ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีความขัดแย้งระหว่างการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับรองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) - ผู้บังคับการ (ผบก.) ว่า การพิจารณาครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของก.ตร. เพราะแต่ละตำแหน่งมี ความเห็นขัดแย้งกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ อีกฝ่ายหนึ่งก็เป็น ก.ตร.ที่เป็นข้าราชการประจำ เฉพาะข้อกฎหมาย ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ 8 ท่าน ยื่นหนังสือถึงประธาน กตร. ซึ่งก็คือตน ก.ตร.ในตำแหน่งไม่มีอำนาจประชุมในบอร์ดใหญ่ เพราะเป็นบอร์ดกลั่นกรองแล้ว ตนก็ทำหนังสือหารือกฤษฎีกาว่า ก.ตร.โดยตำแหน่งมีอำนาจหรือไม่ กฤษฎีกาก็บอกว่ามีอำนาจ แต่ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิบอกว่าไม่มี ก็ถกเถียงกันประมาณ 3 ชั่วโมง สุดท้ายฝ่ายตนก็ชนะ โดยอ้างอิงคำปรึกษาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต่อมา ก็มีการประชุมเรียงลำดับตามกองบัญชาการ และหน่วยขึ้นตรงกับตน เกือบทุกตำแหน่ง โหวตกันหมด บางตำแหน่ง ก.ตร. ในตำแหน่งเห็นด้วย แต่ กตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่เห็นด้วย ถ้าคะแนนไม่เท่ากัน ตนก็ไม่ต้องชี้ขาด แพ้ชนะในตัว
"ข่าวที่ออกไปว่า ผมเครียดนั้น ไม่มีหรอก จะไปเครียดเรื่องอะไรใครมาก็เป็นลูกน้องหมด แต่ว่า ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิบางคน เขาก็มีเหตุผลว่า บางตำแหน่งถึงแม้คุณไม่เสนอย้ายมา แต่มีเหตุและผล เขาก็นำเสนอใน ก.ตร.ใหญ่ บางตำแหน่งผมก็คล้อยตาม ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ บางตำแหน่งผมไม่เห็นด้วย วันนี้ทางการเมืองจะเอาแต่ใจในการแต่งตั้งตำรวจไม่ได้ เพราะระบบเขาก็แข็ง และก.ตร. ก็มาจากการเลือกตั้ง และเป็นถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่" ร.ต.อ. เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า ไม่เห็นด้วยกับตำแหน่งกองปราบหรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ในส่วนนี้เป็นการเสนอกันในที่ประชุม มี 2 ตำแหน่งคือ กองปราบ กับกองบังคับการด้านเศรษฐกิจ เพราะ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิเขาก็มีเหตุผลเสนอ ตนก็คล้อยตาม แต่พอมาโหวตแล้วกลับแพ้
ส่วนที่มีข่าวออกมาว่า ตนไม่พอใจแล้วไปทุบโต๊ะนั้น ไม่มีแน่นอน จะไปทำแบบนั้นได้อย่างไร
เมื่อถามย้ำอีกว่าไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้ง ใช่หรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่าไม่มีหรอก เมื่อถามต่ออีกว่า ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ผู้บังคับการกองปราบเป็นรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่รุ่นเดียวกัน เด็กกว่าเยอะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นรุ่นที่ 26 ผู้บังคับการกองปราบเป็นรุ่นที่ 31 ขณะนี้ทุกอย่างผ่านไปอย่างเรียบร้อย ที่ไปลงเป็นข่าวนั้น ไม่จริง
เมื่อถามว่า ส่วนตำแหน่ง ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) และ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) ที่ต้องการย้าย ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมชัดเจนหรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ตนที่เสนอย้ายตำแหน่งดังกล่าว ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ที่เสนอย้าย อีกตำแหน่งหนึ่ง ก.ตร. ที่เป็นข้าราชการประจำเป็นผู้เสนอย้าย ตนเห็นด้วยกับเขา และก็อภิปรายสนับสนุน สุดท้ายก็โหวตกัน พอโหวตแล้วทางฝ่ายเสนอก็แพ้ ซึ่งตนก็โหวตให้ แต่แพ้ เรื่องนี้ก็จบ และยุติ แล้วที่ไปบอกว่าไม่มีการสรุปให้คนเข้าใจนั้น เขาจะพิจารณาในแต่ละกองบัญชาการว่า แต่ละตำแหน่งโหวตเสร็จ ก็จะบอกว่าตรงนั้น ตรงนี้ผ่านนะ ส่วนตรงไหนที่ไม่ผ่าน ก็เก็บไว้ตอนท้าย จากนั้นค่อยมาถามกันอีกครั้งว่า สรุปแล้วมีใครคัดค้านหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ผ่านไปในแต่ละกองบัญชาการ
เมื่อถามว่า การซื้อขายตำแหน่งยังมีอยู่หรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีเด็กฝากแน่นอนรับรองได้ สมัยตนไม่ยอมให้มีเด็ดขาด
เมื่อถามอีกว่า ปกติการโยกย้ายผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้เสนอมาก่อนเข้าการประชุมก.ตร.ไม่ใช่หรือ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ก็มีผู้บังคับบัญชาเสนอมา แต่ก.ตร.ไม่เห็นชอบบางตำแหน่ง ก็ต้องมีการประชุมนอกรอบกันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามอีกว่า บรรยายในการทำงาน จะมีผลกระทบในการขับเคลื่อนเรื่องต่อไปหรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี ทุกคนเคารพกติกา เมื่อโหวตแพ้ก้ต้องจบ
เมื่อถามว่า ท่านเป็นคนที่ค่อนข้างมีความคิดแตกต่างกันมาก กับ ผบ.ตร. ใช่หรือไม่ในเรื่องการเสนอตำแหน่ง ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ มันมีสองปีก ปีกซ้ายมือตนเวลานั่งคือ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ปีกขวามือก็เป็นข้าราชการประจำ ไม่มีเรื่องความแตกแยกกันอย่างแน่นอน สบายๆ
เมื่อถามว่า ท่านยังสนับสนุนการทำงานของ ผบ.ตร. ต่อไปหรือไม่ ตำแหน่ง ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ผบ.ตร. ทำงานดี ทำงานเก่ง ตนเลือกคนไม่ผิดหรอก เรื่องแต่งตั้งโยกย้ายจบไปแล้ว ไม่มี ไม่มีจริงๆ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ก็ไปไกลเลย เขาประชุมเลิกตีสี่กว่า หาว่าตนไปนั่งกินไวน์ มันไม่มีเวลาหรอก ไม่มีเวลาออกจากห้องด้วยซ้ำ พอประชุมไปเวลาประมาณหนึ่งทุ่มสิบนาที ตนก็บอกว่าให้พักหน่อย เ พราะว่านั่งประชุมเฉพาะข้อกฎหมาย เถียงกันสามชั่วโมง
เมื่อถามว่า มันจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของท่านหรือไม่ เพราะว่าท่านเป็นผู้ดูแลตำรวจอยู่ แล้วมีเรื่องแบบนี้ออกมา ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่กระทบหรอก ถ้าไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้านสิ ค่อยกระทบ แค่โหวตแพ้จะกระทบทำไมล่ะ
เมื่อถามว่า ขณะนี้คดีอาชญากรรมอุกอาจ เกิดขึ้นเยอะทำไมเจ้าหน้าที่ไม่ติดตาม ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ก็ขยันอยู่แล้ว หลังปีใหม่นี้ตนจะเปิดยุทธการการจับกุมผู้ที่กระทำผิดตามหมายจับครั้งเก่า เลิกเขียนเถอะว่า ตนไปอยู่ไหน เมื่อโหวตแพ้ก็จบ เพราะเป็นเสียงข้างมาก เมื่อโหวตแพ้แล้วจะคิดมากว่าทำให้ตนเสียหน้าไม่มีหรอก ไม่ใช่นิสัยเฉลิม ตนมีกติกา พอ
เมื่อถามว่า บางครั้งการใช้วิธีโหวตเสียงข้างมาก บางครั้งคนที่โหวตได้อาจจะไม่มีความสามารถก็ได้ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า กฎหมายข้าราชการตำรวจเขียนไว้อย่างนั้น ไม่รู้จะทำอย่างไร แล้วตนไม่มีหรอกว่าไปนั่งหัวโต๊ะ ไปทุบโต๊ะ ไปชี้นิ้ว ไม่มี ตนไม่ทำเหมือนกับคนอื่นๆ ที่ผ่านมาหรอก เพราะมันไม่ใช่ตน เวลาตนไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หนึ่งกองเกียรติยศ ไม่ต้องตั้ง สอง ร้อยเวรไม่ต้องมารายงาน เพราะตนได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ไปก็ทำตัวสบายๆ ตนมีหลักว่า เวลาไปอย่ารับ เวลากลับอย่าส่ง สบายๆ ไม่มีอะไรหรอก
“ผมขอย้ำอีกครั้งว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ตำแหน่งไหนที่เห็นแย้งกัน แล้วโหวตแพ้ชนะแล้วก็ให้จบไป ไม่มีอะไรอีก เพราท่านผบ.ตร. ก็น่ารัก รองผบ.ตร. ก็น่ารัก คราวนี้เป็นการแต่งตั้งที่ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น เพราะปกติจะอ่านแล้วผ่าน นี้ไม่มีเลย ทุกผ่านตราอ่านหมด”
เมื่อถามว่า ข่าวที่ออกมาทำให้ขัดใจกับตำรวจหรือไม่ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่ ตำรวจไม่ขัดใจ เพราะตนไม่ได้รีดไถเขา แล้วตนไม่คิดว่าจะอาใครมาเป็น เพราะมันก็ลูกน้องทั้งนั้น ตัวเราไม่มีเรื่องผลประโยชน์ก็จบ และตนก็ไม่มีว่าจะต้องฝากใคร ไม่มีว่าจะสนับสนุนคนนี้เพราะมีผลประโยชน์เบื้องหลัง แต่ละตำแหน่งเถียงกันเลือกสาดมีเหตุผลเต็มที่
ต่อมา ก็มีการประชุมเรียงลำดับตามกองบัญชาการ และหน่วยขึ้นตรงกับตน เกือบทุกตำแหน่ง โหวตกันหมด บางตำแหน่ง ก.ตร. ในตำแหน่งเห็นด้วย แต่ กตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่เห็นด้วย ถ้าคะแนนไม่เท่ากัน ตนก็ไม่ต้องชี้ขาด แพ้ชนะในตัว
"ข่าวที่ออกไปว่า ผมเครียดนั้น ไม่มีหรอก จะไปเครียดเรื่องอะไรใครมาก็เป็นลูกน้องหมด แต่ว่า ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิบางคน เขาก็มีเหตุผลว่า บางตำแหน่งถึงแม้คุณไม่เสนอย้ายมา แต่มีเหตุและผล เขาก็นำเสนอใน ก.ตร.ใหญ่ บางตำแหน่งผมก็คล้อยตาม ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ บางตำแหน่งผมไม่เห็นด้วย วันนี้ทางการเมืองจะเอาแต่ใจในการแต่งตั้งตำรวจไม่ได้ เพราะระบบเขาก็แข็ง และก.ตร. ก็มาจากการเลือกตั้ง และเป็นถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่" ร.ต.อ. เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า ไม่เห็นด้วยกับตำแหน่งกองปราบหรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ในส่วนนี้เป็นการเสนอกันในที่ประชุม มี 2 ตำแหน่งคือ กองปราบ กับกองบังคับการด้านเศรษฐกิจ เพราะ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิเขาก็มีเหตุผลเสนอ ตนก็คล้อยตาม แต่พอมาโหวตแล้วกลับแพ้
ส่วนที่มีข่าวออกมาว่า ตนไม่พอใจแล้วไปทุบโต๊ะนั้น ไม่มีแน่นอน จะไปทำแบบนั้นได้อย่างไร
เมื่อถามย้ำอีกว่าไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้ง ใช่หรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่าไม่มีหรอก เมื่อถามต่ออีกว่า ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ผู้บังคับการกองปราบเป็นรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่รุ่นเดียวกัน เด็กกว่าเยอะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นรุ่นที่ 26 ผู้บังคับการกองปราบเป็นรุ่นที่ 31 ขณะนี้ทุกอย่างผ่านไปอย่างเรียบร้อย ที่ไปลงเป็นข่าวนั้น ไม่จริง
เมื่อถามว่า ส่วนตำแหน่ง ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) และ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) ที่ต้องการย้าย ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมชัดเจนหรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ตนที่เสนอย้ายตำแหน่งดังกล่าว ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ที่เสนอย้าย อีกตำแหน่งหนึ่ง ก.ตร. ที่เป็นข้าราชการประจำเป็นผู้เสนอย้าย ตนเห็นด้วยกับเขา และก็อภิปรายสนับสนุน สุดท้ายก็โหวตกัน พอโหวตแล้วทางฝ่ายเสนอก็แพ้ ซึ่งตนก็โหวตให้ แต่แพ้ เรื่องนี้ก็จบ และยุติ แล้วที่ไปบอกว่าไม่มีการสรุปให้คนเข้าใจนั้น เขาจะพิจารณาในแต่ละกองบัญชาการว่า แต่ละตำแหน่งโหวตเสร็จ ก็จะบอกว่าตรงนั้น ตรงนี้ผ่านนะ ส่วนตรงไหนที่ไม่ผ่าน ก็เก็บไว้ตอนท้าย จากนั้นค่อยมาถามกันอีกครั้งว่า สรุปแล้วมีใครคัดค้านหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ผ่านไปในแต่ละกองบัญชาการ
เมื่อถามว่า การซื้อขายตำแหน่งยังมีอยู่หรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีเด็กฝากแน่นอนรับรองได้ สมัยตนไม่ยอมให้มีเด็ดขาด
เมื่อถามอีกว่า ปกติการโยกย้ายผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้เสนอมาก่อนเข้าการประชุมก.ตร.ไม่ใช่หรือ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ก็มีผู้บังคับบัญชาเสนอมา แต่ก.ตร.ไม่เห็นชอบบางตำแหน่ง ก็ต้องมีการประชุมนอกรอบกันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามอีกว่า บรรยายในการทำงาน จะมีผลกระทบในการขับเคลื่อนเรื่องต่อไปหรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี ทุกคนเคารพกติกา เมื่อโหวตแพ้ก้ต้องจบ
เมื่อถามว่า ท่านเป็นคนที่ค่อนข้างมีความคิดแตกต่างกันมาก กับ ผบ.ตร. ใช่หรือไม่ในเรื่องการเสนอตำแหน่ง ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ มันมีสองปีก ปีกซ้ายมือตนเวลานั่งคือ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ปีกขวามือก็เป็นข้าราชการประจำ ไม่มีเรื่องความแตกแยกกันอย่างแน่นอน สบายๆ
เมื่อถามว่า ท่านยังสนับสนุนการทำงานของ ผบ.ตร. ต่อไปหรือไม่ ตำแหน่ง ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ผบ.ตร. ทำงานดี ทำงานเก่ง ตนเลือกคนไม่ผิดหรอก เรื่องแต่งตั้งโยกย้ายจบไปแล้ว ไม่มี ไม่มีจริงๆ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ก็ไปไกลเลย เขาประชุมเลิกตีสี่กว่า หาว่าตนไปนั่งกินไวน์ มันไม่มีเวลาหรอก ไม่มีเวลาออกจากห้องด้วยซ้ำ พอประชุมไปเวลาประมาณหนึ่งทุ่มสิบนาที ตนก็บอกว่าให้พักหน่อย เ พราะว่านั่งประชุมเฉพาะข้อกฎหมาย เถียงกันสามชั่วโมง
เมื่อถามว่า มันจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของท่านหรือไม่ เพราะว่าท่านเป็นผู้ดูแลตำรวจอยู่ แล้วมีเรื่องแบบนี้ออกมา ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่กระทบหรอก ถ้าไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้านสิ ค่อยกระทบ แค่โหวตแพ้จะกระทบทำไมล่ะ
เมื่อถามว่า ขณะนี้คดีอาชญากรรมอุกอาจ เกิดขึ้นเยอะทำไมเจ้าหน้าที่ไม่ติดตาม ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ก็ขยันอยู่แล้ว หลังปีใหม่นี้ตนจะเปิดยุทธการการจับกุมผู้ที่กระทำผิดตามหมายจับครั้งเก่า เลิกเขียนเถอะว่า ตนไปอยู่ไหน เมื่อโหวตแพ้ก็จบ เพราะเป็นเสียงข้างมาก เมื่อโหวตแพ้แล้วจะคิดมากว่าทำให้ตนเสียหน้าไม่มีหรอก ไม่ใช่นิสัยเฉลิม ตนมีกติกา พอ
เมื่อถามว่า บางครั้งการใช้วิธีโหวตเสียงข้างมาก บางครั้งคนที่โหวตได้อาจจะไม่มีความสามารถก็ได้ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า กฎหมายข้าราชการตำรวจเขียนไว้อย่างนั้น ไม่รู้จะทำอย่างไร แล้วตนไม่มีหรอกว่าไปนั่งหัวโต๊ะ ไปทุบโต๊ะ ไปชี้นิ้ว ไม่มี ตนไม่ทำเหมือนกับคนอื่นๆ ที่ผ่านมาหรอก เพราะมันไม่ใช่ตน เวลาตนไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หนึ่งกองเกียรติยศ ไม่ต้องตั้ง สอง ร้อยเวรไม่ต้องมารายงาน เพราะตนได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ไปก็ทำตัวสบายๆ ตนมีหลักว่า เวลาไปอย่ารับ เวลากลับอย่าส่ง สบายๆ ไม่มีอะไรหรอก
“ผมขอย้ำอีกครั้งว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ตำแหน่งไหนที่เห็นแย้งกัน แล้วโหวตแพ้ชนะแล้วก็ให้จบไป ไม่มีอะไรอีก เพราท่านผบ.ตร. ก็น่ารัก รองผบ.ตร. ก็น่ารัก คราวนี้เป็นการแต่งตั้งที่ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น เพราะปกติจะอ่านแล้วผ่าน นี้ไม่มีเลย ทุกผ่านตราอ่านหมด”
เมื่อถามว่า ข่าวที่ออกมาทำให้ขัดใจกับตำรวจหรือไม่ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ไม่ ตำรวจไม่ขัดใจ เพราะตนไม่ได้รีดไถเขา แล้วตนไม่คิดว่าจะอาใครมาเป็น เพราะมันก็ลูกน้องทั้งนั้น ตัวเราไม่มีเรื่องผลประโยชน์ก็จบ และตนก็ไม่มีว่าจะต้องฝากใคร ไม่มีว่าจะสนับสนุนคนนี้เพราะมีผลประโยชน์เบื้องหลัง แต่ละตำแหน่งเถียงกันเลือกสาดมีเหตุผลเต็มที่