xs
xsm
sm
md
lg

กกร.เตรียมพบนายกฯ จี้ฟื้น กรอ.เฟอร์นิเจอร์ลั่นปลดคน 30% หากขึ้นค่าแรง 300 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประธาน ส.อ.ท.เผย ผลประชุม กกร.วันนี้ เพื่อเตรียมเข้าพบนายกฯ คนใหม่ เพื่อรับฟังนโยบาย และการทำงานร่วมภาครัฐ-เอกชน ยันต้องการความชัดเจนทิศทาง ศก. ทั้งภาคการผลิต และภาคการลงทุน เตรียมแนะนำฟื้น กรอ.ส่วนค่างจ้าง 300 บาท ต้องขอเวลาปรับตัว และขอให้ช่วยกลุ่มเอสเอ็มอีอย่างจริงจัง เฟอร์นิเจอร์ขู่ปลดพนักงาน 30% หากรัฐปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย( ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ซึ่งประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย โดยระบุว่า ที่ประชุมวันนี้ ได้หารือเกี่ยวกับการเข้าพบนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นปกติที่ กกร.เข้าเข้าพบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อรับฟังนโยบายรัฐบาลและหารือเกี่ยวกับการทำงาน ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกัน เช่น การตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชน (กรอ.) การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ 37 ฉบับ

“เราต้องการทราบนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาลเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาภาคการผลิตของประเทศ เพื่อกำหนดทิศทางการลงทุนของภาคเอกชน ในอนาคตว่าจะไปทิศทางไหน ทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งแนวทางการส่งเสริมภาคบริการ เช่น ท่องเที่ยว โดยในภาคเกษตรจะต้องมีแนวทางพัฒนาที่ชัดเจนในการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และการพัฒนาน้ำทั้งระบบเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ที่มีผลต่อผลผลิตภาคการเกษตร ซึ่งเป็นเรื่องระยะยาวที่ต้องวางแผนให้ชัดและผลักดันนโยบายให้ได้”

ภาคอุตสาหกรรมต้องการรับทราบนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับพลังงานว่าจะมีการอุดหนุนหรือส่งเสริมพลังงานประเภทใด และขอความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งรัฐบาลหาเสียงไว้ว่าจะมีการสร้างแลนด์บริดจ์ในภาคใต้ก็ต้องการความชัดเจนว่ารัฐบาลมีแผนการดำเนินงานอย่างไร รวมทั้งนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นที่ที่เมืองทวาย ประเทศพม่าว่ารัฐบาลมีแผนอย่างไร

ส่วนการปรับค่าจ้างแรงงานเป็นวันละ 300 บาทนั้น ต้องพัฒนาฝีมือแรงงานและช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้อยู่รอดได้ ควรช่วยเหลือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างไร แต่ต้นทุนที่ปรับขึ้นเร็ว ก็ควรให้เวลาผู้ประกอบการปรับตัว ซึ่งที่ผ่านมามีการพูดคุยกันมามากและภาคเอกชนต้องการเวลาปรับตัว 3-4 ปี

“การขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวัน ยืนยันว่าหากปรับขึ้น ควรให้เวลาเอกชนอย่างน้อย 3-4 ปี นอกจากนี้ จะเสนอให้ฟื้นคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) เพื่อใช้เป็นเวทีในการหารือร่วมกันระหว่างภาคเอกชนและรัฐบาล เนื่องจากเวทีนี้จะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน”

รัฐบาลต้องช่วยเหลือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ คือ เกษตร อาหารแปรรูป เครื่องนุ่งห่ม เพราะหลายอุตสาหกรรมมาร์จินอยู่ที่ 5-6% ถือว่าต่ำ และรัฐควรเข้ามาช่วยเหลือเรื่องเงินทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อใช้ปรับเปลี่ยนเครื่องจักร โดยจะลดต้นทุนแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

นายวีระชัย คุณาวิชยานนท์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ส.อ.ท.กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ประกอบการที่ผลิตเพื่อการส่งออก กำลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักถดถอย รวมกำลังซื้อของประเทศญี่ปุ่นที่ลดลง ทำให้เป้ายอดขายในปี 2554 ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5% แต่ขณะนี้เพิ่มขึ้นเพียง 2% และไม่มั่นใจว่า 4 เดือนที่เหลือจะได้ตามเป้าหรือไม่

ทั้งนี้ หากรัฐบาลปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก 300 บาทต่อวันในต้นปี 2555 จะทำให้กลุ่มผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรัฐภาระได้ ต้องปิดตัวและปลดคนงานออกจากระบบประมาณ 30% ของแรงงานทั้งกลุ่มที่มีประมาณ 300,000 คน แบ่งเป็นแรงงานที่มีฝีมือประมาณ 25-30% ส่วนที่เหลือ 70-75% เป็นแรงงานไม่มีฝีมือ

นายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันอัตราการว่างงานของไทยต่ำกว่า 1% ส่งผลให้ความต้องการแรงงานต่างด้าวมากขึ้น และเมื่อมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน จะทำให้นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างสูงเพื่อจูงใจให้แรงงานทำงานด้วย โดยนายจ้างบางรายยินดีจ่ายมากว่า 300 บาท แต่ก็มีนายจ้างบางรายที่มีความสามารถในการจ่ายน้อย เช่น เอสเอ็มอี ซึ่งรัฐบาลควรดูนายจ้างที่ไม่พร้อมกลุ่มนี้ด้วยว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น