ASTVผู้จัดการรายวัน - “จารุพงศ์” สั่ง “คมนาคม” เข้มงวดการให้บริการประชาชนต้องสะดวก, ปลอดภัย, ตรงเวลา ให้คำมั่นต่อไปนี้ต้องไม่มีสี่แยกร้อยศพ สั่งทุกโครงการออกแบบจุดตัดใหม่ บ่นหงุดหงิดทางด่วนรถติดตรงช่องจ่ายเงิน ต้องเร่งแก้ ปิ๊งไอเดียตั้งไตรภาคีดึงผู้ให้บริการ-ผู้ใช้บริการร่วมกำหนดอัตราค่าโดยสาร พร้อมขอเวลาศึกษาการขายหุ้นการบินไทย ให้ วายุภักษ์ ด้าน “บิ๊กโอ๋” ส่งมอบงาน หยอดรอขึ้นรถไฟฟ้า 10 สาย 20 บาท ในปี 58
วานนี้ (24 ม.ค.) เวลาประมาณ 06.09 น.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เข้าสักการะพระพุทธคมนาคมบพิธ หลังจากนั้นได้มี การส่งมอบงานจาก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดย พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า การส่งมอบหน้าที่ครั้งนี้จะเป็นเครื่องยืนยันว่า การดำเนินงานต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมจะมีความต่อเนื่อง โดยจะรอใช้บริการรถไฟฟ้า 10 สาย ค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายและตั๋วร่วม ในปี 2558
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม กล่าวว่า หลักการในการให้บริการคมนาคมขนส่งกับประชาชนจะต้องสะดวก รวดเร็ว ตรงเวลา ปลอดภัย ซึ่งจะเข้มงวดการให้บริการประชาชนเป็นพิเศษ จะให้ความสำคัญบริการทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เช่น การโดยสารเรือต้องมีเสื้อชูชีพตามมาตรฐาน และจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนทางพิเศษ (ทางด่วน) โดยเฉพาะบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่าทาง ส่วนโครงการขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาดำเนินการ 3 ปี 6ปี หรือ 10 ปีกว่าจะเห็นผล แต่ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนให้แล้วเสร็จตามกำหนด รวมถึงผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียนในด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์ที่ต่างประเทศให้การยอมรับ
“รถติดบนทางด่วน ผมก็รำคาญ เพราะทางด่วนกลายเป็นทางไม่ด่วน ต้องปรับปรุงให้เป็นทางด่วนจริง การให้บริการด้านคมนาคมต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงจะต้องขันน็อตเรื่องนี้เป็นพิเศษ ต่อไปนี้จะต้องไม่มีสี่แยกร้อยศพ จะต้องมีการพิจารณาแก้ไขจุดตัดของถนน โครงการใหม่ๆ จะต้องมีการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณจุดตัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งและคิดว่าเรื่องความปลอดภัย จะสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าโครงการขนาดใหญ่และเห็นผลภายใน 1-2 ปี” นายจารุพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ งานเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการเป็นเรื่องแรก คือ เร่งรัดการบูรณะฟื้นฟูถนนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ตามนโยบายนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนเพื่อใช้ซ่อมแซมถนนที่ได้รับผลกระทบแล้ว จึงต้องดำเนินการให้รวดเร็วตามแผนงานที่กำหนด มีคุณภาพ และโปร่งใส ส่วนกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจพบว่า มีเส้นทางถนนของกรมทางหลวง จำนวน 10 เส้นทาง มีการใช้จ่ายงบประมาณที่อาจไม่โป่รงใส ก็จะเข้าไปตรวจสอบ
นายจารุพงศ์ กล่าวว่า วันนี้ (25 ม.ค.) จะประชุมพร้อมกับมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมและจะมีความชัดเจนเรื่องการแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมทั้ง 2 คน คือ พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ โดยจะยึดหลักให้เกิดการเชื่อมต่อในการกำกับดูแล โดยเห็นว่า นายชัชชาติ เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ แผนและงานด้านเทคนิคต่างๆ ซึ่งการแบ่งงานจะแตกต่างจากเดิมที่แบ่งตามกรม แบ่งตามฟังก์ชัน คือ ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ซึ่งอาจจะไม่เชื่อมโยงในการใช้บริการของประชาชน เช่น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สร้างเสร็จเปิดให้บริการ 2 ปีแล้ว โครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ยังไม่เสร็จ เป็นต้น ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะเร่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการ รวมทั้งรับประกันได้ว่าในยุคนี้จะไม่มีการซื้อขายตำแหน่งแน่นอน
ส่วนการปรับค่าโดยสารตามราคาน้ำมัน จะต้องมีการพิจารณา หากผู้ประกอบการยื่นขอมา ซึ่งจากประสบการณ์ที่กระทรวงแรงงานและเคยเป็นประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบอร์ดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เห็นว่า การตั้งคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งมีผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการประชุมเพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมร่วมกัน จะเป็นแนวทางที่เหมาะสมเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางจะเป็นผู้พิจารณาปรับค่าโดยสาร ซึ่งก็อาจจะพิจารณาเพิ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วยได้หรือไม่ เพื่อหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส
สำหรับการขายหุ้นของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 2% ให้กองทุนวายุภักษ์นั้น คงไม่เข้าไปลงลึกในรายละเอียดกับทางบริษัท ขอเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น แต่การจะดำเนินการในเรื่องอะไรก็ต้องมีการศึกษาให้ชัดเจน
วานนี้ (24 ม.ค.) เวลาประมาณ 06.09 น.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เข้าสักการะพระพุทธคมนาคมบพิธ หลังจากนั้นได้มี การส่งมอบงานจาก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดย พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า การส่งมอบหน้าที่ครั้งนี้จะเป็นเครื่องยืนยันว่า การดำเนินงานต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมจะมีความต่อเนื่อง โดยจะรอใช้บริการรถไฟฟ้า 10 สาย ค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายและตั๋วร่วม ในปี 2558
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม กล่าวว่า หลักการในการให้บริการคมนาคมขนส่งกับประชาชนจะต้องสะดวก รวดเร็ว ตรงเวลา ปลอดภัย ซึ่งจะเข้มงวดการให้บริการประชาชนเป็นพิเศษ จะให้ความสำคัญบริการทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เช่น การโดยสารเรือต้องมีเสื้อชูชีพตามมาตรฐาน และจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนทางพิเศษ (ทางด่วน) โดยเฉพาะบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่าทาง ส่วนโครงการขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาดำเนินการ 3 ปี 6ปี หรือ 10 ปีกว่าจะเห็นผล แต่ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนให้แล้วเสร็จตามกำหนด รวมถึงผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียนในด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์ที่ต่างประเทศให้การยอมรับ
“รถติดบนทางด่วน ผมก็รำคาญ เพราะทางด่วนกลายเป็นทางไม่ด่วน ต้องปรับปรุงให้เป็นทางด่วนจริง การให้บริการด้านคมนาคมต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงจะต้องขันน็อตเรื่องนี้เป็นพิเศษ ต่อไปนี้จะต้องไม่มีสี่แยกร้อยศพ จะต้องมีการพิจารณาแก้ไขจุดตัดของถนน โครงการใหม่ๆ จะต้องมีการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณจุดตัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งและคิดว่าเรื่องความปลอดภัย จะสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าโครงการขนาดใหญ่และเห็นผลภายใน 1-2 ปี” นายจารุพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ งานเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการเป็นเรื่องแรก คือ เร่งรัดการบูรณะฟื้นฟูถนนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ตามนโยบายนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนเพื่อใช้ซ่อมแซมถนนที่ได้รับผลกระทบแล้ว จึงต้องดำเนินการให้รวดเร็วตามแผนงานที่กำหนด มีคุณภาพ และโปร่งใส ส่วนกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจพบว่า มีเส้นทางถนนของกรมทางหลวง จำนวน 10 เส้นทาง มีการใช้จ่ายงบประมาณที่อาจไม่โป่รงใส ก็จะเข้าไปตรวจสอบ
นายจารุพงศ์ กล่าวว่า วันนี้ (25 ม.ค.) จะประชุมพร้อมกับมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมและจะมีความชัดเจนเรื่องการแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมทั้ง 2 คน คือ พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ โดยจะยึดหลักให้เกิดการเชื่อมต่อในการกำกับดูแล โดยเห็นว่า นายชัชชาติ เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ แผนและงานด้านเทคนิคต่างๆ ซึ่งการแบ่งงานจะแตกต่างจากเดิมที่แบ่งตามกรม แบ่งตามฟังก์ชัน คือ ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ซึ่งอาจจะไม่เชื่อมโยงในการใช้บริการของประชาชน เช่น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สร้างเสร็จเปิดให้บริการ 2 ปีแล้ว โครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ยังไม่เสร็จ เป็นต้น ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะเร่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการ รวมทั้งรับประกันได้ว่าในยุคนี้จะไม่มีการซื้อขายตำแหน่งแน่นอน
ส่วนการปรับค่าโดยสารตามราคาน้ำมัน จะต้องมีการพิจารณา หากผู้ประกอบการยื่นขอมา ซึ่งจากประสบการณ์ที่กระทรวงแรงงานและเคยเป็นประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบอร์ดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เห็นว่า การตั้งคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งมีผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการประชุมเพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมร่วมกัน จะเป็นแนวทางที่เหมาะสมเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางจะเป็นผู้พิจารณาปรับค่าโดยสาร ซึ่งก็อาจจะพิจารณาเพิ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วยได้หรือไม่ เพื่อหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส
สำหรับการขายหุ้นของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 2% ให้กองทุนวายุภักษ์นั้น คงไม่เข้าไปลงลึกในรายละเอียดกับทางบริษัท ขอเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น แต่การจะดำเนินการในเรื่องอะไรก็ต้องมีการศึกษาให้ชัดเจน