xs
xsm
sm
md
lg

รมว.พาณิชย์ เป่านกหวีดรับจำนำข้าว 7 ต.ค.นี้ ข้าวถุงเตรียมปรับขึ้นราคา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมว.พาณิชย์ ถกใหญ่วงการค้าข้าว สรุปโครงการรับจำนำ คาดดีเดย์ 7 ต.ค.นี้ ยันไม่จำกัดปริมาณ ด้านผู้ประกอบการ อ้างกระทบต้นทุน 40-50% เตรียมขึ้นราคาข้าวถุง ต.ค.นี้

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจนโยบายรับจำนำข้าวขาวตันละ 15,000 บาท และข้าวหอมมะลิตันละ 20,000 บาท โดยประกาศเริ่มโครงการรับจำนำผลผลิตข้าวจากชาวนาหมดทุกเม็ดในวันที่ 7 ตุลาคม 2554 เพื่อให้ชาวนาปรังได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นช่วงสิ้นสุดโครงการประกันรายได้พอดี หลังการหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง ทั้งชาวนา โรงสี ผู้ผลิตข้าวถุง และผู้ส่งออกต่างมีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน

นายชาญชัย รักษธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ที่ประชุมสรุปว่า จะดำเนินการเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ในฤดูการผลิต 2554/2555 ได้ ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2554 นี้ เป็นต้นไป ซึ่งเป็นเวลาการเปิดรับจำนำเร็วกว่าที่มีการคาดหมายว่าจะเริ่มเปิดรับจำนำในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ อยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวข้าวเปลือก และเป็นช่วงหมดระยะเวลาประกันราคาข้าวของรัฐบาลชุดก่อน

โดยในส่วนของการเตรียมความพร้อม โรงสีทั่วประเทศยืนยันพร้อมเต็มที่ แม้รัฐบาลจะไม่จำกัดจำนวนการรับจำนำ โดยจะเป็นการทั้งปวงประทวน และยุ้งฉาง เพื่อให้เกษตรกรสามารถขายข้าวเปลือกได้ในราคาสูง รวมทั้งยังกำหนดให้สามารถจำนำข้าวข้ามเขตได้ แต่เป็นการข้ามเขตแบบจังหวัดต่อจังหวัดที่ใกล้เคียงกันเท่านั้น คาดว่า สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแต่ตั้ง คณะกรรมการ กขช.แล้ว

ด้าน นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุง กล่าวว่า การกำหนดราคารับจำนำดังกล่าว จะทำให้ราคาข้าวสารบรรจุถุงปรับเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะข้าวสารหอมมะลิ ที่คาดว่า จะมีต้นทุนสูงขึ้นต่อถุงขนาด 5 กิโลกรัม ร้อยละ 25 หรือมีราคาเพิ่มขึ้น 40 บาทต่อถุง

ขณะที่ข้าวขาวบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัม จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 40-50 หรือเพิ่มขึ้น 20-30 บาทต่อกิโลกรัม คาดว่าราคาใหม่นี้ จะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 นี้ เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการข้าวถุงให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยร่วมกับ องค์การคลังสินค้า (อคส.) จัดทำข้าวถุงธงฟ้า เพื่อจำหน่ายให้กับผู้บริโภคแต่ขณะนี้ ยังไม่ได้กำหนด ปริมาณ และราคาที่ชัดเจน

เช่นเดียวกับ นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด ที่ยอมรับว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล จะทำให้ราคาข้าวถุงปรับสูงขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการข้าวถุงจำเป็นที่จะต้องปรับราคาตามต้นทุนที่แท้จริง โดยขณะนี้ราคาข้าวในตลาดก็ปรับเพิ่มขึ้นแล้วแม้ยังไม่เริ่มดำเนินการรับจำนำ

ทั้งนี้ ผลผลิตข้าวนาปรังที่จะออกในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2554 คาดว่า อยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านตัน แต่จะต้องดูผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมด้วยว่าจะสร้างความเสียหายมากน้อยเพียงไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจากโครงการนี้จะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและช่วยลดความเหลี่ยมล้ำลงได้

ด้าน นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องการให้ผู้ส่งออกทำความเข้าใจและยอมรับนโยบายกับการรับจำนำข้าวทุกเม็ด ในปริมาณที่ไม่จำกัด เพื่อต้องการกระจายรายได้ให้ทั่วถึงโดยหลังจากที่มีราคาข้าวขาวตันละ 15,000 บาท และข้าวหอมมะลิตันละ 20,000 บาท จะทำให้ราคาข้าวขาวในประเทศปรับสูงใกล้ 15,000 บาท และราคาส่งออกข้าว 850 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ผู้ส่งออกแข่งขันสำบากขึ้น และส่งผลการส่งออกในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มั่นใจว่า จะส่งออกตามเป้าหมาย 10-11 ล้านตัน เนื่องจาก 8 เดือนที่ผ่านมา สามารถส่งออกได้ถึง 8 ล้านตันแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลแจ้งว่า จะให้ความช่วยเหลือผู้ส่งออกในด้านสินเชื่อ การเปิดตลาดใหม่ และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในต่างประเทศ ซึ่งการส่งออกข้าวในปีหน้ายังต้องติดตามดูราคาข้าวภายหลังรับจำนำ รวมถึงประเทศคู่แข่งอย่างอินเดียที่มีนโยบายไม่ชัดเจนว่าจะมีการระบายข้าวออกมาอีกหรือไม่

“ยอมรับว่า เป็นการยากที่จะมีความมั่นใจในการรักษาตลาดและเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 แต่เป็นนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเปลี่ยนโครงสร้างของประเทศให้มีความสมดุล เพราะฉะนั้นก็ต้องพยายามดูแลตัวตัวเองให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เพราะไม่อยากทำตัวขวาง ซึ่งผู้ส่งออกก็ต้องทำงานใกล้ชิดรัฐบาลมากที่สุด” นางสาวกอบสุข กล่าวสรุป
กำลังโหลดความคิดเห็น