"พาณิชย์" เร่งหามาตรการดูแลผลไม้ในที่ช่วงผลผลิตออกมาก ทั้งในภาคตะวันออก-ภาคเหนือ โดยจะใช้มาตรการบริหารจัดการผลผลิต เพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตด้อยคุณภาพ เน้นการเชื่อมโยงผลผลิตส่วนเกิน ไปยังตลาดต่างๆ ทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเสริมสภาพคล่องในการซื้อขาย และการแปรรูปผลผลิต คาดใช้เม็ดเงิน 154 ล้านบาท
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) โดยระบุว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาผลไม้ล้นตลาดในภาคตะวันออก ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง ในพื้นที่จังหวัดระยอง จันทบุรี และจังหวัดตราด รวมทั้งแก้ไขปัญหาลิ้นจี่ล้นตลาดในภาคเหนือ ภายใต้วงเงินกว่า 154 ล้านบาท
โดยการแก้ไขปัญหา คชก. จะใช้มาตรการบริหารจัดการผลผลิต เพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตด้อยคุณภาพ ซึ่งจะมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าชุดเฉพาะกิจ เพื่อมาสกัดกั้นผลผลิตด้อยคุณภาพ รวมทั้งจะเน้นการเชื่อมโยงผลผลิตส่วนเกิน ไปยังตลาดต่างๆ ทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเสริมสภาพคล่องในการซื้อขาย และการแปรรูปผลผลิต โดยการชดเชยอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 3 และเร่งการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การแก้ไขปัญหาทุเรียน มังคุด และลองกอง ล้นตลาด ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะจากการคาดการณ์ผลผลิตไม่ล้นตลาดมากนัก มีเพียงเงาะที่คาดว่า จะมีผลผลิตล้นตลาดประมาณ 4 หมื่น 7 พันตัน จากผลผลิตทั้งหมดประมาณ 3 แสน 5 หมื่นตัน
ทั้งนี้ ระยะเวลาโครงการจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2555 นี้ แต่ที่ประชุมได้มอบให้ กรมส่งเสริมการเกษตร กลับไปจัดทำรายละเอียดการใช้งบประมาณทั้งโครงการ เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น และนำเสนอที่ประชุม คชก. อีกครั้ง ในวันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2555 นี้
