“แด๊ดดี้โด” เสริมแกร่ง แบรนด์โดนัทพันธุ์ไทยแท้ ซุ่มรุกต่างประเทศ คาดสิ้นปีนี้ สรุปรูปแบบลงทุนได้ เล็งสิงคโปร์เป้าหมายแรก พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ปีนี้เสริมทัพ ตั้งเป้าปีนี้ขยายแด๊ดดี้โดอีก 9 สาขา ดันรายได้รวมเติบโต 15%
นายปีเตอร์ ทวีผลเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แด๊ดดี้ โด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้าน โดนัท แด๊ดดี้ โด แบรนด์ของคนไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจ ร้านโดนัทแด๊ดดี้โดไปต่างประเทศ ซึ่งรูปแบบอาจจะมีทั้งการ ลงทุนเอง หรือการขายแฟรนไชส์ หรือขายมาสเตอร์แฟรนไชส์ หรือการร่วมลงทุน โดยตลาดที่สนใจในเบื้องต้น คือ สิงคโปร์และเวียดนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา กับผู้ที่สนใจลงทุน คาดว่า แผนงานดังกล่าวจะสามารถสรุปรายละเอียดรูปแบบและผู้สนใจได้ประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า และประเทศแรกที่จะลงทุนคาดว่าเป็นสิงคโปร์
“การขยายธุรกิจดังกล่าวเพื่อสร้างการเติบโตให้กับองค์กร ในขณะที่ตลาดโดนัทในประเทศไทยก็ยังไปได้ดี ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคคนไทยยังให้การตอบรับ ตลาดโดนัทอยูา ซึ่งคาดว่าในปีนี้ตลาดรวมโดนัทในไทย จะมีมูลค่าประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท หรือเติบโต 10-15%”
ทั้งนี้ บริษัททำธุรกิจโดนัทและสร้างแบรนด์แด๊ดดี้โดมาประมาณ 5 ปีแล้ว พบว่า ประสบความสำเร็จตามแผนที่วางไว้ และมียอดขายเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงหลังจะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ตลาดหลายแบรนด์ โดยเฉพาะอินเตอร์แบรนด์ รวมทั้งแบรนด์เก่า ก็มีการทำตลาดต่อเนื่อง และการแข่งขันก็ค่อนข้างสูงก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ส่งผล กระทบต่อธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด เพราะบริษัทชูจุดแข็งการเป็นโดนัทของคนไทยและวิธีการทำที่ใช้ น้ำมันที่เป็นทรานแฟท ทานแล้วจะไม่อ้วน และมีช็อกโกแลตแท้เป็นส่วนผสม ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า
นอกจากนั้น ในปีนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตัวธุรกิจอาหาร เป็นกลุ่มเบเกอรี่เช่นเดียวกัน แบรนด์ใหม่ที่เป็นซับแบรนด์ ของ แด๊ดดี้ โด และเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่อีก 1 แบรนด์ เข้ามาทำตลาดด้วย
สำหรับแผนธุรกิจแด๊ดดี้โดในไทยปีนี้ จะขยายสาขาต่อเนื่องเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ โดยคาดว่า จะเปิดสาขาเพิ่มประมาณ 9 สาขา แบ่งเป็การลงทุนเองประมาณ 3 สาขา ใช้เงินลงทุนประมาณ 1.5-2 ล้านบาท และขายแฟรนไชส์ประมาณ 6 สาขา ใช้งบลงทุนสาขา ละประมาณ 2.3-2.5 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีร้าน แด๊ดดี้โด เปิดให้บริการรวมในไทย 30 สาขาทั่วประเทศ
ขณะที่แผนการตลาด จะใช้งบประมาณ 3% จากยอดขาย เพื่อทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง และจะเปิดตัว โดนัท รสชาติใหม่ เข้ามาทำตลาดตามเทศกาลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น เทศกาลวาเลนไทน์ จากปัจจุบันมีโดนัท จำนวน 42 หน้า
นายปีเตอร์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาของธุรกิจโดนัทขณะนี้ คือ เรื่องต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นอันเนื่องมาจากวัตถุดิบต่างๆ ที่มีราคาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมันปาล์มที่แพง และขาดแคลน รวมถึงต้นทุนจากแป้งสาลี และน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ทั้งนี้ บริษัทยังไม่มี นโยบายปรับราคาขายโดนัท เพราะจะกระทบต่อผู้บริโภคโดยจะตรึงราคาเดิมไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้ คาดว่า ในสิ้นปีนี้จะมียอดขายประมาณ 120 ล้านบาท เติบโต 10-15% จากปีที่แล้ว
นายปีเตอร์ ทวีผลเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แด๊ดดี้ โด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้าน โดนัท แด๊ดดี้ โด แบรนด์ของคนไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจ ร้านโดนัทแด๊ดดี้โดไปต่างประเทศ ซึ่งรูปแบบอาจจะมีทั้งการ ลงทุนเอง หรือการขายแฟรนไชส์ หรือขายมาสเตอร์แฟรนไชส์ หรือการร่วมลงทุน โดยตลาดที่สนใจในเบื้องต้น คือ สิงคโปร์และเวียดนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา กับผู้ที่สนใจลงทุน คาดว่า แผนงานดังกล่าวจะสามารถสรุปรายละเอียดรูปแบบและผู้สนใจได้ประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า และประเทศแรกที่จะลงทุนคาดว่าเป็นสิงคโปร์
“การขยายธุรกิจดังกล่าวเพื่อสร้างการเติบโตให้กับองค์กร ในขณะที่ตลาดโดนัทในประเทศไทยก็ยังไปได้ดี ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคคนไทยยังให้การตอบรับ ตลาดโดนัทอยูา ซึ่งคาดว่าในปีนี้ตลาดรวมโดนัทในไทย จะมีมูลค่าประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท หรือเติบโต 10-15%”
ทั้งนี้ บริษัททำธุรกิจโดนัทและสร้างแบรนด์แด๊ดดี้โดมาประมาณ 5 ปีแล้ว พบว่า ประสบความสำเร็จตามแผนที่วางไว้ และมียอดขายเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงหลังจะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ตลาดหลายแบรนด์ โดยเฉพาะอินเตอร์แบรนด์ รวมทั้งแบรนด์เก่า ก็มีการทำตลาดต่อเนื่อง และการแข่งขันก็ค่อนข้างสูงก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ส่งผล กระทบต่อธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด เพราะบริษัทชูจุดแข็งการเป็นโดนัทของคนไทยและวิธีการทำที่ใช้ น้ำมันที่เป็นทรานแฟท ทานแล้วจะไม่อ้วน และมีช็อกโกแลตแท้เป็นส่วนผสม ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า
นอกจากนั้น ในปีนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตัวธุรกิจอาหาร เป็นกลุ่มเบเกอรี่เช่นเดียวกัน แบรนด์ใหม่ที่เป็นซับแบรนด์ ของ แด๊ดดี้ โด และเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่อีก 1 แบรนด์ เข้ามาทำตลาดด้วย
สำหรับแผนธุรกิจแด๊ดดี้โดในไทยปีนี้ จะขยายสาขาต่อเนื่องเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ โดยคาดว่า จะเปิดสาขาเพิ่มประมาณ 9 สาขา แบ่งเป็การลงทุนเองประมาณ 3 สาขา ใช้เงินลงทุนประมาณ 1.5-2 ล้านบาท และขายแฟรนไชส์ประมาณ 6 สาขา ใช้งบลงทุนสาขา ละประมาณ 2.3-2.5 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีร้าน แด๊ดดี้โด เปิดให้บริการรวมในไทย 30 สาขาทั่วประเทศ
ขณะที่แผนการตลาด จะใช้งบประมาณ 3% จากยอดขาย เพื่อทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง และจะเปิดตัว โดนัท รสชาติใหม่ เข้ามาทำตลาดตามเทศกาลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น เทศกาลวาเลนไทน์ จากปัจจุบันมีโดนัท จำนวน 42 หน้า
นายปีเตอร์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาของธุรกิจโดนัทขณะนี้ คือ เรื่องต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นอันเนื่องมาจากวัตถุดิบต่างๆ ที่มีราคาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมันปาล์มที่แพง และขาดแคลน รวมถึงต้นทุนจากแป้งสาลี และน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ทั้งนี้ บริษัทยังไม่มี นโยบายปรับราคาขายโดนัท เพราะจะกระทบต่อผู้บริโภคโดยจะตรึงราคาเดิมไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้ คาดว่า ในสิ้นปีนี้จะมียอดขายประมาณ 120 ล้านบาท เติบโต 10-15% จากปีที่แล้ว