ASTVผู้จัดการรายวัน - “สุทธิเกียรติ” โว แผน 5 ปี CENTEL โตต่อเนื่อง รายได้แตะ 1.4 หมื่นล้านบาท เน้นลดความเสี่ยง แตก 2 บริษัทลูก รับบริหาร สปา และ คอนแวนชั่น ด้านธุรกิจอาหาร เร่งศึกษา เปิดตลาดต่างประเทศนำร่องกลุ่มอาเซียน หวัง 5 ปีหน้า แตะ 1,000 สาขา
นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL และโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เปิดเผยว่า แผนงาน 5 ปีจากนี้ จะเน้น 2 ด้าน คือ 1.ด้านการขยายธุรกิจโรงแรม จะเน้นการรับบริหารและร่วมลงทุนมากกว่าการลงทุนเอง ในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจและจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียน จีน ศรีลังกา และอินเดีย ขณะที่ธุรกิจอาหารได้มอบนโยบายให้ศึกษาการออกไปลงทุนในต่างประเทศเช่นเดียวกัน เช่น แบรนด์ มิสเตอร์โดนัท 2. ด้านการเงิน ลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่ถึง 1 เท่า ใน 5 ปี จากปัจจุบัน อยู่ที่ 1.33เท่าลดลงจากปีก่อนซึ่งมี 1.6 เท่า โดยจะใช้เงินลงทุนเท่าที่จำเป็น สร้างรายได้จากการรับบริหารเป็นหลัก(Asset Light) เพื่อสร้างสภาพคล่อง แต่มีความสนใจลงทุนธุรกิจคอนโดมิเนียม และยังสนใจเข้าประมูลสิทธิ์บริหารศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.เชียงใหม่
รายได้รวม CENTEL (โรงแรมและอาหาร) ปี 2554 มีมูลค่า 11,474 ล้านบาท เติบโต 22% หรือ กว่า 2,000 ล้านบาท จากปี 2554 พลิกฟื้นจากขาดทุน 56 ล้านบาท เป็นมีกำไรสุทธิ 550 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรม 43% หรือ 4,900 ล้านบาท และธุรกิจอาหาร 57% หรือกว่า 6,500 ล้านบาท มีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ดอกเบี้ย และภาษี(EBIDA) มูลค่า 2,300 ล้านบาท เพิ่ม 42% เทียบกับปี 2554 โดยกว่า 1,200 ล้านบาท หรือ 54% มาจากธุรกิจโรงแรม และ 46% หรือกว่า 1,000 ล้านบาท มาจากธุรกิจอาหาร ตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีนับจากนี้ หรือ ปี 2559 CENTEL จะมีรายได้รวม ใกล้ 20,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 10% เป็นรายได้จากธุรกิจอาหาร 64% อีก 36% มาจากธุรกิจโรงแรม แต่กำไรสุทธิจะมาจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารอย่างละ 50%
นายสุภรัฐ จิราธิวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทาราอินเตอร์เนชั่นแนล แมเนจเมนต์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังหาวิธีเพิ่มรายได้ด้วยการเปิด 2 บริษัทลูกในการสร้างรายได้เพิ่ม คือ 1.บริษัท เซ็นทรัล คอนเวนชั่น แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจ รับบริหารพื้นที่จัดงานคอนเวนชั่นและเอ็กซิบิชั่น และ 2.บริษัท สปาเซนวารี จำกัด รับบริหารสปาให้แก่โรงแรมและผู้สนใจต่างๆ มองว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคต โดยสปาจะมีทั้งรูปแบบ รับบริหารและขายแฟรนไชส์ ส่วนโรงแรมราคาประหยัดเร็วๆนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป็นโรงแรมขนาด 100 ห้องขึ้นไป
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและบริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า เป้าหมายปี 2555 ของ CENTEL จะมีรายได้รวม 13,700 ล้านบาท เติบโต 20% แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรม 40% และธุรกิจอาหาร 60% โดยธุรกิจอาหาร จะมีอัตราเติบโตของรายได้สูงกว่าโรงแรม เป็นเพราะจากการเข้าซื้อกิจการ Ootoya และภายใต้สมมุติฐานว่ายังไม่มีการสร้างโรงแรมใหม่ที่เป็นของบริษัทเอง โดยปี 2559 สัดส่วนธุรกิจโรงแรม ต่อธุรกิจอาหาร จะเป็น 36:64 แต่กำไร ธุรกิจโรงแรมต่อ ธุรกิจอาหารจะสัดส่วน 50% เท่าๆกัน ในปี 2559 คาดจำนวนโรงแรมภายใต้ เซ็นทารา จะเติบโต 3 เท่าของปัจจุบัน เพราะ 80% จะเป็นกลยุทธ์ Light Assetคือรับบริหารมากกว่าลงทุนเอง เพราะค่าบริหารจะมีกำไรสุทธิสูง และจะมีสัดส่วนโรงแรมเซ็นทาราในต่างประเทศเกือบ 40% ของจำนวนโรงแรมเซ็นทาราทั้งหมด ส่วนธุรกิจอาหารในปี 2559 จะมี 16 แบรนด์ กว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ โดยจะมีแบรนด์ใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 1 แบรนด์ จากปัจจุบันมี 12 แบรนด์ กว่า 603สาขา และจะเพิ่มเป็น 660 สาขาในปีนี้
นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายบริหารโครงการ โรงแรม และรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า รายได้ของธุรกิจนับจากนี้ไป 5 ปี จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 14% ในปี 2554รายได้เฉลี่ยต่อห้องเพิ่มขึ้น 18% เป็นการเพิ่มจากจำนวนแขกเข้าพัก และค่าห้องพักมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 64% ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้คาดจะเพิ่มเป็น 75% บริษัทมีรายได้จากรับบริหารโรงแรม 133 ล้านบาทในปี 2554 โตจากปีก่อนหน้ากว่า 22% ปี 2555 คาดรายได้จากธุรกิจโรงแรม จะเพิ่มเป็น 5,500 ล้านบาท ตัวขับเคลื่อนหลักจะมาจากโรงแรม ในกรุงเทพฯ พัทยา และ ภูเก็ต
ส่วนรายได้จากรับบริหารจะเติบโต 35% หรือมีรายได้เพิ่มมาอยู่ที่ 180 ล้านบาท โดยปีนี้มีโรงแรมใหม่ที่จะเข้าไปบริหารรวม 11 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศ 6 แห่ง ต่างประเทศ 5 แห่ง รวม 1,759 ห้อง ทั้งนี้รายได้ที่เกิดขึ้นยังไม่นับรวมรายได้ที่จะเกิดจากการเข้าไปถือหุ้นเพิ่มอีก34% รวมเป็นถือหุ้น 84% ในโรงแรม เซ็นทารากะรน รีสอร์ท ภูเก็ต จากกลุ่ม Lehman Brothers
“เซ็นทาราที่จะเปิดในปีนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ เซ็นทารา แอชลี ป่าตอง, เซ็นทราทวมเซมิยัน บาหลี , เซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ และ เซ็นทราเซ็นทรัลสเตชั่น กรุงเทพฯ ซึ่งจะเห็นว่า การขยายธุรกิจของบริษัทจะเน้นโรงแรมระดับ 4 ดาว เป็นเซ็กเมนต์ใหญ่สุด ดีมานด์สูงสุด เจาะนักท่องเที่ยวจากประเทศรัสเซีย อินเดีย จีน และออสเตรเลีย ซึ่งเติบโตสูง”
นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL และโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เปิดเผยว่า แผนงาน 5 ปีจากนี้ จะเน้น 2 ด้าน คือ 1.ด้านการขยายธุรกิจโรงแรม จะเน้นการรับบริหารและร่วมลงทุนมากกว่าการลงทุนเอง ในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจและจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียน จีน ศรีลังกา และอินเดีย ขณะที่ธุรกิจอาหารได้มอบนโยบายให้ศึกษาการออกไปลงทุนในต่างประเทศเช่นเดียวกัน เช่น แบรนด์ มิสเตอร์โดนัท 2. ด้านการเงิน ลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่ถึง 1 เท่า ใน 5 ปี จากปัจจุบัน อยู่ที่ 1.33เท่าลดลงจากปีก่อนซึ่งมี 1.6 เท่า โดยจะใช้เงินลงทุนเท่าที่จำเป็น สร้างรายได้จากการรับบริหารเป็นหลัก(Asset Light) เพื่อสร้างสภาพคล่อง แต่มีความสนใจลงทุนธุรกิจคอนโดมิเนียม และยังสนใจเข้าประมูลสิทธิ์บริหารศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.เชียงใหม่
รายได้รวม CENTEL (โรงแรมและอาหาร) ปี 2554 มีมูลค่า 11,474 ล้านบาท เติบโต 22% หรือ กว่า 2,000 ล้านบาท จากปี 2554 พลิกฟื้นจากขาดทุน 56 ล้านบาท เป็นมีกำไรสุทธิ 550 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรม 43% หรือ 4,900 ล้านบาท และธุรกิจอาหาร 57% หรือกว่า 6,500 ล้านบาท มีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ดอกเบี้ย และภาษี(EBIDA) มูลค่า 2,300 ล้านบาท เพิ่ม 42% เทียบกับปี 2554 โดยกว่า 1,200 ล้านบาท หรือ 54% มาจากธุรกิจโรงแรม และ 46% หรือกว่า 1,000 ล้านบาท มาจากธุรกิจอาหาร ตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีนับจากนี้ หรือ ปี 2559 CENTEL จะมีรายได้รวม ใกล้ 20,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 10% เป็นรายได้จากธุรกิจอาหาร 64% อีก 36% มาจากธุรกิจโรงแรม แต่กำไรสุทธิจะมาจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารอย่างละ 50%
นายสุภรัฐ จิราธิวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทาราอินเตอร์เนชั่นแนล แมเนจเมนต์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังหาวิธีเพิ่มรายได้ด้วยการเปิด 2 บริษัทลูกในการสร้างรายได้เพิ่ม คือ 1.บริษัท เซ็นทรัล คอนเวนชั่น แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจ รับบริหารพื้นที่จัดงานคอนเวนชั่นและเอ็กซิบิชั่น และ 2.บริษัท สปาเซนวารี จำกัด รับบริหารสปาให้แก่โรงแรมและผู้สนใจต่างๆ มองว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคต โดยสปาจะมีทั้งรูปแบบ รับบริหารและขายแฟรนไชส์ ส่วนโรงแรมราคาประหยัดเร็วๆนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป็นโรงแรมขนาด 100 ห้องขึ้นไป
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและบริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า เป้าหมายปี 2555 ของ CENTEL จะมีรายได้รวม 13,700 ล้านบาท เติบโต 20% แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรม 40% และธุรกิจอาหาร 60% โดยธุรกิจอาหาร จะมีอัตราเติบโตของรายได้สูงกว่าโรงแรม เป็นเพราะจากการเข้าซื้อกิจการ Ootoya และภายใต้สมมุติฐานว่ายังไม่มีการสร้างโรงแรมใหม่ที่เป็นของบริษัทเอง โดยปี 2559 สัดส่วนธุรกิจโรงแรม ต่อธุรกิจอาหาร จะเป็น 36:64 แต่กำไร ธุรกิจโรงแรมต่อ ธุรกิจอาหารจะสัดส่วน 50% เท่าๆกัน ในปี 2559 คาดจำนวนโรงแรมภายใต้ เซ็นทารา จะเติบโต 3 เท่าของปัจจุบัน เพราะ 80% จะเป็นกลยุทธ์ Light Assetคือรับบริหารมากกว่าลงทุนเอง เพราะค่าบริหารจะมีกำไรสุทธิสูง และจะมีสัดส่วนโรงแรมเซ็นทาราในต่างประเทศเกือบ 40% ของจำนวนโรงแรมเซ็นทาราทั้งหมด ส่วนธุรกิจอาหารในปี 2559 จะมี 16 แบรนด์ กว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ โดยจะมีแบรนด์ใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 1 แบรนด์ จากปัจจุบันมี 12 แบรนด์ กว่า 603สาขา และจะเพิ่มเป็น 660 สาขาในปีนี้
นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายบริหารโครงการ โรงแรม และรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า รายได้ของธุรกิจนับจากนี้ไป 5 ปี จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 14% ในปี 2554รายได้เฉลี่ยต่อห้องเพิ่มขึ้น 18% เป็นการเพิ่มจากจำนวนแขกเข้าพัก และค่าห้องพักมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 64% ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้คาดจะเพิ่มเป็น 75% บริษัทมีรายได้จากรับบริหารโรงแรม 133 ล้านบาทในปี 2554 โตจากปีก่อนหน้ากว่า 22% ปี 2555 คาดรายได้จากธุรกิจโรงแรม จะเพิ่มเป็น 5,500 ล้านบาท ตัวขับเคลื่อนหลักจะมาจากโรงแรม ในกรุงเทพฯ พัทยา และ ภูเก็ต
ส่วนรายได้จากรับบริหารจะเติบโต 35% หรือมีรายได้เพิ่มมาอยู่ที่ 180 ล้านบาท โดยปีนี้มีโรงแรมใหม่ที่จะเข้าไปบริหารรวม 11 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศ 6 แห่ง ต่างประเทศ 5 แห่ง รวม 1,759 ห้อง ทั้งนี้รายได้ที่เกิดขึ้นยังไม่นับรวมรายได้ที่จะเกิดจากการเข้าไปถือหุ้นเพิ่มอีก34% รวมเป็นถือหุ้น 84% ในโรงแรม เซ็นทารากะรน รีสอร์ท ภูเก็ต จากกลุ่ม Lehman Brothers
“เซ็นทาราที่จะเปิดในปีนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ เซ็นทารา แอชลี ป่าตอง, เซ็นทราทวมเซมิยัน บาหลี , เซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ และ เซ็นทราเซ็นทรัลสเตชั่น กรุงเทพฯ ซึ่งจะเห็นว่า การขยายธุรกิจของบริษัทจะเน้นโรงแรมระดับ 4 ดาว เป็นเซ็กเมนต์ใหญ่สุด ดีมานด์สูงสุด เจาะนักท่องเที่ยวจากประเทศรัสเซีย อินเดีย จีน และออสเตรเลีย ซึ่งเติบโตสูง”