xs
xsm
sm
md
lg

สินค้าจำเป็นไม่ลงตามน้ำมัน แต่ยอมตรึงถึงสิ้นปี พณ.มั่นใจคุมเงินเฟ้อที่ 3.7%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เผยสินค้า 5 รายการ ปุ๋ย ปูน กระเบื้องหลังคา แป้งสาลี เครื่องปั๊มน้ำ ยอมลดราคาตามน้ำมัน ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ยอมตรึงราคาให้แค่สิ้นปี “ยรรยง” มั่นใจดูแลเงินเฟ้อได้ตามเป้าร้อยละ 3.7



นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ประกอบการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจำนวนกว่า 200 ราย เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งผลการหารือทางผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือปรับลดราคาสินค้า โดยมี 5 สินค้า ได้แก่ 1.ปูนซีเมนต์ ลดราคาถุงละ 5-10 บาท (ลดราคาร้อยละ 4.0-7.14) ราคาปัจจุบัน 135-140 บาท 2.กระเบื้องมุงหลังคา ลดราคาแผ่นละ 5 บาท (ลดราคาร้อยละ 13.88) ราคาปัจจุบัน 36–40 บาท

3.ปุ๋ยเคมีลดราคาถุงละ 5-8 บาท (ลดราคาร้อยละ 0.55–0.79) ราคาปัจจุบัน 905-1,010 บาท เครื่องปั๊มน้ำ ลดราคาเครื่องละ 100-200 บาท (ลดราคาร้อยละ 2.17-4.35) ราคาปัจจุบัน 4,590 บาท และแป้งสาลี ลดถุงละ 10 บาท (ลดราคาร้อยละ 1.43-2.09) ราคาปัจจุบัน 477-698 บาท โดยให้มีผลภายในสัปดาห์นี้ หลังจากได้รับผลดีจากการปรับราคาน้ำมันดีเซลลง

ส่วนกลุ่มสินค้าที่ยังไม่สามารถลดราคาได้ทันที เนื่องจากได้ทำสัญญาว่าจ้างการขนส่งกับผู้ประกอบการรับเหมาขนส่งเป็นรายปี ได้แก่ หมวดของใช้ประจำวัน (ผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน) และหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง) โดยทำสัญญาล่วงหน้าถึงสิ้นปี ซึ่งปลายปีจะได้ประชุมหารือประเมินสถานการณ์และผลกระทบอีกครั้ง

“ผู้ประกอบการกลุ่มของใช้ประจำวัน ได้รับปากกระทรวงพาณิชย์จะตรึงราคาสินค้าไว้ จนถึงสิ้นปี โดยจะยังไม่มีการปรับราคาลดลง เป็นเพราะต้นทุนวัตถุดิบที่ราคาสูง และหลังจากที่สิ้นสุดจากการขอความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้าแล้วจะมีการหารือทบทวนราคาสินค้าอีกครั้ง”

ทั้งนี้ เนื่องจากน้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนหลักในการขนส่ง (มีสัดส่วนร้อยละ 30-35 ของค่าขนส่ง) และค่าขนส่งเป็นต้นทุนส่วนหนึ่งในราคาสินค้า (มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 1-3 ของราคาสินค้า ขึ้นอยู่กับประเภทและชนิดของสินค้า) และมีผลให้ต้นทุนสินค้าลดลงบางส่วน ซึ่งควรลดราคาสินค้าลงให้สอดคล้องกับต้นทุนที่ลดลง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค

ด้าน นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากราคาสินค้าที่มีการปรับราคาลดลง และตรึงราคาสินค้าในส่วนของของใช้ประจำวัน จนถึงสิ้นปี ทำให้มั่นใจว่า กระทรวงพาณิชย์จะสามารถดูแลอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ ให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 3.7 โดยจะมีการติดตามสถานการณ์ในส่วนของอาหารสด ซึ่งมีผลต่อการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้อัตราเงินเฟ้อขยายตังแบบก้าวกระโดด อาทิ เนื้อหมู และราคาสินค้าที่ผูกติดกับต้นทุนราคาน้ำมันในตลาดโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น