สสปน. จัดเต็ม ทุ่ม 85 ล้านบาท ระเบิดแคมเปญ ”The Next Best Shows” หนุนผู้จัดงานแสดสินค้านานาชาติ หวังดันไทยผู้นำไมซ์อาเซียน ใน 3 ปีข้างหน้า อ้อนรัฐบาลให้ไฟเขียวงบปี 55 ที่ยื่นขอ 1.6 พันล้านบาท
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า ได้จัดทำโครงการ ”The Next Best Shows” ระยะ 3 ปี เพื่อยกระดับงานแสดงสินค้านานาชาติในไทย(เอ็กซิบิชั่น) ให้ขึ้นสู่ระดับอาเซียน ภายใต้งบประมาณ 85 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่สิงหาคมปีนี้ถึงกันยายนปี 2557 แบ่งเป็นปีแรก ใช้งบประมาณ 22 ล้านบาท ปี 2556 ใช้งบ 25 ล้านบาท และปี 2557 ใช้งบ 38 ล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ร่วมจัดงานแสดงสินค้าจากต่างประเทศเติบโต 50-60% สร้างรายได้เข้าประเทศ เฉพาะอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าได้กว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ในปี 2557
ทั้งนี้งานแสดงสินค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ด้านการตลาดและงบแมทชิ่ง ฟันด์ จากสสปน. 50% ของงบผู้จัดงาน ซึ่งต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นงานที่จัดในประเทศไทยต่อเนื่องกันมา 3 ปี และวางแผนจะจัดอีกอย่างน้อย 3 ปี , มีความเป็นงานนานาชาติตามมาตรฐาน UFI(สมาคมการจัดแสดงสินค้าโลก) จำนวนผู้ร่วมออกงานแสดงสินค้ามาจากต่างประเทศอย่างน้อย 10% ของทั้งหมด และจำนวนผู้เข้าชมงานที่มาจากต่างประเทศอย่างน้อย 5% ของทั้งหมด มีพื้นที่จัดงานอย่างน้อย 4,000 ตารางเมตร และต้องมีระบบการลงทะเบียนเข้าร่วมงานในระดับสากลตามมาตรฐาน UFI โดยเน้นให้ผู้จัดงาน ต้องทำกิจกรรมการตลาดในกลุ่มอาเซียน+6 และกิจกรรมการตลาดที่เกิดขึ้นระหว่างการจัดแสดง สินค้านั้นๆ
“ การสนับสนุนของ สสปน. ผ่านโครงการนี้ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน และ ยกระดับอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติไทย เข้าสู่งานในระดับภูมิภาค ซึ่งคาดว่า แต่ละปี จะสนับสนุนได้มากกว่า 20 งาน “
โครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่ง ในหลายๆแคมเปญของ สสปน.ภายใต้แคมเปญ Believe in Thailand ที่จะมีกิจกรรมอื่นๆ ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยเติบโต รองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นภายหลังเปิดเสรีอาเซียน หวังว่า ภายใน 3 - 5 ปี นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ จะมีการใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 1
แสนบาทต่อคนต่อทริป(พำนัก 5 วัน) จากปัจจุบันอยู่ที่ 8 หมื่นบาทต่อคนต่อทริป โดยเอ็กซิบิชั่น เป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายสูงสุดในกลุ่มไมซ์ หรือมีการใช้จ่าย ณ ปัจจุบัน เฉลี่ยที่ 1.2 แสนบาทต่อคนต่อทริป
ในปี 2554 สสปน. ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มไมซ์ 7.2 แสนคน สร้างรายได้ 5.6 หมื่นล้านบาท ในแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว โดยปี 2559 จะมีอัตราเติบโตของผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ 75% รายได้จะเพิ่มสูงขึ้น 87% จากปีนี้ ตอกย้ำไทจยป็นผู้นำในอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคอาเซียน ที่จะมีรายได้จากการขายพื้นที่รวม 3,990 ล้านบาท มีการจัดงานรวมกว่า 71 งาน สูงสุดในอาเซียน ซึ่งจากรายได้การขายพื้นที่ ไทยเป็นอันดับ 7 ในอาเซียน รองจากออสเตรเลีย และ อินเดีย
ส่วนงบประมาณปี 2555 เสนอขอไป 1,600 ล้านบาท เพิ่มจากฐานที่รัฐบาลก่อนอนุมัติไว้ให้ที่ 1,016 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2554 ที่ได้รับจัดสรร 746 ล้านบาท โดยขณะนี้ จนถึง ก.พ. 55 กว่าจะได้งบประมาณใหม่ รัฐบาลให้ใช้งบกึ่งหนึ่งจากฐานเดิม 343 ล้านบาท งานสำคัญที่จะจัดปีหน้า เช่น งานโรตารี่ 250 ล้านบาท และ งานประมูลสิทธิ์เวิลด์เอ็กโป 100 ล้านบาท
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า ได้จัดทำโครงการ ”The Next Best Shows” ระยะ 3 ปี เพื่อยกระดับงานแสดงสินค้านานาชาติในไทย(เอ็กซิบิชั่น) ให้ขึ้นสู่ระดับอาเซียน ภายใต้งบประมาณ 85 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่สิงหาคมปีนี้ถึงกันยายนปี 2557 แบ่งเป็นปีแรก ใช้งบประมาณ 22 ล้านบาท ปี 2556 ใช้งบ 25 ล้านบาท และปี 2557 ใช้งบ 38 ล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ร่วมจัดงานแสดงสินค้าจากต่างประเทศเติบโต 50-60% สร้างรายได้เข้าประเทศ เฉพาะอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าได้กว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ในปี 2557
ทั้งนี้งานแสดงสินค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ด้านการตลาดและงบแมทชิ่ง ฟันด์ จากสสปน. 50% ของงบผู้จัดงาน ซึ่งต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นงานที่จัดในประเทศไทยต่อเนื่องกันมา 3 ปี และวางแผนจะจัดอีกอย่างน้อย 3 ปี , มีความเป็นงานนานาชาติตามมาตรฐาน UFI(สมาคมการจัดแสดงสินค้าโลก) จำนวนผู้ร่วมออกงานแสดงสินค้ามาจากต่างประเทศอย่างน้อย 10% ของทั้งหมด และจำนวนผู้เข้าชมงานที่มาจากต่างประเทศอย่างน้อย 5% ของทั้งหมด มีพื้นที่จัดงานอย่างน้อย 4,000 ตารางเมตร และต้องมีระบบการลงทะเบียนเข้าร่วมงานในระดับสากลตามมาตรฐาน UFI โดยเน้นให้ผู้จัดงาน ต้องทำกิจกรรมการตลาดในกลุ่มอาเซียน+6 และกิจกรรมการตลาดที่เกิดขึ้นระหว่างการจัดแสดง สินค้านั้นๆ
“ การสนับสนุนของ สสปน. ผ่านโครงการนี้ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน และ ยกระดับอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติไทย เข้าสู่งานในระดับภูมิภาค ซึ่งคาดว่า แต่ละปี จะสนับสนุนได้มากกว่า 20 งาน “
โครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่ง ในหลายๆแคมเปญของ สสปน.ภายใต้แคมเปญ Believe in Thailand ที่จะมีกิจกรรมอื่นๆ ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยเติบโต รองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นภายหลังเปิดเสรีอาเซียน หวังว่า ภายใน 3 - 5 ปี นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ จะมีการใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 1
แสนบาทต่อคนต่อทริป(พำนัก 5 วัน) จากปัจจุบันอยู่ที่ 8 หมื่นบาทต่อคนต่อทริป โดยเอ็กซิบิชั่น เป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายสูงสุดในกลุ่มไมซ์ หรือมีการใช้จ่าย ณ ปัจจุบัน เฉลี่ยที่ 1.2 แสนบาทต่อคนต่อทริป
ในปี 2554 สสปน. ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มไมซ์ 7.2 แสนคน สร้างรายได้ 5.6 หมื่นล้านบาท ในแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว โดยปี 2559 จะมีอัตราเติบโตของผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ 75% รายได้จะเพิ่มสูงขึ้น 87% จากปีนี้ ตอกย้ำไทจยป็นผู้นำในอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคอาเซียน ที่จะมีรายได้จากการขายพื้นที่รวม 3,990 ล้านบาท มีการจัดงานรวมกว่า 71 งาน สูงสุดในอาเซียน ซึ่งจากรายได้การขายพื้นที่ ไทยเป็นอันดับ 7 ในอาเซียน รองจากออสเตรเลีย และ อินเดีย
ส่วนงบประมาณปี 2555 เสนอขอไป 1,600 ล้านบาท เพิ่มจากฐานที่รัฐบาลก่อนอนุมัติไว้ให้ที่ 1,016 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2554 ที่ได้รับจัดสรร 746 ล้านบาท โดยขณะนี้ จนถึง ก.พ. 55 กว่าจะได้งบประมาณใหม่ รัฐบาลให้ใช้งบกึ่งหนึ่งจากฐานเดิม 343 ล้านบาท งานสำคัญที่จะจัดปีหน้า เช่น งานโรตารี่ 250 ล้านบาท และ งานประมูลสิทธิ์เวิลด์เอ็กโป 100 ล้านบาท