เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ข่าวร้ายครับพี่น้อง หลังจากผลประชุมระหว่าง รมช.พาณิชย์ ภูมิ สาระผล กับตัวแทนบริษัทร้านค้ากว่า 200 รายวานนี้ (5 ก.ย.) ผลปรากฏออกมาว่า ราคาข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟันและหมดอาหารและเครื่องดื่ม เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง จะไม่ลดราคาลงมา โดยจะตรึงราคาปัจจุบันไปจนถึงสิ้นปี ความหมายก็คือ เมื่อถึงตอนนั้นมันก็มีแนวโน้มจะขึ้นราคานั่นเอง แม้ว่าในหมวดสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้าง ปุ๋ยเคมีรวม 5 รายการจะลดราคาลงมาบ้าง ก็เชื่อว่าชาวบ้านยังไม่มีความรู้สึกเหมือนกับพวกสินค้าประจำวัน ขณะที่รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงได้แต่แบะๆ ทุด !!
00 ขณะเดียวกัน ข่าวร้ายที่ประดังเข้ามาเพิ่มเติมก็คือ วานนี้( 5 ก.ย.) ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของไทย ทั้ง ปตท.และบางจากก็ได้ปรับราคาน้ำมันขึ้นมาอีกล็อต โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นมา 40 สตางค์ ทั้งที่เพิ่งลดให้ดีใจเมื่อสัปดาห์ก่อน แถมต่อไปเงินกองทุนน้ำมันก็ร่อยหรอลงทุกวัน ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็มีแนวโน้มปรับขึ้นเรื่อยๆ เวรกรรมจริงๆ
00 จะเป็นเพราะเห็นแววจะพังก่อนกำหนดหรือเปล่าไม่อาจทราบได้ ทำให้เกิดการดันหลัง จตุพร พรพมพันธุ์ “หัวโจกแดง” ออกมาพูดดักคอไว้ล่วงหน้าว่าหลังวันที่ 5 ธ.ค.จะมีกลุ่ม “จ้องล้ม” รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมาเคลื่อนไหว และที่ผ่านมาก็พยายามพูดซ้ำถึงประเด็นดังกล่าวมาแล้วสองสามรอบ และล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ผ่านมาก็ยกขบวนไปหารือกับ “ทั่นเป็ดเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะรองนายกฯที่กำกับดูแลตำรวจถึงบ้านพักที่ย่านบางบอนเป็นที่อึกทึก
00 ขณะที่ รองฯเหลิม ก็เด้งรับลูกทันควัน ออกมาเปิดเผยว่า ข้อมูลของ “ทั่นอำมาตย์ตู่” ว่าน่ารับฟัง เพราะคงมีข้อมูลเชิงลึก และต่อไปนี้คงต้องมีการตรวจสอบ เออ ขอให้โชคดี ไม่อยากไปขัดคอเดี๋ยวจะเหมารวมว่าร่วมอยู่ในขบวนการจ้องลูกรัฐบาลของประชาชน รัฐบาลประชาธิปไตย ไปเสียอีก แต่อยากจะบอกสักคำว่า รัฐบาลจะเข้มแข็งมั่นคงหรือไม่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและผลงานของรัฐบาลเองนั่นแหละ เพราะถ้าตั้งใจทำงานเพื่อประโยชน์สุขของชาวบ้านอย่างยุติธรรม ไม่เอาแต่พวกพ้อง หรือหาผลประโยชน์ใส่ตัว ไม่ขี้โกง ถ้าทำอย่างนี้ได้มันก็อยู่ยั้งยืนยง จะอยู่ถึง 12 ปี 20 ปี ก็มีคนสนับสนุน
00 ในทางตรงข้ามถ้าผลงานออกมา “ห่วยแตก” แถมยังกลบเกลื่อน เอาแต่โทษคนอื่น มันก็เร่งวันเร่งคืนที่จะถูกล้มอยู่แล้ว และถ้าจะล้มคราวนี้ไม่น่าจะใช่ใคร คงเป็น “พวกเสื้อแดง” ด้วยกันเองมากกว่า เนื่องจากผิดหวัง และรับรู้ “ธาตุแท้” ว่าในที่สุดแล้ว “พวกเศรษฐีขี้โกง” มันไม่ได้สนใจใยดีกับ “พวกไพร่” ที่ผ่านมาเพียงแค่หลอกต้มใช้เป็นพลังมวลชนเพื่อหาประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้นเอง ดังนั้นต่อให้ตั้ง “กองกำลัง” พิทักษ์รัฐบาลใหญ่โตแค่ไหน มันก็ต้องพังวันยังค่ำ ตัวอย่างมีให้เห็นทั่วไป
00 ก็จะไม่ให้ล้มได้อย่างไร ในเมื่อแต่เรื่องที่ทำล้วนแล้วแต่สร้าง “จุดตาย” ให้กับตัวเองทั้งสิ้น อย่างล่าสุดก็ “จุดไฟ” เรื่อง “ขอพระราชทานอภัยโทษ” ให้ ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นมาอีก ทั้งที่มันไม่เข้าเกณฑ์ แถมยังใช้วิธีล่ารายชื่อชาวบ้านจำนวนนับล้านมากดดันพระองค์ท่านอีก อย่างนี้มันสมควรหรือไม่ ขณะเดียวกัน ทักษิณ มันวิเศษมาจากไหนในเมื่อถูกศาลสั่งจำคุกแล้วหลบหนี ไม่ยอมรับโทษ แต่กลับจะพระราชทานอภัยโทษโดยที่ไม่ยอมรับผิด ไม่ยอมรับโทษ อย่างนี้ไม่เรียกว่า “อภิสิทธิ์ชน” ไปหน่อยหรือ
00 วันนี้( 6 ก.ย.) คงจะรู้แล้วว่า ไผเป็นไผ แต่คนที่ต้องลุ้นมากกว่าใคร เวลานี้กลับกลายเป็น พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ “พี่เมียแม้ว” เพราะชาวบานเขารับรู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ข้าราชการคนอื่นเขาเดือดร้อน และต้องตามลุ้นกันต่อว่า ถ้ากล่อม ถวิล “ให้เปลี่ยนศรี” ได้ โดยโยกจากเลขาฯ สมช.ไปนั่งตำแหน่ง ปลัดกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งแล้วไซร้ มันจะกระเพื่อมเป็นลูกระนาดอย่างไรอีก เพราะจะไปกระทบกับคนที่จ่อเก้าอี้เอาไว้แล้วอีกบานเบอะ จะโวยวายกันไม่จบไม่สิ้น แล้วเรื่องแบบนี้อย่าบอกนะว่าจะเป็น “ผลบวก” กับรัฐบาล !!