ASTVผู้จัดการรายวัน - “อากู๋” ลุยดาวเทียมวันสกายเต็มสูบ ผุดบริษัทใหม่ทุนพันล้าน ดึง ธนา เธียรอัจฉริยะ ร่วมคุมทีมปั้นแบรนด์ คว้าลิขสิทธิ์บอลบุนเดสลีกา 4 ปีซ้อน เผยปีที่แล้วต่ำเป้าเกือบ 2,000 ล้านบาท
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือจีเอ็มเอ็ม กล่าวว่า บริษัทฯวางทิศทางการขยายธุรกิจกล่องรับสัญญาณดาวเทียม “วันสกาย” ในเชิงรุก ด้วยการตั้งบริษัทใหม่ชื่อ บริษัท จีเอ็มเอ็ม วันสกาย จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท ขึ้นมาดูแล โดยจีเอ็มเอ็มถือหุ้น 100% ในช่วงแรก รวมทั้งยังได้ดึงนายธนา เธียรอัจฉริยะ เข้ามาดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร ของจีเอ็มเอ็มวันสกาย ด้วย (นายธนาเป็นอดีตนักการตลาดชื่อดังจากค่ายมือถือดีแทค ก่อนออกมาร่วมงานกับยีนส์แม็คได้ไม่นานแล้วลาออกเมื่อปีที่แล้ว)
ทั้งนี้บริษัทดังกล่าวจะทำหน้าที่ในการซื้อลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดสดฟุตบอล โดยล่าสุดบริษัทได้รับลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลเยอรมันบุนเดสลีดา 1 ระหว่างฤดูกาล 2012-2015 นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ซื้อลิขสิทธิ์จากผู้ผลิตรายการ ค่ายใหญ่อย่าง วอร์นเนอร์ บราเธอร์, ฟ็อกซ์ เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ร่วมทุนจากต่างประเทศ ที่ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตสื่อจาก สหรัฐ ญี่ปุ่น และจีน เข้ามาเป็นพันธมิตรกับบริษัท จีเอ็มเอ็มวันสกาย อีกด้วยเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และทำให้ช่องมีความหลากหลายของเนื้อหามากที่สุด เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในเดือนมีนาคมนี้
นายไพบูลย์กล่าวด้วยว่า ปี 2554 ที่ผ่านมา รายได้รวมของบริษัทคาดว่า จะมีประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้รายได้ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมาหายไปประมาณ 1,000 ล้านบาท และกำไรหายไปประมาณ 200 ล้านบาท แต่คาดว่า ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เห็นได้จาก ยอดการจัดอีเวนต์ และยอดขายโฆษณาที่กระเตื้องอย่างชัดเจน และมั่นใจว่าจะช่วยชดเชยรายได้ในไตรมาส 4 ปีก่อนที่หายไปให้กลับคืนมาได้ และมั่นใจว่าจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทในปี 2555 เติบโตถึงระดับ 10,000 ล้านบาท
ส่วนกรณีปัญหาของศิลปิน “เสก-โลโซ” นายไพบูลย์ยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบต่อบริษัท เพราะเป็นเพียงบุคคลเดียว แต่หากในอนาคต เสก รักษาตัวแล้วหายดี และอยากกลับมาทำงาน ก็มาคุยกันได้และยินดีที่จะรับกลับมาอยู่ในบริษัทต่อไปเพื่อมาทำงานร่วมกันได้อีกครั้ง
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือจีเอ็มเอ็ม กล่าวว่า บริษัทฯวางทิศทางการขยายธุรกิจกล่องรับสัญญาณดาวเทียม “วันสกาย” ในเชิงรุก ด้วยการตั้งบริษัทใหม่ชื่อ บริษัท จีเอ็มเอ็ม วันสกาย จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท ขึ้นมาดูแล โดยจีเอ็มเอ็มถือหุ้น 100% ในช่วงแรก รวมทั้งยังได้ดึงนายธนา เธียรอัจฉริยะ เข้ามาดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร ของจีเอ็มเอ็มวันสกาย ด้วย (นายธนาเป็นอดีตนักการตลาดชื่อดังจากค่ายมือถือดีแทค ก่อนออกมาร่วมงานกับยีนส์แม็คได้ไม่นานแล้วลาออกเมื่อปีที่แล้ว)
ทั้งนี้บริษัทดังกล่าวจะทำหน้าที่ในการซื้อลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดสดฟุตบอล โดยล่าสุดบริษัทได้รับลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลเยอรมันบุนเดสลีดา 1 ระหว่างฤดูกาล 2012-2015 นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ซื้อลิขสิทธิ์จากผู้ผลิตรายการ ค่ายใหญ่อย่าง วอร์นเนอร์ บราเธอร์, ฟ็อกซ์ เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ร่วมทุนจากต่างประเทศ ที่ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตสื่อจาก สหรัฐ ญี่ปุ่น และจีน เข้ามาเป็นพันธมิตรกับบริษัท จีเอ็มเอ็มวันสกาย อีกด้วยเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และทำให้ช่องมีความหลากหลายของเนื้อหามากที่สุด เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในเดือนมีนาคมนี้
นายไพบูลย์กล่าวด้วยว่า ปี 2554 ที่ผ่านมา รายได้รวมของบริษัทคาดว่า จะมีประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้รายได้ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมาหายไปประมาณ 1,000 ล้านบาท และกำไรหายไปประมาณ 200 ล้านบาท แต่คาดว่า ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เห็นได้จาก ยอดการจัดอีเวนต์ และยอดขายโฆษณาที่กระเตื้องอย่างชัดเจน และมั่นใจว่าจะช่วยชดเชยรายได้ในไตรมาส 4 ปีก่อนที่หายไปให้กลับคืนมาได้ และมั่นใจว่าจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทในปี 2555 เติบโตถึงระดับ 10,000 ล้านบาท
ส่วนกรณีปัญหาของศิลปิน “เสก-โลโซ” นายไพบูลย์ยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบต่อบริษัท เพราะเป็นเพียงบุคคลเดียว แต่หากในอนาคต เสก รักษาตัวแล้วหายดี และอยากกลับมาทำงาน ก็มาคุยกันได้และยินดีที่จะรับกลับมาอยู่ในบริษัทต่อไปเพื่อมาทำงานร่วมกันได้อีกครั้ง