xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้เอกชนจับตาการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม ห่วงหนี้ครัวเรือน-คอร์รัปชัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หอการค้าฯ เผยผลสำรวจภาคธุรกิจ ชี้ การฟื้นฟูหลังน้ำท่วมมีผลต่อความเชื่อมั่นทาง ศก.มากที่สุด ขณะที่ปัจจัย ศก.โลกยังอยู่ในระดับต่ำ ยอมรับภาคเอกชนจับตาแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาล และอยากเห็นการฟื้นฟูอย่างเป็นรูปธรรม “ธนวรรธน์” แนะรัฐต้องทำงานแบบเร่งด่วนและจริงจัง เพื่อให้ ปชช.เกิดความเชื่อมั่น ปัญหาครั้งนี้ได้สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคม รายได้ไม่พอรายจ่าย เสี่ยงภาระหนี้สินท่วมหัว และอาจเกิดการคอร์รัปชั่นในงบฟื้นฟูน้ำท่วม แม้ส่วนใหญ่จะเห็นว่า การลงทุนขนาดใหญ่มีความคุ้มค่า

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลสำรวจจากการสัมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 29 จังหวัดระยอง 420 ตัวอย่างว่า ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ 77.3% สนับสนุนการลงทุนในการจัดการน้ำขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพราะเห็นว่าคุ้มค่าแต่อีก 20.% ไม่แน่ใจ และ 2.0% ไม่คุ้มค่า โดยการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อการจัดการน้ำที่จะเกิดขึ้น 75% เห็นว่าควรลงทุนทำทางระบายน้ำเป็นอันดับแรก 64.6% เป็นการกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร และอีก 45.6% ทำเส้นทางการขนส่งทางน้ำ

ส่วนความเห็นต่อประเด็นประเทศไทยควรมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการป้องกันน้ำท่วมหรือไม่ 58.8% ไม่เห็นด้วย ขณะที่ 41.2% เห็นว่าควรมี ในจำนวนผู้ที่เห็นด้วยมีถึง 60.7% เห็นว่าควรจัดเก็บทุกพื้นที่โดยกำหนดวงเงินแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกัน อีก 24.6% ควรจัดเก็บทุกพื้นที่ตามวงเงินทรัพย์สิน 11.5% มีการจัดเก็บทุกพื้นที่ในอัตราเท่ากันหมด และ 3.3% มีการจัดเก็บเฉพาะในจังหวัดที่น้ำท่วม

เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อนโยบายที่รัฐบาลออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบัน เช่น รัฐบาล 1.3 แสนล้านบาทเพื่อฟื้นฟู และเตรียมวงเงินสินเชื่อ 3 หมื่นล้านบาท นั้นเพียงพอหรือไม่ ผู้ตอบส่วนใหญ่ 67.1% ตอบว่าไม่เพียงพอ และ 32.9% เพียงพอ และเมื่อถามถึงความพอใจต่อนโยบายให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยของภาครัฐ 40.6% ปานกลาง 21.7% น้อย ส่วนสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือหลังจากผ่านพ้นภัยธรรมชาติ คือการสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ การฟื้นฟูอุตสาหกรรม และ การฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม

นางเสาวณีย์กล่าวต่อว่า แต่ภาคธุรกิจมีความเป็นห่วงการใช้งบประมาณของรัฐเพื่อฟื้นฟูประเทศหลังน้ำท่วม อาจมีโอกาสเกิดคอร์รัปชัน โดยมีโอกาสเกิดมากที่สุดถึง 45.5% รองลงมา 36.6% มาก ส่วนงบประมาณที่มีความเสี่ยงแก่การคอร์รัปชั่น กลุ่มตัวอย่าง 53.1% บอกว่าการซ่อมแซมถนนและสะพานรองลงมา 19% การให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ

ส่วนผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมมีผลต่อธุรกิจนั้น ภาคธุรกิจ 95.6% ได้รับผลกระทบ และ 4.4% ไม่ได้รับผลกระทบ ในส่วนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่ 28.2% ได้รับผลกระทบทางตรงคือน้ำท่วมจังหวัด รองลงมา 26.1% ทางอ้อม คือ ตลาดปลายทางซื้อสินค้าลดลง ขณะที่ 23.9% ระบุว่าประชาชนในพื้นที่ลดการบริโภคลง และ 21.8% ประสบปัญหาขาดแหล่งวัตถุดิบ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมมีผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมากที่สุด ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรป ยังไม่กระทบเศรษฐกิจไทยในวงกว้าง แต่ภาคเอกชนยังรอดูและติดตามการช่วยเหลือของรัฐบาล

ทั้งนี้ อยากเห็นการฟื้นฟูอย่างเป็นรูปธรรม เพราะยังมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวหลังน้ำลดได้หลังไตรมาส 1 ปีหน้า และส่วนใหญ่เห็นว่าเศรษฐกิจทั้งปี 55 จะขยายตัวได้เพียง 3-4% ส่วนมุมมองทางวิชาการเห็นว่า น่าจะขยายตัวได้ 4-5%

ดังนั้น รัฐต้องเร่งให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจ และประชาชนเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) เพราะปัญหาน้ำท่วมได้สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทำให้รายได้ไม่พอรายจ่ายอาจส่งผลต่อการเป็นหนี้สิน และยังเห็นว่าอาจเกิดการคอร์รัปชั่นในงบประมาณฟื้นฟูน้ำท่วมแม้ส่วนใหญ่จะเห็นว่าการลงทุนขนาดใหญ่มีความคุ้มค่า

นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวันนี้จะมีการสรุปผลการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 29 เสนอต่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยได้ข้อสรุปใน 3 ประเด็นหลักประกอบด้วยประเด็นแรก คือ การต่อต้านคอร์รัปชั่นสร้างสรรค์ประเทศไทย ซึ่งทางภาคเอกชนจะยังเดินหน้าผลักดันอย่างต่อเนื่อง หลังจากการทุจริต ยังคงมีอย่างรุนแรง ซึ่งทางหอการค้าทั่วประเทศ จะมีการทำสัตยาบัน แสดงเจตจำนงในการไม่จ่ายเงินเพิ่มพิเศษแก่เจ้าหน้าที่รัฐ และจะร่วมกันจับตาการใช้งบประมาณที่ผิดปกติ

ส่วนประเด็นที่ 2 คือ การลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม สู่ความยั่งยืน เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนและประเด็นสุดท้าย คือ ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจหลังวิกฤตน้ำท่วมด้วยการเสนอให้มีการสร้างเส้นทางน้ำใหม่ วางผังเมืองใหม่ หลังจากปัจจุบันมีการก่อสร้างบ้านจัดสรรขวางทางน้ำเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งจะต้องบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงข้อสรุปสมุดปกขาวที่ได้จากการสรุปสัมมนาหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ครั้งที่ 29 โดยยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมรับแนวทางดังกล่าวนำไปใช้ บางข้อสรุปก็สอดคล้องกับนโยบายรัฐ แต่บางโครงการก็จะนำไปปรึกษาก่อน โดยเห็นด้วยกับโครงการเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น และโครงการลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ส่วนยุทธศาสตร์หลังน้ำลดจากต้องศึกษาและหารือร่วมกันอีก แต่สิ่งสำคัญภาครัฐและเอกชนจะต้องทำงานรวมกันมากขึ้น ทั้งการโร้ดโชว์การค้า การส่งออก การลงทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น