ASTVผู้จัดการรายวัน - วิกฤตน้ำท่วมใหญ่ของประเทศไทยครั้งนี้ ไม่ได้กระทบกับภาคอุตสาหกรรมการผลิตเพียงอย่างเดียว ในส่วนของอุตสาหกรรมบริการ ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อทุกสถานการณ์สูงมาก ย่อมถูกผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สิ่งที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการประสบอยู่ขณะนี้ มี 2 ด้านหลัก กล่าวคือ ความวิตกกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ส่งผลให้ชะลอแผนการเดินทางท่องเที่ยว และชาวต่างชาติที่กำลังจะตัดสินใจเดินทางมาประเทศไทยก็ทยอยขอยกเลิก รวมถึงเลื่อนการเดินทาง ขณะที่การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาด อันจะนำมาซึ่งการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว การติดต่อเจรจาธุรกิจ ก็ต้องยกเลิกหรือเลื่อนการจัดงานไปด้วย อันมีเหตผลมาจาก ความไม่พร้อมของสถานที่จัดงาน ความไม่สะดวกในการเดินทางมาร่วมงานและมาท่องเที่ยว
กรุงเทพฯ-อยุธยา งดจัดงานลอยกระทง
ในส่วนของกิจกรรมที่กำหนดจัดในเดือนพฤศจิกายนนี้ แล้วต้องยกเลิกไป ได้แก่ กิจกรรมประเพณีลอยกระทงวันที่ 10 พ.ย.54 โดยยกเลิกจัดงานใน 2 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และ พระนครศรีอยุธยา แม้จะเป็นเพียง 2 แห่งที่ยกเลิกการจัดงาน เนื่องจากความไม่สะดวกของสถานที่ และการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว มีผลให้เสียโอกาสในการสร้างรายได้ในอุตสาหกรรมนี้มากกว่า 1,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการจัดงานประเพณีลอยกระทงในอีกหลายพื้นที่ที่มีความพร้อม เช่น การจัดงานลอยกระทงที่จังหวัด สุโขทัย เชียงใหม่ หาดใหญ่ พิษณุโลก ตาก รวมถึงการจัดงานลอยกระทงตามท้องถิ่นต่างๆ ในระดับ จังหวัดและระดับอำเภอ
สองงานใหญ่เลื่อนไปจัดปีหน้า
ในส่วนของกิจกรรมขนาดใหญ่ ที่ต้องเลื่อนการจัดงานออกไป ได้แก่ งานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 จากเดิมวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 - 5 กุมภาพันธ์ 2555 จำนวน 99 วัน เป็นวันที่ 14 ธันวาคม 2554 - 14 มีนาคม 2555 ระยะเวลารวม 92 วัน ซึ่งจัดโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยงานนี้มุ่งหวังกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวข้ามระหว่างภูมิภาคของประเทศไทย คาดหวังผู้เข้าชมงาน 80% เป็นนักท่องเที่ยวคนไทย แต่ถึงแม้การจัดงานจะมีขึ้นหลังน้ำลด โจทย์ใหญ่ที่คณะผู้จัดงานจะต้องคิดต่อไป คือทำอย่างไรที่จะกระตุ้นคนไทยให้เดินทางไปท่องเที่ยวในงานดังกล่าว เพราะสิ่งจำเป็นภายหลังน้ำลด คือการซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย แถมยังต้องนำเงินบางส่วนไปจัดซื้อสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน ทดแทนที่เสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ จึงเชื่อว่ากำลังซื้อในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศ คงต้องชะลอตัวไประยะหนึ่ง แม้น้ำจะลดลงแล้วก็ตาม
อีกกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญในระดับประเทศและต้องเลื่อนการจัดงานออกไป คือ งานบีโอไอแฟร์ 2011 จากเดิมวันที่ 10-25 พฤศจิกายนนี้ ไปเป็นวันที่ 5-20 ม.ค.ปีหน้า ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ ที่จะช่วงสร้างภาพลักษณ์ให้แก่ประเทศไทย ในเรื่องของความเป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญ โดยงานนี้ นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวว่า บีโอไอแฟร์จะมีพาวิลเลี่ยน 84 แห่ง บูทของรัฐเอกชนไม่น้อยกว่า 700 ราย และมีเม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท และในงานดังกล่าวนี้ เดิม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กำหนดไว้ว่า จะสร้างพาวิลเลี่ยน งานเวิลด์เอ็กซ์โป ที่ประเทศไทย ได้เสนอตัวเข้าประมูลสิทธิเป็นเจ้าภาพการจัดงานในปี พ.ศ. 2563 เพื่อแสดงความพร้อมของประเทศไทย ในโอกาศที่คณะกรรมการจัดงาน หรือ BIE ที่กำหนดเดินทางมาสำรวจความพร้อมประเทศไทย ในช่วงเดือน พ.ย.นี้ได้เห็นในเบื้องต้น
หน่วยงานรัฐยกเลิกงานสัมมนา 100%
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วม ยังได้ส่งผลให้ กิจกรรมการจัดประชุมสัมมนาอีกจำนวนมากที่ต้องเลื่อนการจัดออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยเฉพาะการจัดสัมมนาของหน่วยงานของรัฐบาล เพราะขณะนี้ต้องระดมสรรพกำลัง ทั้งงบประมาณ และบุคคลากร เข้ามาช่วยเหลือประชาชน และ พื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยมีคำยืนยันจาก นายประสิทธิ์ วิชัยสุชาติ เลขาธิการสมาคมเรือไทย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ โรงแรม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ ว่า ปัจจุบัน อัตราเข้าพักของโรงแรมริเวอร์ไซด์ เหลือ 0% จากปรกติช่วงนี้ทางโรงแรมจะมีอัตราเข้าพัก เฉลี่ยที่ 70-75% จากจำนวนห้องพัก 250 ห้อง โดยลูกค้ากว่า 60% เป็นกรุ๊ปสัมมนาจากหน่วยงานราชการ ได้ขอเลื่อนการจัดสัมมนาอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งในช่วงเทศกาลลอยกระทง จะมีจองพักกันมากขึ้น แต่ขณะนี้ก็ยกเลิกหมดเช่นกัน ในส่วนของเรือภัตตาคาริเวอร์ไซด์ ซึ่งให้บริการ ทั้ง แบบบุฟเฟ่ต์ และ รับจัดเลี้ยงงานต่างๆ ก็ต้องหยุดให้บริการ เพราะไม่มีลูกค้า ส่วนลูกค้าสัมมนาก็ขอยกเลิกเช่นกัน หากนับเป็นมูลค่าความเสียหายเฉพาะของริเวอร์ไซด์ คงเกือบ 100 ล้านบาท
ไมซ์เลื่อน 14 งาน ไปจัดปีหน้า
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัย ส่งผลให้ธุรกิจไมซ์ ได้รับผลกระทบ เสียโอกาสสร้างรายได้รวม 3,000 ล้านบาท จากจำนวนผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ ที่คาดว่าจะหายไปราว 1 แสนคน ซึ่งเป็นผลจากผู้จัดงาน ทยอยขอเลื่อนการจัดงานออกไปกว่า 14 งาน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์น้ำท่วมว่าจะลดลงเมื่อใด อีกทั้งยังต้องเผื่อระยะเวลาในการฟื้นฟู ซึ่งคาดว่างานที่เลื่อนออกจะทยอยจัดอีกครั้งใน ปลายปีนี้ หรือ ต้นปีหน้า ล่าสุด ผู้จัดงานอย่าง Reed Tradex ได้การประกาศเลื่อนการจัดงาน Metalex 2011 ไปเป็นวันที่ 21 - 24 ธันวาคม 2554 งานสะพานข้ามแม่น้ำแคว ประจำปี 2554 จะเลื่อนไปจัดช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ ปี 2555
ททท.คาดถ้ารุนแรงสุดสูญ 2.5 หมื่นล้านบาท
สำหรับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. นายสุรพล เศวตเศรนี กล่าวว่า ททท.ได้จัดทำสมมุติฐานประเมินความเสียหายของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ไว้ 3 ระดับ ซึ่งระดับ 3 เป็นความเสียหายสูงสุด หากมวลน้ำเข้าท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ และยืดเยื้อไปจนถึงเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นไฮซีซั่นที่มีนักท่องเที่ยวสูงสุด หากไปถึงเช่นนั้น ความเสียหายกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 1.35 หมื่นล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้กว่า 6.9 ล้านคน ตลาดต่างประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 3 แสนคน คิดเป็นเงินกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท
ลูกค้าเซ็นทาราเลื่อนจัดงานไปต้นปีหน้า
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัล พลาซ่า (CENTEL) กล่าวว่า ในส่วนของธุรกิจโรงแรม จากสถานการณ์น้ำท่วมมีผลให้โรงแรมในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่าง เซ็นทารา ลาดพร้าว และ เซ็นทารา ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ในกลุ่มของการจัดงานประชุมสัมมนา ขอเลื่อนการจัดงานออกไปเป็นไตรมาส 1 ปีหน้า รวมมูลค่างานกว่า 20 ล้านบาท ขณะที่อัตราเข้าพักของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ เฉพาะโรงแรงทั้ง 2 แห่ง ดังกล่าว คาดว่า ไตรมาส 4 ปีนี้ จะลดเหลือ 50% ฉุดอัตราเข้าพักรวมทั้งกรุ๊ปลดเหลือ 65% จากปรกติอัตราเฉลี่ยทั้งกรุ๊ปในไตรมาส 4 จะได้กว่า 70% สาเหตุที่ลดไม่มากเป็นเพราะ มีลูกค้าคนไทย ที่หนีน้ำท่วม มาเข้าพัก ทั้งที่เป็นรายบุคคลและ รายบริษัท
“ไตรมาส 4 ปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้รวมเฉพาะธุรกิจโรงแรม ราว 2.8 พันล้านบาท เท่ากับปีก่อน ทั้งที่น่าจะได้ดีกว่าเพราะท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวแล้ว ซึ่ง เราก็เข้าใจลูกค้า ที่มีความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทนำเที่ยวก็ห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูกทัวร์ จึงขอรอดูสถานการณ์ เชื่อว่า เมื่อกลับสู่ปรกติ นักท่องเที่ยวจะฟื้นกลับมาได้เร็วเช่นทุกครั้ง ในส่วนของบริษัท ยังทำไดเร็กเมล์ ถึงลูกค้า อัปเดตสถานการณ์ สร้างสายสัมพันธ์ที่ดีแก่ลูกค้า”
