xs
xsm
sm
md
lg

แกรมมี่-อาร์เอสโหมเคเบิล ชูถ่ายสดกีฬาดังผ่านเพย์ทีวี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายธนา เธียรอัจฉริยะ
อุตสาหกรรมเคเบิลทีวีฉุดไม่อยู่ กลุ่มดูผ่านกล่องแนวโน้มโตสุด เหตุแกรมมี่จับมือพันธมิตรทุกรูปแบบโหมการขายต้อนรับฟุตบอลยูโร ฝั่งอาร์เอสร่วมกระพือปีก ส่งลาลีกาดูได้ผ่านเพย์ทีวีทุกช่องทาง พร้อมจับมือช่อง 7 ร่วมถ่ายทอดสด คอนเฟิร์มแกรมมี่-อาร์เอสพร้อมชิงพรีเมียร์ลีกแน่

แกรมมี่รุกหนักขายกล่อง
นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจกล่องทีวีดาวเทียม GMM Z เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของกล่องGMM Z จะมุ่งไปสู่เรื่องของเพย์ทีวี กล่าวคือ ให้บริการช่องรายการที่ต้องจ่ายค่าบริการ ตามแผนจะมีช่องคอนเทนต์กีฬา 5 ช่อง และช่องบันเทิงอีก 4 ช่อง ผ่านวิธีการเติมเงิน เช่นเดียวกับการเติมเงินในโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน ซึ่งปัจจัยสำคัญของการดำเนินธุรกิจในลักษณะนี้คือ จำนวนกล่องจะต้องมีผู้ใช้บริการที่มากพอสมควร ทั้งนี้ เพื่อรักษารายได้ให้มีกำไร ไม่ใช่แบกรับต้นทุนที่เกิดจากการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ต่างๆ มาแล้วกลับมีจำนวนผู้ใช้บริการที่น้อยเกินไป

ดังนั้น ในระยะแรกนี้ทางจีเอ็มเอ็ม แซท จึงมุ่งขายกล่อง GMM Z ให้มากที่สุด ภายใต้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบ “มหามิตร -มหาชน” ชูลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโรที่จะมีขึ้นในช่วงกลางปีนี้ เป็นตัวหลักในการแจ้งเกิดของกล่อง GMM Z โดยกลยุทธ์แบบมหามิตร คือ การจับมือร่วมกับพันธมิตรในการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้น ทั้ง เซเว่นอีเลฟเว่น, บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส และเจมาร์ท เป็นต้น อีกทั้งยังจับมือกับทาง DTV และ CTH ในการทำ HD ร่วมกัน รวมถึงแบรนด์สินค้าอย่าง ซัมซุง ในการทำตลาดร่วมกัน รวมไปถึงการสร้างระบบเติมเงินร่วมกับทาง AIS และร้านเซเว่นอีเลฟเว่นอีกส่วนหนึ่งด้วย มั่นใจว่าการจับมือกับพันธมิตรถือเป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะช่วยให้กล่อง GMM Z เข้าถึงฐานผู้ชม เพื่อให้ทันการเปิดฤดูกาลการแข่งขันฟุตบอลยูโรที่จะเริ่มขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้าที่จะถึงนี้

ส่วนการตลาดแบบมหาชน หมายถึงการทำราคาขายกล่อง GMM Z ที่เป็นราคาระดับแมสรับได้ ซึ่งฐานผู้ชมระดับแมสนั้นเป็นฐานที่มีขนาดใหญ่มาก และในตลาดยังไม่มีใครเข้ามาสร้างแพลตฟอร์มอย่างจริงจัง ทั้งนี้ มั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถจำหน่ายกล่อง GMM Z ได้ที่ 2 ล้านกล่อง เฉพาะในช่วงฟุตบอลยูโรน่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 7-8 แสนกล่อง ขณะที่หลังทำตลาดมาตั้งแต่ช่วงต้นปีขณะนี้สามารถจำหน่ายกล่องได้แล้วในหลักแสนกล่อง คาดว่าหลังจบฟุตบอลยูโรน่าจะมียอดขายกล่องที่ 1 ล้านกล่อง

นายธนา กล่าวต่อว่า แพลตฟอร์มการรับชมช่องรายการโทรทัศน์ ผ่านกล่องแบบเพย์ทีวีในโมเดลของการเติมเงินนั้นผู้ชมอาจจะยังไม่คุ้นชิน ดังนั้นหากในตลาดจะมีผู้เล่นต่างๆ ที่เข้ามาช่วยทำให้ตลาดนี้เติบโตถือเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะคอนเทนต์กีฬาถือเป็นกลุ่มคอนเทนต์ที่จะทำให้ตลาดนี้เกิดขึ้นได้เร็วยิ่งขึ้น และเป็นอนาคตของธุรกิจนี้ต่อไป ซึ่งนอกจากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรแล้ว ทางแกรมมี่ยังสนใจที่จะเข้าไปร่วมประมูลการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ (2013/14, 2014/15, 2015/16) โดยเน้นการจับมือกับพาร์ตเนอร์ ซึ่งทางทรูวิชั่นส์ บริษัทก็ได้มีการเจรจาร่วมกัน ส่วนผลจะออกมาเป็นเช่นไรขึ้นอยู่กับทางทรูวิชั่นส์ นอกจากนี้ยังได้มองหาพันธมิตรรายอื่นๆ ในการที่จะเข้าร่วมประมูลอีกทางหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทจะร่วมประมูลในจำนวนเงินที่มองว่าคุ้มทุน ถ้าได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร



อาร์เอสลุยคอนเทนต์แบบเพย์ทีวี
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อาร์เอสได้ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาทในการเป็นผู้บริหารจัดการสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลาลีกาสเปน (Laliga Spain, 2012-15 Season) 3 ปีซ้อน พร้อมเปิดช่องกีฬา “อาร์เอส สปอร์ต ลาลีกา” (RS SPORT LALIGA) แซตเทลไลต์ทีวี พร้อมจับมือพันธมิตร ทั้งช่อง 7 สี และดีแทค เพื่อร่วมถ่ายทอดสดการแข่งขันในครั้งนี้
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ และนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล
ทั้งนี้ ผู้ชมสามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลาลีกาสเปนได้จากทุกแพลตฟอร์มและหลากหลายช่องทาง ได้แก่ จานรับสัญญาณดาวเทียม เคเบิลทีวีท้องถิ่น และดีแทคออนไลน์ ซึ่งทุกแพลตฟอร์มจะรับชมผ่านช่องอาร์เอส สปอร์ต ลาลีกา ภายใต้แนวคิด ง่ายกว่า สะดวกกว่า ราคาเป็นมิตร กล่าวคือ จะต้องเสียค่าสมาชิกเดือนละ 100 บาทก่อนจึงจะสามารถดูได้ครบทุก 380 แมตช์ของการแข่งขันตลอดฤดูกาล ขณะที่การรับชมผ่านทางช่อง 7นั้น จะสามารถรับชมได้ทั้งสิ้น 12 แมตช์ที่เป็นคู่หยุดโลก รวมถึงดูฟรีได้ผ่านทางช่อง 8 อาทิตย์ละ 1 แมตช์ ตลอดฤดูกาลอีกทางหนึ่งเช่นกัน

สำหรับช่องอาร์เอส สปอร์ต ลาลีกา ถือเป็นช่องแรกของอาร์เอสที่เป็นช่องรายการแบบเพย์ทีวี ตั้งเป้าว่าตลอดทั้ง 3 ฤดูกาลจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากสปอนเซอร์ 20% รายได้จากสมาชิกอีก 70% และอีก 10% มาจากการบริหารสิทธิ์ในทุกรูปแบบ เบื้องต้นต้องการสปอนเซอร์หลักเพียง 10 ราย ราคาแพกเกจขายที่ 20 ล้านบาท ขณะนี้มีลูกค้าที่สนใจแล้ว 4 ราย

นายสุรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม คอนเทนต์กีฬาดังถือเป็นคอนเทนต์ที่ทางอาร์เอสต้องการนำมาเสนอแก่ผู้ชมในลักษณะเพย์ทีวี ที่มองเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต รวมถึงจะเป็นตลาดหลักที่จะทำให้ทิศทางของเคเบิลทีวีเติบโตได้มากที่สุด ดังนั้น พรีเมียร์ลีกอังกฤษจึงเป็นอีกคอนเทนต์ที่ทางอาร์เอสจะเข้าไปร่วมประมูลขอเป็นผู้บริหารจัดการสิทธิ์การถ่ายทอดสดในฤดูกาลใหม่เช่นเดียวกัน โดยจะเป็นลักษณะของการจับมือร่วมกับพันธมิตรในการเข้าประมูล ทั้งนี้ มองว่าถ้าได้ก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ส่วนจะจับมือกับใครนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้


กำลังโหลดความคิดเห็น