xs
xsm
sm
md
lg

เงินเฟ้อพุ่งรับ”ปูแดง”ส.ค.สูงสุด35เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-เงินเฟ้อส.ค. พุ่ง 4.29% รับรัฐบาล”ยิ่งลักษณ์” สูงสุดในรอบ 35 เดือน หลัง”พาณิชย์”คุมไม่อยู่ ทำสินค้าดาหน้าขึ้นราคาเพียบ ทั้งข้าว แป้ง เนื้อสัตว์ ไข่ นม เครื่องประกอบอาหาร ผักและผลไม้ “ยรรยง”มั่นใจยังคุมเงินเฟ้อได้ในกรอบ 3.2-3.7% แม้ 8 เดือนทะลุ 3.72% ไปแล้ว เชื่อหลังรัฐบาลคุมน้ำมัน สินค้าอาหารเริ่มราคาลด ส่งผลให้เงินเฟ้อลดตาม ยันขึ้นค่าแรง จำนำ
ไม่ทำเงินเฟ้อพุ่ง เผยมี 73 สินค้าควรลดราคาตามน้ำมัน

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) เดือนส.ค.2554 เมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ที่ผ่านมา สูงขึ้น 0.43% เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.2553 สูงขึ้น 4.29% เป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระดับที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และเฉลี่ย 8 เดือนของปี 2554 (ม.ค.-ส.ค.) สูงขึ้น 3.72% เป็นเงินเฟ้อในระดับสูง แต่ยังอยู่ในกรอบทั้งปีที่คาดการณ์เอาไว้ 3.2-3.7%
เพราะเชื่อว่าแนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะค่อยๆ ปรับลดลง

ทั้งนี้ เงินเฟ้อส.ค.ที่สูงขึ้น 4.29% นั้น เป็นอัตราที่สูงสุดในรอบ 35 เดือน นับจากเดือนก.ย.2551 ที่เคยสูงขึ้นถึง 6% หลังจากนั้นในปี 2552 อัตราเงินเฟ้อส่วนใหญ่ขยายตัวติดลบ และเริ่มมาปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2553 และค่อยๆ ปรับลดลง จนมาถึงปี 2554 ที่เงินเฟ้อเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนส.ค. ที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสดและกลุ่มพลังงานออก เมื่อเทียบเดือนก.ค.ที่ผ่านมา สูงขึ้น 0.27% เทียบกับเดือนส.ค.2553 สูงขึ้น 2.85% และเฉลี่ย 8 เดือน สูงขึ้น 2.12%

นายยรรยงกล่าวว่า เงินเฟ้อในเดือนส.ค.ที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 8.43% โดยสินค้าสำคัญที่ราคาเพิ่มขึ้น เช่น ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง เพิ่มขึ้น 1.93% เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ 13.76% ไข่และผลิตภัณฑ์นม 4.95% ผักและผลไม้ 4.91% เครื่องประกอบอาหาร 13.67% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 1.78% อาหารสำเร็จรูป 9.7%

ขณะที่ดัชนีราคาหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 1.78% สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น เช่น หมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร เพิ่มขึ้น 2.55% หมวดเคหสถาน 1.6% หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล 1.01% หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษา และการศาสนา 0.50% และหมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า 0.82% เป็นต้น

“เงินเฟ้อเดือนส.ค.ที่สูงขึ้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะสินค้ากลุ่มอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น แต่เชื่อว่าเดือนต่อๆ ไป หลังจากที่รัฐบาลได้เข้ามาดูแลราคาน้ำมัน และแนวโน้มราคาสินค้าอาหาร ทั้งสัตว์และพืช เริ่มลดราคาลง จากอากาศที่เย็นลง ผลผลิตมีมากขึ้น จะทำให้เงินเฟ้อลดลงได้แน่ ส่วนเฉลี่ย 8 เดือนที่สูงขึ้น 3.72% ก็ยังอยู่ในกรอบที่ประเมินไว้ และคาดว่า
เงินเฟ้อในไตรมาสสุดท้ายไม่น่าจะขยับเพิ่มขึ้นมาก และทำให้เงินเฟ้อทั้งปีอยู่ในกรอบที่ตั้งไว้”นายยรรยงกล่าว

นายยรรยงกล่าวว่า สำหรับนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน และนโยบายรับจำนำข้าว ไม่ได้มีผลทำให้เงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น เพราะการปรับขึ้นค่าแรงยังไม่ได้มีผลบังคับใช้ในขณะนี้ หรือแม้จะมีการปรับเพิ่มขึ้นในปีหน้า ก็มีผลกระทบต่อเงินเฟ้อไม่มาก โดยค่าแรงเพิ่มขึ้น 1% จะมีผลต่อเงินเฟ้อเพียง 0.08% เท่านั้น ขณะที่การรับจำนำข้าว ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ
โดยหากราคาข้าวสารเพิ่มขึ้น 1% จะมีผลต่อเงินเฟ้อ 0.02% หากราคาข้าวสารเพิ่มขึ้น 50% ก็จะกระทบต่อเงินเฟ้อ 1% แต่คงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เนื่องจากรัฐบาลต้องเข้ามาดูแลอยู่แล้ว โดยจัดทำข้าวถุงราคาถูกออกจำหน่าย

สำหรับผลการศึกษาสินค้าที่ราคาควรจะลดลงตามการปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาทนั้น พบว่า มีจำนวน 73 รายการ โดยสินค้าที่จะลดราคาได้สูงสุด ได้แก่ รถยนต์นั่ง 1600 ซีซี และรถบรรทุกเล็ก 2500 ซีซี ลดได้ 84 บาท ต่ำสุดผ้าอนามัย ลดได้ 0.0008 บาท สินค้าสำคัญอื่นๆ เช่น เหล็กเส้น SR24 ขนาด 99 มม.เส้น ลดได้ 15 สตางค์ กระดาษพิมพ์เขียน 60 แกรม/ตัน ลดได้ 9.5 บาท โทรทัศน์ 21 นิ้ว ลดได้ 7.7 บาท
รถจักรยานยนต์ 100 ซีซี/คัน ลดได้ 5.3 บาท ตู้เย็น 6 คิว ลดได้ 3.7 บาท เครื่องปั๊มน้ำ ลดได้ 1.5 บาท

ส่วนสินค้าที่เหลือ เช่น ยางรถยนต์ ปูนซีเมนต์ แบตเตอรี่ ตะปู ไม้อัด สังกะสี สายไฟฟ้า น้ำมันหล่อลื่น นมผง นมสด อาหารสัตว์ ยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช กระเบืองใยหิน กาแฟสำเร็จรูป เครื่องแบบนักเรียน กระดาษชำระ น้ำมันปาล์ม น้ำส้มสายชู กระจก อลูมิเนียม ผงชูรส น้ำดื่ม น้ำอัดลม แชมพู ถุงพลาสติก ยาสีฟัน แป้งเด็ก สบู่ ปลากระป๋อง นมข้นหวาน น้ำปลา สมุดนักเรียน
ลดราคาได้เป็นเศษสตางค์
กำลังโหลดความคิดเห็น