“ก่อนทำธุรกิจประเภทนี้ ทำธุรกิจมาหลายตัวมาก ทั้งสำเร็จ และไม่สำเร็จ ทำตั้งแต่อยู่ปี 1 แต่ไม่ได้มองว่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญ จะชอบขวนขวายทำเองมาตลอดทั้งๆ ที่บ้านไม่อยากให้ทำ”
“จุฬาลักษณ์ เตชวัฒนสิริกุล” (กิ๊ฟ) เล่าถึงจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจในการสร้างแบรนด์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ ภายใต้ชื่อ “Doopi (ดู๊ปปี้ ดริ้งค์)” ก่อเกิดจากความชอบส่วนตัว ของการเป็นนักเดินทางท่องเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ จนได้เจอกับน้ำดื่มผสมผลไม้ที่ประเทศเกาหลี และกลับมาสร้างทุกอย่างด้วยตัวเองจนเกิดการยอมรับจาก ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่อย่างเซเว่นอีเลฟเว่น (7-Eleven) ซึ่งปัจจุบันมี 6,000 สาขาตอบรับให้วางขายได้
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่สาวรุ่นใหม่วัยเพียง 24 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในปี 2554
จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวารสารและสื่อสารมวลชน เอกโฆษณา จะประสบความสำเร็จมีธุรกิจระดับประเทศเป็นของตัวเอง
“กิ๊ฟเป็นคนที่ชอบคลุกคลีกับการลงทุน กล้าได้กล้าเสียตั้งแต่เด็ก เลยชอบคิดทำโน่นทำนี่มาตลอด ก่อนทำธุรกิจประเภทนี้ ทำธุรกิจมาหลายตัวมาก ทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จทำตั้งแต่อยู่ปี 1 แต่ไม่ได้มองว่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญ จะชอบขวนขวายทำเองมาตลอดทั้งๆ ที่บ้านไม่อยากให้ทำ อยากให้เราตั้งใจเรียนหนังสืออย่างเดียว ธุรกิจแรกเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ใน ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย หุ้นกับเพื่อน สุดท้ายมีปัญหากับเพื่อนที่ทำด้วยกันต้องเลิก นั่นเป็นประสบการณ์แรกที่ทำ”
หลังจากนั้น ก็เริ่มธุรกิจใหม่ อาศัยเป็นคนชอบท่องเที่ยว เจออะไรก็ซื้อกลับเมืองไทยมาขายเพื่อนๆ และได้ซื้อเครื่องสำอางจากประเทศเกาหลีมาขายที่มหาวิทยาลัย ขายดีอีกเช่นกัน แต่ติดขัดเรื่องเวลา จนมาเปิดร้านกาแฟ ลงทุนสูงที่สุดในชีวิตช่วงนั้น คิดเมนู ทำทุกอย่างเองหมด สุดท้ายต้องยกเลิกเพราะหมู่บ้านไม่อำนวยในเรื่องพื้นที่ขาย ต้องปิดกิจการไปอีก
“ในอดีตก็เคยเปิดบริษัททัวร์ จุดเริ่มต้นเพราะอยากไปประเทศญี่ปุ่น เลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้ไปเที่ยว และยังสามารถหารายได้จากการไปเที่ยวได้พร้อมๆ กัน สุดท้ายมาลงเอยด้วยการจัดทัวร์ที่มีความแตกต่าง โดยสามารถเลือกสถานที่ๆจะไปเองได้ในแต่ละประเทศ และจัดสรรงบประมาณได้ตามที่ลูกค้าต้องการเป็นหลัก”
การชอบท่องเที่ยว ทำให้ได้เห็นมุมมองต่างๆ ในแต่ละสถานที่ที่เราไปได้นำมาประยุกต์ให้คนทั่วไปได้เห็นเหมือนที่เราไปมา โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ชอบมากที่สุด ชอบเข้าร้านสะดวกซื้อ เห็นอะไรแปลกๆ ที่ไม่เหมือนในเมืองไทยจะซื้อมาลองชิมลองทาน ถ่ายรูปเก็บไว้เรื่อยๆ ทำให้มองเห็นว่าประเทศไทยยังมีอะไรที่ต้องพัฒนาต่อไป
โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องดื่มที่ไม่น่าจะหยุดอยู่กับที่ จึงเกิดไอเดียอยากนำเครื่องดื่มที่ดูแล้วมีความน่าสนใจและมีความแตกต่าง จากที่ประเทศไทยมีอยู่ มาให้คนไทยทุกคนได้ลิ้มลอง
“เป็นคนชอบเครื่องดื่ม มีความสุขกับการทำงานที่ชอบและรัก อีกอย่างคิดว่าเป็นทางของเราคือเพราะเราชอบเดินทาง ไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบความแตกต่าง การได้ท่องเที่ยวจะทำให้เกิดโลกทัศน์ใหม่ๆ และนำมาถ่ายทอดให้คนที่ไม่เคยไป”
ประสบการณ์จากหลายๆ ส่วนในการดำเนินธุรกิจมาตลอด ทำให้ได้ฝึกความคิดจากเดิมเป็นคนคิดเร็วทำเร็ว ทำให้ธุรกิจต่างๆ ที่เคยทำต้องหยุดไป เพราะเป็นคนใจร้อน พอทุกอย่างต้องหยุดตัวลง เลยมานั่งคิดย้อนกลับว่าเกิดจากอะไร เริ่มที่จะรู้จักศึกษาข้อมูลให้รอบครอบ คิดถึงผลบวกและผลลบ ก่อนดำเนินธุรกิจครั้งต่อไป ทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากการทำธุรกิจต่างๆสะสมจากประสบการณ์ที่ลงมือทำเอง
ธุรกิจเครื่องดื่ม “Doopi (ดู๊ปป้ ดริ้งค์)” เป็นอีกธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต นับจากจุดเริ่มต้นการตัดสินใจทำ ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี ในการฝ่าฟันกับอุปสรรคต่างๆ เริ่มจากการติดต่อขอรายะเอียดจากประเทศเกาลี ถ่ายรูปแพคเกจจิง มีการเดินทางติดต่อคุยกันไปมา จากนั้นทางเกาหลีก็เงียบหายไป 2-3 เดือน ระหว่างรอรู้สึกว่าสิ่งที่ดำเนินมาตลอดเกือบ 2 ปีเต็ม กำลังจะละลายหายไปหรือ
“ตอนนั้น ท้อแท้เกือบจะไม่ได้ออก ดู๊ปปี้ ดริ้งค์ แล้ว ทางบริษัทผู้ผลิตที่เกาหลีตอบกลับว่า ต้องยุติการติดต่อก่อน 2-3 เดือน เพราะบริษัทแม่ทางเกาหลีอยู่ระหว่างการควบรวมกิจการกับLG ต้องรอนโยบายจากผู้บริหารชุดใหม่ ซึ่งรู้สึกไม่ดีเลย ระหว่างรอคอยคำตอบ ได้แต่เฝ้ารอ และใช้เวลาที่รอศึกษาสินค้าที่ต้องการวางตลาด แต่สุดท้ายทางเกาหลี ตอบกลับมาว่า ให้เราดำเนินทุกอย่างต่อไปได้”
หลังจาก ทางเกาหลีตอบกลับมาว่า จะรับทำทุกอย่างให้เรา รู้สึกความฝันที่หวังไว้เป็นจริงแล้ว จากนั้นก็เริ่มทำแผนการตลาด ควบคู่กับการดูคุณภาพของสินค้าด้วยตัวเอง เริ่มติดต่อขอใบอนุญาตนำเข้า ขอ อย.เอง ออกแบบแพกเกจจิ้งเอง อีกจุดคือการทำแผนการตลาดครั้งนี้ คือทำอย่างไรดีถึงจะเจาะเข้าไปวางขายในร้านสะดกซื้อ 7-eleven ซึ่งปัจจุบันมีถึง 6,000 สาขา และต้องวางราคาที่ 22 บาทเท่านั้น เป้าหมาย เพื่อต้องการให้ลูกค้าติดใจ เพราะสินค้าของเรามาจากเกาหลีทั้งหมด แต่อยากให้ทุกคนลองทานได้ทุกระดับ สุดท้ายได้รับการตอรับให้วางขายใน 7-eleven ดีใจมาก มันเหมือนความฝันของเรากำลังจะกลายเป็นความจริง
สำหรับแบรนด์ดู๊ปปี้ดริ้งค์ นี้เป็นแบรนด์ของเธอเอง โดยมีทางบริษัทเจ้าของสูตรเครื่องดื่มดังกล่าวที่เกาหลี ชื่อ “บงบง” เป็นผู้ผลิตให้ และมอบสิทธิ์ให้จุฬาลักษณ์ ทำตลาดในไทยและทำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
สำหรับชื่อ บริษัท ฮานจู (ประเทศไทย) จำกัด ของ จุฬาลักษณ์ นั้น ฟังดูแล้วเหมือนภาษาเกาหลี แต่จริงๆแล้วไม่ได้มีอะไรเลย เป็นเพียงกิมมิคที่ลงตัวและสอดคล้องกันพอดี กล่าวคือชื่อ “ฮาน” มาจาก ชื่อหน้าของชื่อไทย “หะรินทร์” ซึ่งเป็นชื่อของผู้ร่วมทุนกัน ส่วน “จู” ก็คือ พยางค์หน้าของชื่อเธอเอง คือ จุฬาลักษณ์ ก็เลยนำมารวมกันเป็น ฮานจู นั่นเอง
ส่วนความฝันสูงสุดของนักธุรกิจสาวรุ่นใหม่ ถ้าเธออธิษฐานได้ เธอขออย่างเดียวในชีวิต ณ เวลานี้ คือ ขอโอกาสให้ ดู๊ปปี้ ดริ้งค์ ได้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเครื่องดื่มในใจของคนไทยทุกคน