xs
xsm
sm
md
lg

มิตรผลลุยสินค้าเพิ่มมูลค่า ส่ง"มิตเต้"น้ำเชื่อมแต่งกลิ่นเจาะร้านกาแฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มิตรผล ติดใจ เร่งพัฒนาสินค้าสร้างมูลค่าเพิ่ม เหตุตลาดน้ำตาลเพื่อการบริโภค โตเพียง 1-2% ต่อปี แถม ยังถูกกำหนดราคาโดยกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุด เปิดตัว “มิตเต้” น้ำเชื่อมแต่งกลิ่น เจาะ ร้านกาแฟ และ ค็อกเทล พบธุรกิจนี้ตลาดโตสูง 25-30% ต่อปี แต่ยังต้องใช้น้ำเชื่อมนำเข้า ตั้งเป้า 3 ปี ยอดขาขแตะ 100 ล้านบาท

นายคณุตม์ นิรันตสุขรัตน์ ผู้อำนวยการด้านการตลาดในประเทศ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำตาล ภายใต้แบรนด์ “มิตรผล” เปิดเผยว่า บริษัทยังมุ่งแนวทางนโยบายการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ความหวาน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าให้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดออกผลิตภัณฑ์น้ำเชื่อมแต่งกลิ่น ภายใต้แบรนด์ "มิตเต้" เจาะตลาดลูกค้าเป้าหมายที่เป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟ ร้านอาหาร และ ร้านเครื่องดื่มประเภทค็อกเทล

"เรามุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้ตอบรับในทุกธุรกิจ ที่ใช้น้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ซึ่ง ร้านกาแฟ ถือเป็นธุรกิจที่เติบโตสูง ต่อปีมีอัตราการเติบโตกว่า 15% โดยมูลค่าธุรกิจร้านกาแฟ 10 ปีก่อนอยู่ที่ 1-2 พันล้านบาท ปัจจุบัน ขึ้นไปอยู่ที่กว่า 6-7 พันล้านบาท ขณะที่น้ำเชื่อมแต่งกลิ่นที่ผู้ประกบอการเหล่านั้นเลือกใช้ จะเป็นสินค้านำเข้า ที่มีราคาสูงมีราคาต่อขวด ตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป บริษัทเราจึงเห็นช่องว่างทางการตลาด และพัฒนาสินค้านี้มาตอบสนอง ในราคาขายที่ถูกกว่าสวินค้านำเข้า คือวางราคาที่ 250 บาทต่อขวด "

อย่างไรก็ตาม บริษัท ได้เริ่มทำการตลาดไปบ้างแล้ว โดยจำหน่ายผ่านตัวแทนขายสินค้ากาแฟและเครื่องดื่มทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างเจรจากับเชนร้านกาแฟ ที่มีอยู่ทั้งหมด เบื้องต้น ตั้งงบในการทำตลาดช่วงแรกไว้ 8-10 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์ แนะนำสินค้า ตรงไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นร้านกาแฟ เครื่องดื่ม รวมถึงโรงเรียนสอนทำกาแฟ นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับการร่วมออกบูทในงานแสดงสินค้า ทั้งในประเทสและต่างประเทศ วางเป้าหมายยอดขายปีแรกที่ 30 ล้านบาท และภายใน 3 ปี จะเพิ่มเป็น 80-100 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีแผนในปี 2555 จะขยายตลาดออกไปต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน

นายคณุตม์ กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนพัฒนาน้ำเชื่อม ในรสชาติต่างๆ อีก และ ขยายตลาดกลุ่มผู้บริโภค ให้หลากหลาย วางนโยบายว่านับจากนี้ จะพัฒนา กลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ความหวานที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม อย่างน้อยปีละ 1 ผลิตภัณฑ์ เพราะผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ มีอัตราการเติบโตสูงเฉลี่ย 25-30% ต่อปี ส่วนผลิตภัณฑ์น้ำตาลเพื่อการบริโภคมีอัตราการเติบโตเพียง 1-2% ต่อปี และยังเป็นสินค้าที่ถูกควบคุมราคาขายจากกระทรวงพาณิชย์ ปัจจุบันบริษัทแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาลเพื่อการบริโภคในประเทศเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ น้ำตาล, น้ำตาลสำหรับทำตลาด และผลิตภัณฑ์ให้ความหวานสร้างมูลค่า ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมไว้ที่ 3,300-3,400 ล้านบาท โดยปลายปีนี้มีแผนที่จะปรับบรรจุภัณฑ์ครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปีด้วย เน้นให้มีความทันสมัยมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น