ASTVผู้จัดการรายวัน - “สุกำพล” เรียก รฟม.แจงข้อมูลประมูลสัญญาวางรางรถไฟฟ้าสีม่วง กรณีไจก้าไม่ยอมรับวิธีประเมินของ รฟม.ขณะที่ปมสอบวินัยร้ายแรงส่อทำ “ชัยสิทธิ์” ชวดผู้ว่าฯ รฟม.เหตุยังลาออกจากพนักงานไม่ได้
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า วานนี้ (29 พ.ย.) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เรียก นายรณชิต แย้มสอาด รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เข้าชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ งานระบบราง (สัญญาที่ 6) มูลค่า 3,663 ล้านบาท โดยสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) เสนอความคิดเห็นกลับมายัง รฟม.โดยเห็นว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ไม่ผ่านการพิจารณาด้านเทคนิค (ซองที่ 2) และให้คืนข้อเสนอด้านราคา (ซองที่ 3) ของ ซิโน-ไทย โดยให้เปิดซองราคาของของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD รายเดียว ซึ่ง รฟม.ได้ยืนยันว่าข้อมูลเป็นไปตามที่ปรากฏเป็นข่าว
นอกจากนี้ คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ยังได้ให้คณะอนุกรรมการกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ซึ่งมี นายอรรถพล ใหญ่สว่าง รองอัยการสูงสุดเป็นประธาน ตรวจสอบกรณีที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นายชัยสิทธิ์ คุรุรัตน์ รองผู้ว่าฯ รฟม.ประธานกรรมการประกวดราคา สัญญาที่ 6 รถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งทำให้ต้องหยุดการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการประกวดราคาลงชั่วคราว จนกว่าจะได้ข้อสรุป รวมถึงเรื่องที่คณะกรรมการประกวดราคาฯ สัญญา 6 รถไฟฟ้าสีม่วงต้องการส่งเรื่องกลับไปยังไจก้าเพื่อขอให้ทบทวนความเห็นเกี่ยวกับซองที่ 2 ของซิโน-ไทย อีกครั้ง ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้เช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อไจก้าไม่ยอมรับวิธีประเมินที่ รฟม.ดำเนินการ เนื่องจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ ตามหลักเกณฑ์การประกวดราคาในสัญญาที่ 6 ถือว่าขั้นตอนการดำเนินโครงการในการพิจารณาซองที่ 2 ซึ่งเป็นข้อเสนอด้านเทคนิคนั้นจบแล้ว และ รฟม.จะต้องเปิดซองที่ 3 ซึ่งเป็นข้อเสนอด้านราคาตามความเห็นไจก้าต่อไป เนื่องจากโครงการนี้ใช้เงินกู้ไจก้าในการก่อสร้าง มีข้อตกลงเงื่อนไข และหลักเกณฑ์การพิจารณาไว้ โดยรฟม.ต้องปฎิบัติตามความเห็นไจก้าทุกขั้นตอนการประกวดราคา
อย่างไรก็ตาม คาดว่า กรณีปัญหาการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงดังกล่าว อาจกระทบต่อการแต่งตั้ง นายชัยสิทธิ์ เป็นผู้ว่าฯ รฟม.ด้วย เพราะต้องรอผลจากอนุกรรมการด้านกฎหมายและระเบียบก่อน ซึ่งขณะนี้ การสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมเอกสารผลการสรรหาฯ เพื่อเสนอเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งตามขั้นตอนสรรหาฯ ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากนายชัยสิทธิ์ถูกสอบวินัยร้ายแรงจะมีปัญหาทันที เพราะจะไม่สามารถลาออกจากการเป็นพนักงาน รฟม.เพื่อไปทำสัญญาจ้างในตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟม.ตามระเบียบได้ จึงยังไม่สามารถเสนอเรื่องไปยัง สคร.ได้ในขณะนี้