xs
xsm
sm
md
lg

สมาร์ทโฟนบี้กล้องคอมแพกต์ โฟโต้ฮัทโผล่เคเบิลดันยอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดกล้องคอมแพกต์เร่งป้องฐานตลาดสุดตัว หลังถูกสมาร์ทโฟนเบียดยอดขาย บวกคอนซูเมอร์ขยับขึ้นแท่นเลือกใช้กล้อง DSLR สูง “โฟโต้ฮัท” ทุ่ม 50-60 ล้านบาทผุดสาขาเพิ่ม 10-15 สาขาในปีนี้ มั่นใจดันยอดขายโตร่วม 25% ทะลุ 2,000 ล้านบาทเป็นปีแรก

นายสมชาย ครองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โฟโต้ฮัท กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดกล้องดิจิตอลในปีนี้มองว่าน่าจะยังคงเติบโตได้อีกราว 10% คิดเป็นมูลค่าได้กว่า 10,000-12,000 ล้านบาท แต่แนวโน้มของการเติบโตจะมาจากกลุ่มกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ ทั้งแบบ DSLR และมิรเรอร์เลนส์ ที่คาดว่าจะเติบโตได้ถึง 25-30% ส่วนกลุ่มกล้องดิจิตอลคอมแพกต์นั้นคาดว่าจะโตเพียง 2-3% เท่านั้น ขณะที่สัดส่วนกลุ่มกล้องดิจิตอลคอมแพกต์ในปีนี้จะลดลงเหลือ 65% จากปีก่อนอยู่ที่ 76% โดยกลุ่มดิจิตอล DSLR และมิรเรอร์เลนส์ขยับขึ้นเป็น 35% จาก 24% ในปีก่อน

“สาเหตุที่ทำให้กล้องดิจิตอลคอมแพกต์มีสัดส่วนลดลงนั้น มาจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่หันมาใช้สมาร์ทโฟนที่มีฟังก์ชันกล้องที่ดีและมีคุณภาพ รวมถึงฟีเจอร์การใช้งานได้ไม่แตกต่างจากกล้องดิจิตอลคอมแพกต์ในปัจจุบัน บวกกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มุ่งหากล้องดิจิตอลแบบ DSLR และเปลี่ยนเลนส์ได้มากขึ้น เนื่องจากมีราคาที่ถูกลง และมีโมเดลให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย” นายสมชายกล่าว

ส่งผลให้มองว่าทิศทางการแข่งขันในกลุ่มกล้องคอมแพกต์ปีนี้จะมุ่งพัฒนาฟีเจอร์การทำงานให้เหนือกว่ากล้องที่ติดมากับสมาร์ทโฟน เช่น ฟีเจอร์การแชร์ภาพ หรือลูกเล่นในการตกแต่งภาพ เป็นต้น ส่วนในแง่ของราคานั้น ปีนี้อาจจะขยับลดลงได้อีกเล็กน้อย เนื่องจากราคาปัจจุบันก็ถือว่าต่ำสุดมากแล้วที่ 1,900 บาท ทั้งนี้ ยังมองว่าสัดส่วนของกล้องคอมแพกต์ในอีก 2-3 ปีหลังจากนี้จะลดลงเหลือเพียง 40-50% เท่านั้น โดยกลุ่มกล้องเปลี่ยนเลนส์จะขยับสัดส่วนมาเป็น 40-50% เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดกล้องดิจิตอลค่อนข้างมาก โดยเฉพาะแบรนด์นิคอน และโซนี่ ที่มีฐานการผลิตหลักอยู่ที่ศูนย์อุตสาหกรรมโรจนะ รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากชิ้นส่วนบางตัวที่เจอน้ำท่วม ส่งผลให้ในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นมามีปัญหาสินค้าขาดตลาดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ปัญหาดังกล่าวจะจบลง เนื่องจากทางโรงงานที่ศูนย์ฯ โรจนะจะเริ่มกลับมาผลิตได้อีกครั้ง

นายสมชายกล่าวต่อว่า ในส่วนของโฟโต้ฮัท ปีที่ผ่านมามีรายได้เติบโตอยู่ ถึงแม้จะต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ โดยทำได้ 1,600 ล้านบาท จากเป้า 1,800 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากปัญหาน้ำท่วมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มองว่าตลาดกล้องดิจิตอลยังไปได้อีกไกล และผู้บริโภคเองมีความต้องการกล้องดิจิตอลในระดับที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ปีนี้เตรียมงบลงทุนไว้กว่า 50-60 ล้านบาทสำหรับขยายโฟโต้ฮัทชอปอีกราว 10-15 สาขา เฉลี่ยลงทุนสาขาละ 3-5 ล้านบาท ภายใต้โมเดลรูปแบบร้านใหม่ให้มีความเป็นสเปเชียลลิสต์เกี่ยวกับกล้องมากยิ่งขึ้น เน้นเซกเมนต์กล้องแบบเปลี่ยนเลนส์ได้เป็นหลักในการวางจำหน่าย รวมถึงแอสเซสซอรีเกี่ยวกับกล้องถ่ายรูปอีกส่วนหนึ่งด้วย

ซึ่งโมเดลร้านใหม่นี้เริ่มปรับมาตั้งแต่ปลายปีก่อน ปัจจุบันมีสาขาที่เปลี่ยนสู่โมเดลใหม่อยู่ 3 สาขา คือ เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล พระราม 9 และฟอร์จูน ส่วนปีนี้จะทยอยปรับสาขาเดิมสู่โมเดลใหม่อีกหลายสาขา เน้นสาขาขนาดใหญ่ตั้งแต่ขนาด 70 ตารางเมตรขึ้นไป เช่น ดิจิตอล เกตเวย์, แฟชั่น ไอส์แลนด์, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เป็นต้น จากปัจจุบันโฟโต้ฮัทชอปแบบสแตนด์อะโลนมีอยู่ 85 สาขา และแบบเอาต์เลตอีก 115 สาขา

โดยแผนการตลาดในปีนี้เตรียมงบรวมไว้กว่า 60-70 ล้านบาท สำหรับทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เน้นให้ความรู้แก่ลูกค้า รวมถึงจัดกิจกรรมให้ลูกค้าได้ฝึกการใช้กล้อง ซึ่งปีนี้จะมีบิ๊กอีเวนต์ 3 งาน เช่น แรลลี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีรายการโทรทัศน์ทางฟรีทีวี คือช่อง ททบ.5 อยู่ 2 รายการ ซึ่งปีนี้ได้เพิ่มการทำรายการไปออกอากาศทางเคเบิลทีวีอีก 4 ช่องด้วย คือ 1. One Channel Asia (เฉลิมกรุง) 2. TCN (ไทยโกลบอลเน็ตเวิร์ก ทางเครือ ททบ.5) 3. Man TV และ 4. ThaiVision Channel มั่นใจว่าจะส่งผลต่อภาพรวมรายได้ในสิ้นปีนี้เติบโตขึ้นกว่า 25% หรือราว 2,000 ล้านบาทได้
กำลังโหลดความคิดเห็น