ASTVผู้จัดการรายวัน- "วันสกาย" ส่อเค้าติดลิขสิทธิ์ชื่อจดทะเบียนของบริษัทในอังกฤษ แกรมมี่แก้เกม เปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น "จีเอ็มเอ็ม แซท" พร้อมงบการตลาดล๊อตใหม่ร่วม 200ล้านบาท พิสูจน์ฝีมือ "ธนา เธียรอัจฉริยะ" อีกครั้ง หลังส่งดีแทคสู่เส้นชัย มั่นใจสิ้นปีขายกล่อง จีเอ็มเอ็ม แซท ร่วม 2 ล้านกล่อง พร้อมแพกเกจการขายโกยรายได้เข้ากระเป๋าเพียบ มั่นใจใน5 ปี เป็นเส้นเลือใหญ่สุดหล่อเลี้ยงแกรมมี่ หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาทชัวร์
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัญหาที่ทางวันสกายถูกทางบริษัทในอังกฤษแจ้งว่าละเมิดลิขสิทธิ์ชื่อ "สกาย" ที่ทางนั้นได้จดลิขสิทธิ์ชื่อนี้แล้ว กับเข้าใจว่าเป็นชื่อสำหรับธุรกิจโทรทัศน์ มองว่าหากจะสู้กันจริงๆเรามีโอกาสชนะอยู่ แต่หากใน3ปี เกิดแพ้ขึ้นมา
การเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่ในตอนนั้นจะสร้างความเสียหายสูงมาก เพราะถึงเวลานั้นเชื่อว่า วันสกายจะเป็นที่รู้จักอย่างดีแล้ว
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด บวกกับการที่ทางบริษัทได้นายธนา เธียรอัจฉริยะ เข้ามานั่งกุมบังเหียนและเริ่มดูตลาดอย่างจริงจัง จึงเลือกการเปลี่ยนชื่อใหม่แทน เป็น "จีเอ็มเอ็ม แซท" (GMM Z) ชูคอนเซ็ปต์ "แซ่บ มาก มาก" มั่นใจว่าจะเป็นชื่อที่เข้าถึงผู้ชมได้ดียิ่งขึ้น หรือภายในสิ้นปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะจำหน่ายกล่องได้1.5ล้านกล่อง มั่นใจว่าจะทำได้ถึง 2
ล้านกล่องได้แน่ หรือมีรายได้จากการจำหน่ายกล่องราว 2,000 ล้านบาท
นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด กล่าวเสริมว่า ตนเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้เพียง 50 วันเท่านั้น แต่ถือ้ป็นช่วงเวลาที่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น พร้อมศึกษาตลาดอย่างจริงจัง พร้อมได้คิดเปลี่ยนชื่อวันกายใหม่ ให้สามารถทำการตลาดได้ง่าย และเป็นชื่อที่ผู้บริหารเห็นชอบ
ส่งผลให้เรามองว่าเปลี่ยนชื่อใหม่แทนการสู้คดีกับทางบริษัทอังกฤษที่แจ้งว่าเราละเมิดลิขสิทธิ์ชื่อจะดีกว่า
ทั้งนี้ผลของการเปลี่ยนชื่อวันสกาย สู่ จีเอ็มเอ็ม แซท จะมีผลตั้งแต่ 1 เม.ยนี้ เป็นต้นไป และหลังจากนี้ จะมีการทำตลาดอย่างจริงจัง ภายใต้งบการตลาดทั้งหมดกว่า 200ล้านบาท ในเวลาที่เหลือนี้ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งถือเป็นงบที่ใช้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยจะใช้ในการทำการตลาดผ่านกลยุทธ์แบบเบ็ดเสร็จ คือ
ใช้จุดแข็งความเป็นแกรมมี่ผนวกกับกลยุทธ์การตลาดแบบแอร์ วอร์ เน้นใช้สื่อทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างครบวงจร รวมถึงใช้กลยุทธ์การตลาดแบบออน กราวด์ จัดบิ๊กอีเว้นท์โรดโชว์ไปทั่วประเทศ
นอกจากนี้ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น จะเพิ่มกลุ่มโมเดิร์นเทรดเข้ามาเสริมทัพ ทั้งเทสโก้โลตัส บิ๊กซี เซเว่นอีเลฟเว่น พาวเวอร์บาย และเจมาร์ท จากเดิมที่ขายผ่านร้านค้าดีลเลอร์ทั่วประเทศกว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศอยู่แล้ว มั่นใจจะส่งผลให้ยอดขายกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท เป็นไปตามเป้าที่วางไว้แน่
"ช่วง2-3เดือนหลังตนเข้ามาทำงาน แม้จะไม่มได้ทำการตลาดอย่างจริงจัง ยังพบว่ามียอดขายกล่องไม่ต่ำกว่า 60,000 กล่อง บวกกับแนวโน้มหลังจากนี้ที่มีพันธมิตรคู่ค้าต่างๆ ได้สั่งจอง่องจีเอ็มเอ็ม แซท เพื่อนำไปทำโปรโมชั่น ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร ที่สามารถรับชมได้ฟรีผ่านกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ด้วยแล้ว จึงมั่นใจว่า เป้า 2 ล้านกล่องในสิ้นปีนี้ ทำได้แน่นอน
โดยเฉพาะช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร มั่นใจว่าจะขายกล่องได้ถึง 1 ล้านกล่องอีกด้วย"
สำหรับกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท นั้น สามารถบรรจุช่องรายการได้กว่า 400 ช่อง ขณะที่ปัจจุบันสามารถรับชมได้แล้วที่ 220 ช่อง โดยผู้ชมเพียงซื้อกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ในราคา 1,590 บาท ใช้ได้กับทุกจานรับสัญญานดาวเทียม ไม่เสียค่ารายเดือน ดูฟรีตลอดชีพ โดยทางแกรมมี่ยังเพิ่มช่องให้ชมฟรีอีก 3 ช่องด้วย คือ จีเอ็มเอ็ม แซท ฮิตส์, จีเอ็มเอ็ม แซท เธียเตอร์ และช่องจีเอ็มเอ็ม แซท
จีเนียส
ทั้งนี้หลังจบการแข่งขันฟุตบอลยูโร จะมีกล่องขนาดเล็ก ชื่อ จีเอ็มเอ็ม แซท มินิ มาจำหน่ายในราคาราว 500บาทด้วย โดยผู้ชมยังสามารถรับชมได้ฟรีที่ 220 ช่อง ส่วนอีก3ช่องถ้าต้องการรับชมจะต้องชื้อแพกเกจเสริม เข้าข่ายกลยุทธ์การให้บริการช่องคอนเท้นท์เพิ่มเติมที่เตรียมไว้อีกว่า 10 ช่องที่จะนำมาบริการ ในลักษณะบริการเสริมแบบเติมเงิน
เช่นเดียวกับระบบเติมเงินโทรศัพท์ของทางมือถือ เชื่อว่าบริการเหล่านี้จะเป็นช่องทางสร้างรายได้หลักให้กับจีเอ็มเอ็ม แซทในอนาคตต่อไป หลังจากที่ปีนี้ได้ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ในการคัดสรรคอนเท้นท์ดีๆโดยเฉพาะรายการกีฬาดังๆมานำเสนอในจีเอ็มเอ็ม แซท
ทั้งนี้มั่นใจว่าภายใน 5 ปี จีเอ็มเอ็ม แซท จะเป็นธุรกิจหลักในการสร้างรายได้ให้กับจีเอ็มเอ็ม หรือมีรายได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท และเป็นรายได้ที่มากกว่ารายได้ฝั่งของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัญหาที่ทางวันสกายถูกทางบริษัทในอังกฤษแจ้งว่าละเมิดลิขสิทธิ์ชื่อ "สกาย" ที่ทางนั้นได้จดลิขสิทธิ์ชื่อนี้แล้ว กับเข้าใจว่าเป็นชื่อสำหรับธุรกิจโทรทัศน์ มองว่าหากจะสู้กันจริงๆเรามีโอกาสชนะอยู่ แต่หากใน3ปี เกิดแพ้ขึ้นมา
การเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่ในตอนนั้นจะสร้างความเสียหายสูงมาก เพราะถึงเวลานั้นเชื่อว่า วันสกายจะเป็นที่รู้จักอย่างดีแล้ว
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด บวกกับการที่ทางบริษัทได้นายธนา เธียรอัจฉริยะ เข้ามานั่งกุมบังเหียนและเริ่มดูตลาดอย่างจริงจัง จึงเลือกการเปลี่ยนชื่อใหม่แทน เป็น "จีเอ็มเอ็ม แซท" (GMM Z) ชูคอนเซ็ปต์ "แซ่บ มาก มาก" มั่นใจว่าจะเป็นชื่อที่เข้าถึงผู้ชมได้ดียิ่งขึ้น หรือภายในสิ้นปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะจำหน่ายกล่องได้1.5ล้านกล่อง มั่นใจว่าจะทำได้ถึง 2
ล้านกล่องได้แน่ หรือมีรายได้จากการจำหน่ายกล่องราว 2,000 ล้านบาท
นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด กล่าวเสริมว่า ตนเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้เพียง 50 วันเท่านั้น แต่ถือ้ป็นช่วงเวลาที่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น พร้อมศึกษาตลาดอย่างจริงจัง พร้อมได้คิดเปลี่ยนชื่อวันกายใหม่ ให้สามารถทำการตลาดได้ง่าย และเป็นชื่อที่ผู้บริหารเห็นชอบ
ส่งผลให้เรามองว่าเปลี่ยนชื่อใหม่แทนการสู้คดีกับทางบริษัทอังกฤษที่แจ้งว่าเราละเมิดลิขสิทธิ์ชื่อจะดีกว่า
ทั้งนี้ผลของการเปลี่ยนชื่อวันสกาย สู่ จีเอ็มเอ็ม แซท จะมีผลตั้งแต่ 1 เม.ยนี้ เป็นต้นไป และหลังจากนี้ จะมีการทำตลาดอย่างจริงจัง ภายใต้งบการตลาดทั้งหมดกว่า 200ล้านบาท ในเวลาที่เหลือนี้ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งถือเป็นงบที่ใช้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยจะใช้ในการทำการตลาดผ่านกลยุทธ์แบบเบ็ดเสร็จ คือ
ใช้จุดแข็งความเป็นแกรมมี่ผนวกกับกลยุทธ์การตลาดแบบแอร์ วอร์ เน้นใช้สื่อทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างครบวงจร รวมถึงใช้กลยุทธ์การตลาดแบบออน กราวด์ จัดบิ๊กอีเว้นท์โรดโชว์ไปทั่วประเทศ
นอกจากนี้ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น จะเพิ่มกลุ่มโมเดิร์นเทรดเข้ามาเสริมทัพ ทั้งเทสโก้โลตัส บิ๊กซี เซเว่นอีเลฟเว่น พาวเวอร์บาย และเจมาร์ท จากเดิมที่ขายผ่านร้านค้าดีลเลอร์ทั่วประเทศกว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศอยู่แล้ว มั่นใจจะส่งผลให้ยอดขายกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท เป็นไปตามเป้าที่วางไว้แน่
"ช่วง2-3เดือนหลังตนเข้ามาทำงาน แม้จะไม่มได้ทำการตลาดอย่างจริงจัง ยังพบว่ามียอดขายกล่องไม่ต่ำกว่า 60,000 กล่อง บวกกับแนวโน้มหลังจากนี้ที่มีพันธมิตรคู่ค้าต่างๆ ได้สั่งจอง่องจีเอ็มเอ็ม แซท เพื่อนำไปทำโปรโมชั่น ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร ที่สามารถรับชมได้ฟรีผ่านกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ด้วยแล้ว จึงมั่นใจว่า เป้า 2 ล้านกล่องในสิ้นปีนี้ ทำได้แน่นอน
โดยเฉพาะช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร มั่นใจว่าจะขายกล่องได้ถึง 1 ล้านกล่องอีกด้วย"
สำหรับกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท นั้น สามารถบรรจุช่องรายการได้กว่า 400 ช่อง ขณะที่ปัจจุบันสามารถรับชมได้แล้วที่ 220 ช่อง โดยผู้ชมเพียงซื้อกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ในราคา 1,590 บาท ใช้ได้กับทุกจานรับสัญญานดาวเทียม ไม่เสียค่ารายเดือน ดูฟรีตลอดชีพ โดยทางแกรมมี่ยังเพิ่มช่องให้ชมฟรีอีก 3 ช่องด้วย คือ จีเอ็มเอ็ม แซท ฮิตส์, จีเอ็มเอ็ม แซท เธียเตอร์ และช่องจีเอ็มเอ็ม แซท
จีเนียส
ทั้งนี้หลังจบการแข่งขันฟุตบอลยูโร จะมีกล่องขนาดเล็ก ชื่อ จีเอ็มเอ็ม แซท มินิ มาจำหน่ายในราคาราว 500บาทด้วย โดยผู้ชมยังสามารถรับชมได้ฟรีที่ 220 ช่อง ส่วนอีก3ช่องถ้าต้องการรับชมจะต้องชื้อแพกเกจเสริม เข้าข่ายกลยุทธ์การให้บริการช่องคอนเท้นท์เพิ่มเติมที่เตรียมไว้อีกว่า 10 ช่องที่จะนำมาบริการ ในลักษณะบริการเสริมแบบเติมเงิน
เช่นเดียวกับระบบเติมเงินโทรศัพท์ของทางมือถือ เชื่อว่าบริการเหล่านี้จะเป็นช่องทางสร้างรายได้หลักให้กับจีเอ็มเอ็ม แซทในอนาคตต่อไป หลังจากที่ปีนี้ได้ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ในการคัดสรรคอนเท้นท์ดีๆโดยเฉพาะรายการกีฬาดังๆมานำเสนอในจีเอ็มเอ็ม แซท
ทั้งนี้มั่นใจว่าภายใน 5 ปี จีเอ็มเอ็ม แซท จะเป็นธุรกิจหลักในการสร้างรายได้ให้กับจีเอ็มเอ็ม หรือมีรายได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท และเป็นรายได้ที่มากกว่ารายได้ฝั่งของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่