“อารักษ์” โต้ข่าวเป็นเด็กในคาถา “ทักษิณ” ลั่นไม่ได้เข้ามาทำงานเพื่อประโยชน์ของใคร ยอมรับถูกจับตาในการเข้ารับตำแหน่ง รมว.พลังงานคนใหม่ พร้อมแจงการทำงานใน “ไทยคม” ไม่ใช่ของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง เพราะเป็นบริษัทตลาดหลักทรัพย์ ประชาชนส่วนใหญ่เป็นผู้ถือหุ้น “จารุพงศ์” ลั่นเดินหน้ารถไฟฟ้า 10 เส้นทาง ตามที่ พท.หาเสียงเอาไว้
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ยอมรับว่าถูกจับตามองในการเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ แต่ขอยืนยันว่าเป้าหมายการทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศ ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะเข้ามาทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือเพื่อตระกูลชินวัตรแต่อย่างใด ซึ่งทราบไม่นานนักว่าจะมารับตำแหน่งนี้ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยไปต่างประเทศ เพื่อพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
“ผมทำงานในบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ก็เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นบริษัทของประชาชนที่ถือหุ้น ไม่ได้เป็นของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง และการเข้ามาทำงานก็หวังทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ”
นายอารักษ์กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยว่าจะเข้ารื้องานเก่าของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ทำไว้และถูกต่อต้านหรือไม่ ทั้งการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน บัตรเครดิตและบัตรส่วนลดราคาเอ็นจีวี เพราะโดยมารยาทแล้วจะต้องเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน การทำงานแล้วจึงเข้ามาดูรายละเอียด จึงจะเปิดเผยนโยบายได้ และในส่วนตัวก็สนิทสนมกับนายพิชัย กอดคอกันคุย และพูดคุยกันถึงเรื่องงาน แต่ไม่ขอเปิดเผย
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ กล่าวว่า พร้อมจะร่วมงานกับข้าราชการของกระทรวงคมนาคมและจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ โดยมั่นใจว่าจะสามารถทำงานร่วมกับข้าราชการและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับโครงการสำคัญที่จะเร่งผลักดัน นอกจากโครงการเมกะโปรเจกต์ เช่น การจัดหารถเมล์เอ็นจีวีของ ขสมก. การเปิดประมูลรถไฟฟ้าให้ครบทั้ง 10 เส้นทาง ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญของพรรคเพื่อไทย จะเร่งสานต่อ โดยทั้งหมดเป็นโครงการที่จำเป็น และที่ผ่านมาล่าช้า
“ผมเห็นว่าระบบโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้จะมีส่วนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งความล่าช้าในอดีตทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสทั้งที่ในความจริงแล้ว ประเทศไทยมีความได้เปรียบในเชิงภูมิศาสตร์ เป็นศูนย์กลางในอาเซียนได้”
ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญคือ ในอนาคตประเทศไทยจะเข้าร่วมในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งการพัฒนาระบบขนส่งต้องมองการเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาค ทั้งทางน้ำ บก และอากาศ ทั้งหมดถือเป็นภารกิจสำคัญที่จะสานต่อ หลังจากเข้ารับหน้าที่แล้ว
ขณะที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งวันนี้ได้ขอบคุณข้าราชการของกระทรวงคมนาคมที่ร่วมงานในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งได้เก็บของออกจากห้องทำงาน พร้อมทั้งกล่าวว่า สำหรับการทำงานในกระทรวงคมนาคมที่ผ่านมา ถือว่าได้รับความร่วมมือที่ดี ข้าราชการถือว่าเป็นบุคลากรที่สำคัญที่จะช่วยสานงานต่อตามที่ตนได้ริเริ่มไว้ ส่วนการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าไม่หนักใจ ส่วนที่บางคนตั้งข้อสังเกตว่า จะมีการล้วงลูกโผทหาร รวมทั้งแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหม ยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำจะต้องมีเหตุผลรองรับเพียงพอ และทุกคนไม่ต้องเกรงกลัวต่อการที่จะเข้าล้วงลูก แต่ขอให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที