กรมขนส่งฯ ตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 (เฉพาะกิจ) อำนวยความสะดวกและรับเรื่องร้องเรียน ช่วงสงกรานต์ 11-17 เมษายน 2555 ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจตุจักร เอกมัย ตลิ่งชัน และที่กรมการขนส่งทางบก
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เปิดศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 (เฉพาะกิจ) เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต เอกมัย สายใต้ และภายในบริเวณกรมการขนส่งทางบก ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2555 เพื่อเป็นการดูแลประชาชนให้เดินทางถึงจุดหมายปลายทางโดยสะดวกและปลอดภัย เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีประชาชนเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจไม่ได้รับความสะดวก หรือถูกเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ โดยกรมฯ ได้กำชับให้ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทางปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ หากตรวจพบรถโดยสารประจำทางที่เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด หรือหลอกลวงผู้โดยสารโดยการส่งผู้โดยสารไม่ถึงจุดหมายปลายทาง จะถูกเปรียบเทียบปรับรายละ 10,000 บาท และหากพบการกระทำผิดซ้ำจะถูกพิจารณาการต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง และเพิกถอนรถคันที่กระทำผิดดังกล่าวด้วย พร้อมขอความร่วมมือในการกวดขันพนักงานขับรถให้ “แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์” หากตรวจพบให้เปลี่ยนตัวคนขับทันที รวมทั้งต้องเปลี่ยนตัวพนักงานขับรถทุกๆ 4 ชั่วโมงด้วยเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย เอาเปรียบผู้โดยสาร แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2555) มีประชาชนร้องเรียนการให้บริการรถโดยสารสาธารณะผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 จำนวนทั้งสิ้น 662 ราย เป็นการร้องเรียนรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ จำนวน 475 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ ปฏิเสธไม่รับ-ส่ง ผู้โดยสาร, ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน และแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ และไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร สำหรับการร้องเรียนรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก (รถโดยสารสาธารณะ) มีจำนวน 187 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ ขับรถประมาทหวาดเสียว, ไม่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่ป้ายรถประจำทาง, แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ และเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้เรียกตัวผู้ถูกร้องเรียนมาสอบสวนความผิดแล้วทุกราย โดยในรายที่พบว่ากระทำผิดจริง ได้ลงโทษเปรียบเทียบปรับพร้อมส่งเรื่องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาการต่อใบอนุญาตประกอบการต่อไป
ในส่วนของรถแท็กซี่มิเตอร์ นายสมชัยกล่าวว่า ในช่วงเทศกาลมักมีประชาชนใช้บริการรถจำนวนมาก เนื่องจากต้องขนสัมภาระไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสาร หรือเดินทางกลับจากภูมิลำเนา ทำให้มีผู้ขับรถแท็กซี่บางรายฉวยโอกาสเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด หรือไม่ใช้มิเตอร์ หรือปฏิเสธผู้โดยสาร โดยการเลือกให้บริการเฉพาะเส้นทางที่สะดวก ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบ และสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน เฉพาะเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2555) มีประชาชนร้องเรียนการให้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์ผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 จำนวนทั้งสิ้น 475 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ ปฏิเสธไม่รับ-ส่ง ผู้โดยสาร, ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน และแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ และไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการตรวจสอบและเปรียบเทียบปรับทุกราย โดยกรณีการเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด หรือไม่ใช้มิเตอร์ จะถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุดรายละไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนกรณีปฏิเสธผู้โดยสาร จะมีความผิดถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุดรายละไม่เกิน 1,000 บาท
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เปิดศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 (เฉพาะกิจ) เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต เอกมัย สายใต้ และภายในบริเวณกรมการขนส่งทางบก ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2555 เพื่อเป็นการดูแลประชาชนให้เดินทางถึงจุดหมายปลายทางโดยสะดวกและปลอดภัย เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีประชาชนเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจไม่ได้รับความสะดวก หรือถูกเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ โดยกรมฯ ได้กำชับให้ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทางปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ หากตรวจพบรถโดยสารประจำทางที่เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด หรือหลอกลวงผู้โดยสารโดยการส่งผู้โดยสารไม่ถึงจุดหมายปลายทาง จะถูกเปรียบเทียบปรับรายละ 10,000 บาท และหากพบการกระทำผิดซ้ำจะถูกพิจารณาการต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง และเพิกถอนรถคันที่กระทำผิดดังกล่าวด้วย พร้อมขอความร่วมมือในการกวดขันพนักงานขับรถให้ “แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์” หากตรวจพบให้เปลี่ยนตัวคนขับทันที รวมทั้งต้องเปลี่ยนตัวพนักงานขับรถทุกๆ 4 ชั่วโมงด้วยเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย เอาเปรียบผู้โดยสาร แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2555) มีประชาชนร้องเรียนการให้บริการรถโดยสารสาธารณะผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 จำนวนทั้งสิ้น 662 ราย เป็นการร้องเรียนรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ จำนวน 475 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ ปฏิเสธไม่รับ-ส่ง ผู้โดยสาร, ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน และแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ และไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร สำหรับการร้องเรียนรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก (รถโดยสารสาธารณะ) มีจำนวน 187 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ ขับรถประมาทหวาดเสียว, ไม่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่ป้ายรถประจำทาง, แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ และเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้เรียกตัวผู้ถูกร้องเรียนมาสอบสวนความผิดแล้วทุกราย โดยในรายที่พบว่ากระทำผิดจริง ได้ลงโทษเปรียบเทียบปรับพร้อมส่งเรื่องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาการต่อใบอนุญาตประกอบการต่อไป
ในส่วนของรถแท็กซี่มิเตอร์ นายสมชัยกล่าวว่า ในช่วงเทศกาลมักมีประชาชนใช้บริการรถจำนวนมาก เนื่องจากต้องขนสัมภาระไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสาร หรือเดินทางกลับจากภูมิลำเนา ทำให้มีผู้ขับรถแท็กซี่บางรายฉวยโอกาสเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด หรือไม่ใช้มิเตอร์ หรือปฏิเสธผู้โดยสาร โดยการเลือกให้บริการเฉพาะเส้นทางที่สะดวก ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบ และสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน เฉพาะเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2555) มีประชาชนร้องเรียนการให้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์ผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 จำนวนทั้งสิ้น 475 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ ปฏิเสธไม่รับ-ส่ง ผู้โดยสาร, ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน และแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ และไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการตรวจสอบและเปรียบเทียบปรับทุกราย โดยกรณีการเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด หรือไม่ใช้มิเตอร์ จะถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุดรายละไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนกรณีปฏิเสธผู้โดยสาร จะมีความผิดถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุดรายละไม่เกิน 1,000 บาท