อุตฯ เผยผลสำรวจความเชื่อมั่น นลท.ญี่ปุ่น เริ่มฟื้นตัว พร้อมลงทุนต่อในเมืองไทย แต่ยังกังวลปัญหาการเมือง “รมว.อุตฯ” หารือใกล้ชิด “ปธ.เจโทร” ปูทางนายกฯ เดินทางโรดโชว์ “โตเกียว-นาโกยา” กลางเดือน มี.ค.นี้
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังการเข้าพบนายเซ็ทซึโอะ อิอูจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) โดยยืนยันว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนญี่ปุ่นต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวมปรับตัวดีขึ้น โดยระดับความเชื่อมั่นกลับมาดีเกือบเท่ากับในช่วงก่อนน้ำท่วม
ขณะเดียวกัน ทางเจโทรได้มาหารือเพื่อเตรียมการรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อชักจูง และตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่น โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะมีการจัดสัมมนาใหญ่กับนักลงทุนญี่ปุ่นในวันที่ 7 มีนาคม 2555 ที่โตเกียว และวันที่ 8 มีนาคม 2555 ที่เมืองนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ บีโอไอ จะชี้แจงมาตรการการรองรับการลงทุนของประเทศไทย รวมถึงมาตรการฟื้นฟูธุรกิจและสิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับนักลงทุนที่ตัดสินใจลงทุนในพื้นที่เดิม โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ เป็นระยะเวลา 8 ปี เป็นต้น เพื่อยอกย้ำและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน เนื่องจากขณะนี้นักลงทุนบางส่วนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะในเขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ อยู่ระหว่างการรอการตัดสินใจว่าจะขยายการลงทุนต่อไปในพื้นที่เดิมหรือไม่
“การเดินทางไปญี่ปุ่นในครั้งนี้ เพื่อไปตอกย้ำ ความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และยืนยันว่า ไทยยังพร้อมที่จะเป็นแหล่งรองรับการลงทุนจากญี่ปุ่นอยู่ รวมทั้งจะใช้เวทีนี้ในการชี้แจงแผนการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของรัฐบาลให้นักลงทุนทราบ”
นอกจากนี้ รมว.อุตสาหกรรม ยังได้หารือกับ นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยบอกว่า กลุ่มโตโยต้าฝากให้ช่วยดูการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการปรับโครงสร้างทางภาษีตามความสามารถในการประหยัดพลังงาน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากเดิมที่เก็บภาษีตามขนาดของเครื่องยนต์
ทั้งนี้ การสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย โดยเจโทร พบว่า ไตรมาส 1 ปี 2555 ความเชื่อมั่นของนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยสูงขึ้น แต่ยังคงมีปัจจัยทางด้านการเมืองที่เป็นข้อกังวลของนักลงทุนอยู่ ขณะที่แนวโน้มการลงทุนของญี่ปุ่น นักลงทุนเกือบ 100% ยังยืนยันที่จะลงทุนในประเทศไทยต่อไป มีเพียง 2-5% ที่จะทบทวนว่า จะย้ายการลงทุนหรือไม่