ASTVผู้จัดการรายวัน - “พาณิชย์” เปิดตัวร้านถูกใจแห่งแรก ขนสารพัดของถูกลด 20% "บุญทรง" ลั่นเดินหน้าโครงการต่อถึงปีหน้า พร้อมเล็งผลิตข้าวถุง น้ำมัน น้ำตาล ยี่ห้อถูกใจขายเอง ชวนโชวห่วยเข้าร่วมเพิ่ม ยันได้กำไรไม่ลดลง
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวร้านค้าต้นแบบโครงการโชวห่วยช่วยชาติ หรือร้านค้าถูกใจ เป็นแห่งแรกที่กระทรวงพาณิชย์ โดยภายในร้านมีสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพกว่า 20 รายการจำหน่ายแก่ประชาชนราคาถูกกว่าท้องตลาด 10-20% เช่น ข้าวสาร อคส. 5 กก. ราคาทั่วไป 110 บาท แต่จำหน่ายในราคาเพียง 70 บาท น้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง ขายต่ำกว่าท้องตลาด 2-3 บาท เป็นต้น ซึ่งการซื้อหาสินค้าในร้านถูกใจ ประชาชนจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพดี ราคาถูก และช่วยลดค่าครองชีพ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะเดินหน้าโครงการต่อเนื่องในปี 2555-56 และในแต่ละช่วงจะมีมาตรการทบทวน เพื่อพัฒนรูปแบบและร้านถูกใจให้ตรงความต้องการของประชาชนยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันได้เจรจากับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่เพื่อผลิตสินค้าเป็นยี่ห้อของตัวเอง (เฮาส์แบรนด์) ยี่ห้อถูกใจ เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาลทราย และสินค้าจำเป็นบางรายการ รวมทั้งสั่งให้กรมการค้าภายในนำตราสัญลักษณ์ร้านถูกใจไปจดทะเบียนต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อไม่ให้ลอกเลียนแบบ
ส่วนประชาชนและร้านโชวห่วยที่สนใจ ได้เข้ามาสอบถามและสมัครเข้าร่วมโครงการกับกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน จนถึงขณะนี้กว่า 700 รายแล้ว แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่หลายฝ่ายมองว่าประชาชนยังไม่สนใจเท่าที่ควร แต่เชื่อว่าหลังโครงการเปิดตัวแล้ว ร้านโชวห่วยทั่วประเทศจะให้ความสนใจมากขึ้น ซึ่งตามเป้าหมายกระทรวงพาณิชย์จะเปิดร้านค้าถูกใจประมาณ 10,000 แห่งทั่วประเทศ
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ยังเปิดรับสมัครร้านค้าโชวห่วยที่ต้องการเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่าร้านค้าที่เข้าร่วมจะได้กำไรจากการขายสินค้าใกล้เคียงกับที่ได้อยู่เดิม โดยคุณสมบัติร้านค้าที่เข้าร่วมเบื้องต้น ต้องเป็นร้านค้าโชวห่วย ร้านอาหารธงฟ้า หรือสหกรณ์ที่อยู่ในแหล่งชุมชน และประกอบธุรกิจอยู่แล้ว รวมทั้งแต่ละร้านต้องมีพื้นที่วางสินค้าโครงการอย่างน้อย 3-6 ตารางเมตร
ทั้งนี้ ภาครัฐจะให้การสนับสนุนติดตั้งป้ายบริเวณหน้าร้าน ร้านถูกใจ เป็นกล่องป้ายสีขาว พร้อมจัดหาชั้นวางสินค้าขนาดยาว 90 ซม. สูง 150 ซม. กว้าง 45 ซม. ชั้นวางสินค้า 4 ชั้น ให้เงินอุดหนุนค่าตกแต่งร้านและพื้นที่ชั้นวางสินค้าของร้านถูกใจ ร้านละไม่เกิน 3,000 บาท ส่วนการจัดหาและส่งสินค้าไม่ต้องเสียค่าขนส่ง แต่ต้องจำหน่ายในราคาที่กำหนดต่ำกว่าท้องตลาด 10-20% และยังจะสนับสนุนค่าจ้างคนงานจำหน่ายสินค้าร้านละ 1 คน ค่าจ้างวันละ 300 บาท จนสิ้นสุดโครงการ
สำหรับสินค้าที่วางขายในร้านถูกใจ เบื้องต้นเป็นสินค้าที่มียี่ห้อและราคาประหยัด เช่น ข้าวสารถุง 5 กก. เหลือ 70 บาท ประหยัดลง 40 บาท น้ำตาลทรายเหลือ กก. 22.50 บาท ประหยัด 1 บาท น้ำมันปาล์มขวด 40 บาท ประหยัด 2 บาท น้ำมันถั่วเหลืองขวด 52 บาท ประหยัด 3 บาท ปลากระป๋อง 12 บาท ประหยัด 2 บาท ซอสปรุงรสขวด 19 บาท ประหยัด 1 บาท ยาสีฟันหลอด 21 บาท ประหยัด 4 บาท ยาสระผม 16 บาท ประหยัด 4 บาท สบู่ 8.50 บาท ประหยัด 1.50 บาท ผงซักฟอก 16 บาท ประหยัด 4 บาท น้ำยาล้างจาน 17 บาท ประหยัด 12 บาท เป็นต้น
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวร้านค้าต้นแบบโครงการโชวห่วยช่วยชาติ หรือร้านค้าถูกใจ เป็นแห่งแรกที่กระทรวงพาณิชย์ โดยภายในร้านมีสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพกว่า 20 รายการจำหน่ายแก่ประชาชนราคาถูกกว่าท้องตลาด 10-20% เช่น ข้าวสาร อคส. 5 กก. ราคาทั่วไป 110 บาท แต่จำหน่ายในราคาเพียง 70 บาท น้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง ขายต่ำกว่าท้องตลาด 2-3 บาท เป็นต้น ซึ่งการซื้อหาสินค้าในร้านถูกใจ ประชาชนจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพดี ราคาถูก และช่วยลดค่าครองชีพ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะเดินหน้าโครงการต่อเนื่องในปี 2555-56 และในแต่ละช่วงจะมีมาตรการทบทวน เพื่อพัฒนรูปแบบและร้านถูกใจให้ตรงความต้องการของประชาชนยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันได้เจรจากับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่เพื่อผลิตสินค้าเป็นยี่ห้อของตัวเอง (เฮาส์แบรนด์) ยี่ห้อถูกใจ เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาลทราย และสินค้าจำเป็นบางรายการ รวมทั้งสั่งให้กรมการค้าภายในนำตราสัญลักษณ์ร้านถูกใจไปจดทะเบียนต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อไม่ให้ลอกเลียนแบบ
ส่วนประชาชนและร้านโชวห่วยที่สนใจ ได้เข้ามาสอบถามและสมัครเข้าร่วมโครงการกับกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน จนถึงขณะนี้กว่า 700 รายแล้ว แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่หลายฝ่ายมองว่าประชาชนยังไม่สนใจเท่าที่ควร แต่เชื่อว่าหลังโครงการเปิดตัวแล้ว ร้านโชวห่วยทั่วประเทศจะให้ความสนใจมากขึ้น ซึ่งตามเป้าหมายกระทรวงพาณิชย์จะเปิดร้านค้าถูกใจประมาณ 10,000 แห่งทั่วประเทศ
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ยังเปิดรับสมัครร้านค้าโชวห่วยที่ต้องการเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่าร้านค้าที่เข้าร่วมจะได้กำไรจากการขายสินค้าใกล้เคียงกับที่ได้อยู่เดิม โดยคุณสมบัติร้านค้าที่เข้าร่วมเบื้องต้น ต้องเป็นร้านค้าโชวห่วย ร้านอาหารธงฟ้า หรือสหกรณ์ที่อยู่ในแหล่งชุมชน และประกอบธุรกิจอยู่แล้ว รวมทั้งแต่ละร้านต้องมีพื้นที่วางสินค้าโครงการอย่างน้อย 3-6 ตารางเมตร
ทั้งนี้ ภาครัฐจะให้การสนับสนุนติดตั้งป้ายบริเวณหน้าร้าน ร้านถูกใจ เป็นกล่องป้ายสีขาว พร้อมจัดหาชั้นวางสินค้าขนาดยาว 90 ซม. สูง 150 ซม. กว้าง 45 ซม. ชั้นวางสินค้า 4 ชั้น ให้เงินอุดหนุนค่าตกแต่งร้านและพื้นที่ชั้นวางสินค้าของร้านถูกใจ ร้านละไม่เกิน 3,000 บาท ส่วนการจัดหาและส่งสินค้าไม่ต้องเสียค่าขนส่ง แต่ต้องจำหน่ายในราคาที่กำหนดต่ำกว่าท้องตลาด 10-20% และยังจะสนับสนุนค่าจ้างคนงานจำหน่ายสินค้าร้านละ 1 คน ค่าจ้างวันละ 300 บาท จนสิ้นสุดโครงการ
สำหรับสินค้าที่วางขายในร้านถูกใจ เบื้องต้นเป็นสินค้าที่มียี่ห้อและราคาประหยัด เช่น ข้าวสารถุง 5 กก. เหลือ 70 บาท ประหยัดลง 40 บาท น้ำตาลทรายเหลือ กก. 22.50 บาท ประหยัด 1 บาท น้ำมันปาล์มขวด 40 บาท ประหยัด 2 บาท น้ำมันถั่วเหลืองขวด 52 บาท ประหยัด 3 บาท ปลากระป๋อง 12 บาท ประหยัด 2 บาท ซอสปรุงรสขวด 19 บาท ประหยัด 1 บาท ยาสีฟันหลอด 21 บาท ประหยัด 4 บาท ยาสระผม 16 บาท ประหยัด 4 บาท สบู่ 8.50 บาท ประหยัด 1.50 บาท ผงซักฟอก 16 บาท ประหยัด 4 บาท น้ำยาล้างจาน 17 บาท ประหยัด 12 บาท เป็นต้น