กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผลักดันธรรมาภิบาลธุรกิจให้ผู้ประกอบการเตรียมมอบรางวัลธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่นให้แก่ 9 ธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์ 3 พฤษภาคมนี้ ตอกย้ำความโปร่งใส ถูกต้อง ตามหลักธรรมาภิบาล
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในปี 2554 ที่มุ่งเน้นให้ธุรกิจมีการเจริญเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน โดยกำหนดให้เป็น “ปีแห่งการสร้างสรรค์และธรรมาภิบาลธุรกิจ” จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินการจัดประกวดธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่นขึ้น เพื่อคัดเลือกผู้ประกอบธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาเข้ารับรางวัลธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่นประจำปี 2554 (DBD Corporate Governance Awards : DBD CG AWARDS) และจะมีพิธีมอบรางวัลในวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2555 ณ ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชั้น 6 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
การมอบรางวัลธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่น ประจำปี 2554 (DBD CG AWARDS) จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เนื่องจากต้องการกระตุ้นให้ผู้ประกอบธุรกิจเกิดความตระหนัก ตื่นตัว และมีจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงผลักดันให้ธุรกิจนำหลักธรรมาภิบาลไปปรับใช้ในการประกอบกิจการ สำหรับธุรกิจที่ได้รับการคัดเลือกต้องมีคุณสมบัติผ่านหลักเกณฑ์ตามที่กรมฯ กำหนด โดยหลักเกณฑ์การตัดสินได้ผ่านการพิจารณาและกลั่นกรองจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาชีพต่างๆ ที่ให้เกียรติร่วมเป็นคณะกรรมการ ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าว ประกอบด้วย หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า อันจะส่งผลให้เกิดความภาคภูมิใจแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับรางวัล รวมทั้งเป็นแบบอย่าง และแนวทางที่ดีเพื่อให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องนำไปปรับใช้ ตลอดจนสามารถสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวต่อไปว่า นอกจากแนวทางการส่งเสริมธุรกิจให้เติบโตอย่างมีธรรมาภิบาลแล้ว ยังมอบหมายให้มีการส่งเสริมพัฒนาความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบธุรกิจในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลอย่างต่อเนื่อง และกำหนดให้กรมฯ จัดสัมมนาพัฒนาความรู้ด้านธรรมาภิบาลให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจทั่วประเทศ เพื่อเป็นการรณรงค์ปลุกจิตสำนึก และจูงใจให้ธุรกิจประกอบกิจการด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรม นำหลักธรรมาภิบาลมาใช้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของธุรกิจให้แก่สาธารณชนทั่วไป รวมทั้งกระตุ้นให้ธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น เพื่อยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานและเพิ่มขีดความสามารถสำหรับธุรกิจไทยให้มีความน่าเชื่อถือ และเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาด AEC
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในปี 2554 ที่มุ่งเน้นให้ธุรกิจมีการเจริญเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน โดยกำหนดให้เป็น “ปีแห่งการสร้างสรรค์และธรรมาภิบาลธุรกิจ” จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินการจัดประกวดธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่นขึ้น เพื่อคัดเลือกผู้ประกอบธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาเข้ารับรางวัลธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่นประจำปี 2554 (DBD Corporate Governance Awards : DBD CG AWARDS) และจะมีพิธีมอบรางวัลในวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2555 ณ ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชั้น 6 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
การมอบรางวัลธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่น ประจำปี 2554 (DBD CG AWARDS) จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เนื่องจากต้องการกระตุ้นให้ผู้ประกอบธุรกิจเกิดความตระหนัก ตื่นตัว และมีจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงผลักดันให้ธุรกิจนำหลักธรรมาภิบาลไปปรับใช้ในการประกอบกิจการ สำหรับธุรกิจที่ได้รับการคัดเลือกต้องมีคุณสมบัติผ่านหลักเกณฑ์ตามที่กรมฯ กำหนด โดยหลักเกณฑ์การตัดสินได้ผ่านการพิจารณาและกลั่นกรองจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาชีพต่างๆ ที่ให้เกียรติร่วมเป็นคณะกรรมการ ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าว ประกอบด้วย หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า อันจะส่งผลให้เกิดความภาคภูมิใจแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับรางวัล รวมทั้งเป็นแบบอย่าง และแนวทางที่ดีเพื่อให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องนำไปปรับใช้ ตลอดจนสามารถสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวต่อไปว่า นอกจากแนวทางการส่งเสริมธุรกิจให้เติบโตอย่างมีธรรมาภิบาลแล้ว ยังมอบหมายให้มีการส่งเสริมพัฒนาความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบธุรกิจในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลอย่างต่อเนื่อง และกำหนดให้กรมฯ จัดสัมมนาพัฒนาความรู้ด้านธรรมาภิบาลให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจทั่วประเทศ เพื่อเป็นการรณรงค์ปลุกจิตสำนึก และจูงใจให้ธุรกิจประกอบกิจการด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรม นำหลักธรรมาภิบาลมาใช้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของธุรกิจให้แก่สาธารณชนทั่วไป รวมทั้งกระตุ้นให้ธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น เพื่อยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานและเพิ่มขีดความสามารถสำหรับธุรกิจไทยให้มีความน่าเชื่อถือ และเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาด AEC
