กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เร่งเดินหน้าแผนธรรมาภิบาลแก่ผู้ประกอบธุรกิจ พร้อมจัดติวเข้มอบรมสร้างความเข้าใจหน้าที่ความรับผิดชอบตามกฎหมายเพื่อสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงาน รองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และจัดมอบรางวัลธรรมาภิบาลดีเด่นปี 2554 9 รางวัล และมอบหมายกรมฯ เร่งช่วยเหลือเอสเอ็มอีรับผลกระทบค่าแรง 300 บาท
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งดำเนินการส่งเสริมและอบรมพัฒนาความรู้แก่ผู้ประกอบธุรกิจทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบตามกฎหมายที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมมีความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนปฏิบัติอย่างถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งหากผู้ประกอบธุรกิจสามารถปฏิบัติได้อย่างครบถ้วนจะเป็นจุดแข็งที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยเกิดความเข้มแข็งแบบยั่งยืน
ทั้งนี้ ยังให้ความสำคัญต่อการมอบรางวัลธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่น เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบธุรกิจตระหนัก ตื่นตัว และมีจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งก่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงาน ตลอดจนมีกระบวนการในการตรวจสอบความถูกต้องชัดเจน รวมถึงต้องมีการบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่า
นายศิริวัฒน์กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ได้รับรางวัลธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่น ประจำปี 2554 มีจำนวน 9 ราย ดังนี้ 1. ประเภททุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 5 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท เอสทีเอ แอคเคาทติ้ง แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด และบริษัท ฮอนด้าเมืองเลย จำกัด 2. ประเภททุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท ใบธง จำกัด
3. ประเภททุนจดทะเบียนตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ได้แก่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด, บริษัท ชัยบูรณ์ บราเดอร์ส จำกัด, บริษัท ดีไซน์ ออลเทอร์เนทีฟ จำกัด, บริษัท ไทยอีสเทิร์น รับเบอร์ จำกัด, บริษัท ซัมมิท โชว่า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด และบริษัท ฮาลล่า ไคลเมท คอนโทรล (ประเทศไทย) จำกัด
อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินงานของกรมฯ หลังจากนี้กรมฯ จะดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น รวมถึงเร่งพัฒนาความรู้สำหรับผู้ประกอบธุรกิจให้มีความทันสมัยสอดคล้องตามสถานการณ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในหลักธรรมาภิบาลของธุรกิจไทย และเตรียมพร้อมรองรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วย โดยธุรกิจที่ได้รับรางวัลกรมฯ จะเผยแพร่รายชื่อในทำเนียบธุรกิจที่มีธรรมาภิบาลทางเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (www.dbd.go.th)
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งศึกษารูปแบบที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาลในการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้องขอไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้หาแนวทางช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อยอดการจดทะเบียนการค้าแต่ละเดือน โดยเฉพาะ 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ แฟรนไชส์ ร้านอาหาร สปา และธุรกิจบริการ ได้แก่ ลอจิสติกส์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งหาแนวทางช่วยเหลือเร่งด่วน เช่น การจัดอบรมเสริมความรู้ การปรับวิธีการบริหารงานภายในองค์กรเพื่อลดต้นทุน การส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้ประกอบการผลิตสินค้าอย่างมีคุณภาพ และเร่งหาตลาดร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออก และที่สำคัญกรมฯ มีโครงการส่งเสริมการค้าขายในอินเทอร์เน็ต หรืออี-คอมเมิร์ซ และอีกหลายแนวทาง