กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินสายบุกอีสาน ส่งเสริมให้ธุรกิจมีธรรมาภิบาลเพื่อสร้างความเข้ม
แข็งและความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ
นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 25-26 เมษายน 2555 กรมฯ ได้จัดอบรมเรื่อง “พัฒนาความรู้มุ่งสู่ธรรมาภิบาลและเสริมสร้างคุณภาพสำนักงานบัญชี” ณ โรงแรมสุนีย์ แกรนด์ โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี และผู้ที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ ความเข้าใจหน้าที่ตามกฎหมาย ภายใต้การกำกับดูแลของกรมฯ และเพื่อยกระดับสำนักงานบัญชีให้มีมาตรฐานตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เห็นความสำคัญของการรับรองคุณภาพสำนักงานบัญชี และยังเป็นโอกาสดีที่ผู้เข้าอบรมจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติ พร้อมทั้งซักถามปัญหาต่างๆ ต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง อีกทั้งจะได้ทราบถึงการปรับปรุงกฎหมายของกรมฯ เพื่อส่งเสริมและสร้างธรรมาภิบาลทางธุรกิจ เช่น กฎหมายหุ้นส่วนบริษัท ที่จะช่วยให้การจดทะเบียนเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส สร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีธรรมาภิบาล และคุ้มครองผู้มีส่วนได้เสียอย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้ ในปัจจุบันกรมฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ด้านการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน รวมทั้งปรับปรุงพัฒนากระบวนการให้บริการของภาครัฐ เพื่อสนับสนุนองค์ประกอบทางการค้าให้สะดวก รวดเร็ว และลดภาระค่าใช้จ่าย รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในเวทีระดับสากลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในการกำกับดูแลธุรกิจให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและมีธรรมาภิบาลนับเป็นพันธกิจที่สำคัญของกรมฯ ซึ่งปัจจุบันมีนิติบุคคลจดทะเบียน (2455-2554) จัดตั้งจำนวน 1,045,946 ราย เป็นนิติบุคคลที่คงอยู่จำนวน 507,375 ราย และจดทะเบียนจัดตั้งใหม่จำนวน 55,403 ราย ซึ่งจะต้องส่งเสริมและกำกับดูแลให้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 9 ฉบับที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ขณะเดียวกัน ยังได้มุ่งเน้นความเป็นมืออาชีพด้านบริการสร้างธรรมาภิบาลและมาตรฐานธุรกิจไทย ดังนั้น จึงมีภารกิจและบทบาทหน้าที่สำคัญในการกำกับดูแลให้ผู้ประกอบธุรกิจปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายที่กรมฯ รับผิดชอบ โดยการกำกับดูแลนับเป็นภารกิจเชิงรุกที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแนะนำและป้องกันให้ผู้ประกอบการตระหนัก และให้ความสำคัญในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งผลักดันให้เกิดธรรมาภิบาลที่ดีอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนแก่ผู้ประกอบธุรกิจ โดยการกำกับดูแลตรวจสอบมักจะพบประเด็นปัญหาข้อบกพร่องหลายประการ ซึ่งอาจเกิดจากผู้ประกอบธุรกิจขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องกฎหมาย
แข็งและความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ
นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 25-26 เมษายน 2555 กรมฯ ได้จัดอบรมเรื่อง “พัฒนาความรู้มุ่งสู่ธรรมาภิบาลและเสริมสร้างคุณภาพสำนักงานบัญชี” ณ โรงแรมสุนีย์ แกรนด์ โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี และผู้ที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ ความเข้าใจหน้าที่ตามกฎหมาย ภายใต้การกำกับดูแลของกรมฯ และเพื่อยกระดับสำนักงานบัญชีให้มีมาตรฐานตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เห็นความสำคัญของการรับรองคุณภาพสำนักงานบัญชี และยังเป็นโอกาสดีที่ผู้เข้าอบรมจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติ พร้อมทั้งซักถามปัญหาต่างๆ ต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง อีกทั้งจะได้ทราบถึงการปรับปรุงกฎหมายของกรมฯ เพื่อส่งเสริมและสร้างธรรมาภิบาลทางธุรกิจ เช่น กฎหมายหุ้นส่วนบริษัท ที่จะช่วยให้การจดทะเบียนเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส สร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีธรรมาภิบาล และคุ้มครองผู้มีส่วนได้เสียอย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้ ในปัจจุบันกรมฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ด้านการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน รวมทั้งปรับปรุงพัฒนากระบวนการให้บริการของภาครัฐ เพื่อสนับสนุนองค์ประกอบทางการค้าให้สะดวก รวดเร็ว และลดภาระค่าใช้จ่าย รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในเวทีระดับสากลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในการกำกับดูแลธุรกิจให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและมีธรรมาภิบาลนับเป็นพันธกิจที่สำคัญของกรมฯ ซึ่งปัจจุบันมีนิติบุคคลจดทะเบียน (2455-2554) จัดตั้งจำนวน 1,045,946 ราย เป็นนิติบุคคลที่คงอยู่จำนวน 507,375 ราย และจดทะเบียนจัดตั้งใหม่จำนวน 55,403 ราย ซึ่งจะต้องส่งเสริมและกำกับดูแลให้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 9 ฉบับที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ขณะเดียวกัน ยังได้มุ่งเน้นความเป็นมืออาชีพด้านบริการสร้างธรรมาภิบาลและมาตรฐานธุรกิจไทย ดังนั้น จึงมีภารกิจและบทบาทหน้าที่สำคัญในการกำกับดูแลให้ผู้ประกอบธุรกิจปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายที่กรมฯ รับผิดชอบ โดยการกำกับดูแลนับเป็นภารกิจเชิงรุกที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแนะนำและป้องกันให้ผู้ประกอบการตระหนัก และให้ความสำคัญในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งผลักดันให้เกิดธรรมาภิบาลที่ดีอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนแก่ผู้ประกอบธุรกิจ โดยการกำกับดูแลตรวจสอบมักจะพบประเด็นปัญหาข้อบกพร่องหลายประการ ซึ่งอาจเกิดจากผู้ประกอบธุรกิจขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องกฎหมาย