“ท่องเที่ยว” ผวาข่าวก่อการร้ายในกรุงเทพฯ ตลาดหุ้นตื่นแห่เทขายหนีความเสี่ยง

ปธ.อุตฯ ท่องเที่ยว ผวาข่าวก่อการร้ายในกรุงเทพฯ ส่งผลกระทบช่วงไฮซีซัน จี้ รบ.ตัดไฟแต่ต้นลม เร่งสร้างความมั่นใจโดยเร็ว เพราะส่งผลกระทบด้านจิตวิทยา ขณะที่ตลาดหุ้นตื่นข่าวก่อการร้าย นักลงทุนแห่เทขายลดความเสี่ยง ก่อนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ “กลาโหม” ยอมรับ มีแผนก่อการร้ายจริง ระบุ “กลุ่มฮิซบอลเลาะห์" เข้าไทยกบดาน ล็อกเป้าหมายคาร์บอมบ์ “สถานทูต-โบสถ์อิสราเอล” สางปมแค้น “ยิว” สังหารอิหร่าน สั่งยกระดับคุมเข้มหลัง 6 โมงเย็น 13 ม.ค.นี้ ส่งหน่วยข่าวประกบ พร้อมเฝ้าระวังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ “ข้าวสาร” สั่งคุมเข้ม รปภ.งานวันเด็ก

นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กล่าวถึงกรณีที่สถานทูตสหรัฐอเมริกา ออกประกาศเตือนให้ระวังเหตุก่อการร้ายในกรุงเทพฯ โดยระบุว่า ถ้าเกิดเหตุจริง ตนมองว่า หากเกิดย่านการค้าที่มีชื่อเสียง กระทบการท่องเที่ยวแน่นอน โดยเฉพาะทางด้านจิตใจ แต่ไม่มีผลในการยกเลิกการท่องเที่ยว

ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อ่อนไหวต่อเหตุการณ์ คาดเป็นกลุ่มที่เดินทางมาเอง เพราะสามารถเปลี่ยนสถานที่ท่องเที่ยวไปประเทศเพื่อนบ้านเราได้ทันที พร้อมฝากรัฐบาลสร้างความมั่นคงและดูแลคุ้มครองให้ได้

ด้านบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันนี้ ดัชนีราคาหุ้นไทยผันผวนส่วนใหญ่อ่อนตัวในแดนลบ ตามแรงเทขายทำกำไร โดยระหว่างวันดัชนีราคาหุ้นไทยปรับขึ้นสูงสุดที่ 1,053.94 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 1,041.18 จุด ปิดตลาดที่ 1,044.81 จุด ลดลง 7.42 จุด ลดลงคิดเป็นร้อยละ 0.71 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 23,837.44 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิที่ 1,002.11 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิที่ 199.22 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 371.83 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 431.06 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่ดัชนีราคาหุ้นไทยปรับลดลงแรงช่วงบ่าย หลังสถานทูตสหรัฐฯ ออกคำเตือนว่า มีโอกาสเกิดการก่อการร้ายในกรุงเทพฯ ทำให้นักลงทุนตื่นตกใจ โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศ และนักลงทุนสถาบันที่พร้อมจะขายทำกำไรอยู่ก่อนแล้ว

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เมื่อช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา หน่วยงานด้านกลาโหมของไทยได้รับการแจ้งเตือนจากสหรัฐฯ โดยบอกว่า มีผู้ก่อการร้ายเข้ามาในกรุงเทพฯ ทางเจ้าหน้าที่การข่าวของไทย และ สหรัฐฯ จึงได้ติดตามผู้ต้องสงสัย 2 คน ที่เดินทางเข้ามาอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสัญชาติใด จากการรายงานของหน่วยข่าวพบว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเชื่อมโยงกับบทบาทของสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติการในอิหร่านอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านความมั่นคงได้แจ้งเตือนแต่ละหน่วยงานให้เฝ้าระวังพื้นที่ในจุดเสี่ยงอย่างเข้มข้น แต่เท่าที่ดูพฤติกรรมของ 2 คน ยังไม่พบสิ่งผิดปกติว่าจะมีการก่อเหตุตามที่แจ้งมา แต่ยืนยันว่า หน่วยข่าว ไทย และ สหรัฐฯ จะเฝ้าติดตามตลอด 24 ชั่วโมง หากพบว่าจะลงมือก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมได้ทันที ทั้งนี้ ยังให้หน่วยข่าวเฝ้าระวังจุดเสี่ยงในหลายจุด

ทั้งนี้ กลุ่มก่อการร้ายอาจจะทำในลักษณะคาร์บอมบ์ต่อสถานที่สำคัญ อาทิ สถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย โบสถ์ชาวอิสราเอล บริษัททัวร์ และร้านอาหาร โดยมีเป้าประสงค์เพื่อจ้องล้างแค้นพวกอิสราเอลที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาชาวอิสราเอลไปสังหารชาวอิหร่านเสียชีวิตจำนวนมาก จึงมีการวางทีมไว้เพื่อทำการแก้แค้น

โดยเบื้องต้น ฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ตำรวจสันติบาล สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวของอิสราเอล ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ โดยมีชื่อว่า กลุ่มผู้ก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นชาวเลบานอน

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวยอมรับว่า หน่วยงานของไทยได้รับข่าวมีการวางแผนก่อการร้ายจริง และจะเริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 13-15 มกราคม 2555 นี้ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจึงได้ตามประกบกลุ่มผู้ต้องสงสัยว่า จะปฏิบัติการเมื่อไร แต่เนื่องจากผู้ต้องสงสัยอาศัยอยู่ไม่เป็นหลักแหล่งจึงยากต่อการติดตาม

อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบแหล่งกบดานและยับยั้ง การกระทำของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้และถ้าเกินเวลา 18.00 น.ของเย็นวันนี้ ก็จะมีการยกระดับการติดตามให้เข้มข้นขึ้นในลักษณะของผู้ก่อการร้ายที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ

อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลไทยไม่มีความประสงค์จะให้ข่าวดังกล่าวแพร่กระจายเพราะจะทำให้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและจะทำให้ประชาชนเกิดความตระหนกตกใจ ส่วนกรณีที่ทางสหรัฐฯ ออกมาเปิดข่าวดังกล่าวเพราะเขากลัวว่า ประชาชนสหรัฐฯ ที่อาศัยในประเทศไทยจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีชาวอิสราเอล ที่มีสัญชาติสหรัฐฯ อาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วย

พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ตนได้ติดตามข่าวสารจากทางสถานทูตเช่นกัน ไม่ได้ละเลย เพราะเมื่อสถานทูตระบุมาอย่างนี้เราก็ไม่นิ่งนอนใจ แต่ไม่อยากให้ประชาชนตระหนกเกินไป ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลกำลังทำงานอยู่ รวมถึงหน่วยข่าวกรองของกองทัพ ก็กำลังติดตามสถานการณ์เช่นกัน

“ถ้าเรามีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจะประสานกันทันที แต่เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบ เราต้องให้ความสนใจเพราะมาเตือนช่วงใกล้งานวันเด็ก เราต้องเพิ่มความระมัดระวังเพื่อให้เด็กได้รับความสุข โดยจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในหน่วยของกองทัพที่จัดงานวันเด็กทุกหน่วย เด็กทุกคนจะได้รับการดูแลให้เที่ยวได้อย่างสบายใจ ทั้งนี้ กองทัพจะระวัง และรักษาความปลอดภัยเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ผบ.ทบ.ยังไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ”

รายงานข่าวแจ้งว่า หน่วยข่าวกรองของอิสราเอล ได้แจ้งมายังทางการไทย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2554 พบว่า มีผู้ต้องสงสัยที่จะเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยประมาณ 2-3 คน แต่ทั้งหมดได้ลงไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนที่จะออกนอกประเทศไทย และวันที่ 8 มกราคม 2555 ได้แจ้งเตือนมาอีกครั้งว่า มีผู้ก่อการร้ายจะลักลอบเข้ามาก่อเหตุในช่วงวันที่ 13-15 มกราคม 2555 นี้ โดยเป้าหมายอยู่ที่แหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะในจุดที่มีนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกหนาแน่น เช่น ถนนข้าวสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ของไทยสามารถควบคุมตัวไว้ได้เพียง 1 คน

นอกจากนี้ สหรัฐฯ ได้แจ้งมายังไทยให้ช่วยติดตามคนร้ายที่คาดว่าจะเข้ามาก่อเหตุความรุนแรงในแหล่งท่องเที่ยวของไทย โดยทางสหรัฐฯ ได้สเกตช์รูปภาพคนร้าย 1 คน มาให้ทางการไทยในการช่วยติดตามโดยส่งมาให้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สั่งการเฝ้าระวังสถานทูตอิสราเอล เป็นพิเศษด้วย