอเวอร์ซื้อกิจการ หรือการซื้อแฟรนไชส์ เนื่องจากผู้บริหารก็มีประสบการณ์ในธุรกิจอาหารมานาน อีกทั้งกลุ่มเจ้าของใหม่ก็มีทุนในการขยายธุรกิจเต็มที่และสร้างให้เป็นธุรกิจยั่งยืนด้วย แต่ทั้งนี้เป็นแผนในระยะยาว
สำหรับธุรกิจโอบองแปง จากนี้วางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ไม่ต่ำกว่า 6 สาขาต่อปี จากเดิมที่เปิดสาขาใหม่เฉลี่ย 3 สาขาต่อปีเท่านั้น ขณะที่แผนปีนี้จะเปิดสาขาใหม่มากถึง 9 สาขาซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยทำมาในไทย ลงทุนต่อสาขาเฉลี่ย 5 ล้านบาท เน้นการเปิดสาขาในกรุงเทพฯ ตามทำเลหลักและทำเลรองในทุกพื้นที่ ทั้งศูนย์การค้า โรงพยาบาล และสแตนด์อะโลน เป็นต้น โดยตั้งแต่ต้นปีมานี้เปิดใหม่แล้ว 2 สาขา คือที่โครงการเรนฮิลล์ สุขุมวิท 47 และที่โครงการเอเซียทีค ถนนเจริญกรุง
อย่างไรก็ตาม รูปแบบสแตนด์อะโลนในช่วง 2-3 ปีมานี้บริษัทฯ เปิดหลายแห่งเช่นกันเพราะได้ทำเลที่มีศักยภาพ เช่น ที่พื้นที่ของโรงแรมแอมบาสซาเดอร์หน้าซอยสุขุมวิท 11 ที่จะเปิดเร็วๆนี้ หรือที่เรนฮิลล์ เป็นต้น ส่วนสาขาใหม่ที่จะเปิดเดือนนี้ คือ พรอเมนาด แฟชั่นไอส์แลนด์ โรงพยาบาลเจ้าพระยา
“ตอนนี้โอบองแปงเป็นธุรกิจที่ถึงจุดคุ้มทุนแล้ว มีโอกาสอย่างมาก และตอนนี้เป็นช่วงที่ต้องขยายธุรกิจรองรับการเติบโต ถ้าไม่ลงทุนมากตอนนี้ก็จะเสียโอกาสอย่างมาก เจ้าของใหม่ก็มีความเห็นพ้องจึงอนุมัติแผนการลงทุน” นายนาดีมกล่าว
ปัจจุบันมีสาขาโอบองแปงประมาณ 47 สาขา (มีต่างจังหวัด 2 แห่งคือที่พัทยา 3 สาขา และ ภูเก็ต 2 สาขา) หลังจากเปิดบริการมานาน 15 ปีในไทย และคาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีสาขารวม 55 แห่ง ซึ่งโอบองแปงไทยถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด และเป็นธุรกิจที่มีความแข็งแรงมากที่สุดของโอบองแปงในต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้รับสิทธิเฉพาะตลาดในประเทศไทยเท่านั้น ยังไม่มีการเจรจากับบริษัทแม่เพื่อขอสิทธิในประเทศอื่นเพิ่มเติม
ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 20% ขณะที่ปี 2554 มีอัตราการเติบโต 25% จากปี 2553 ซึ่งเฉลี่ยที่ผ่านมาเติบโตปีละ 10-15% โดยสัดส่วนลูกค้าาขณะนี้เป็นคนไทย 50% เท่ากับต่างชาติ แต่มีความต้องการที่จะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าคนไทยมากขึ้น ด้วยแผนการตลาดที่ปรับทั้งเมนู รสชาติให้มีความหลากหลายเหมาะสมกับคนไทยมากขึ้น
สำหรับปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นนั้น นายนาดีมกล่าวว่า ที่ผ่านมาต้นทุนสูงขึ้นตลอดทั้งค่าลอจิสติกส์ประมาณ 15% ค่าวัตถุดิบอาหารประมาณ 7% รวมทั้งค่าแรงงานขั้นต่ำเพิ่มเป็น 300 บาท และค่าเชื้อเพลิงอีก ซึ่งช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ปรับราคาขึ้นไปแล้วแต่น้อยมากแค่ 2-3% เท่านั้น