เริ่มกันที่ข่าวเศรษฐกิจร้อนๆ เปิดหัวรัฐบาลปู1 "บุญทรง เตริยาภิรมย์" ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ดูแลกรมสรรพสามิต ประกาศเบรกขึ้นภาษีน้ำมันสรรพสามิต "อีกอย่างน้อย 6 เดือน!!!..."
"บุญทรง" อ้างเป็นดำริของ "นายกฯ ปู" เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชนตามนโยบายพรรคเพื่อไทย พร้อมขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลจากเดิมสิ้นสุดเดือนกันยายนออกไปเป็นสิ้นเดือนตุลาคม...
รายได้กรมสรรพสามิตที่ขาดหายไปมากกว่า 1 แสนล้านบาท เบื้องต้นให้กรมสรรพสามิตไปปรับขึ้นภาษีบาป สินค้าฟุ่มเฟือยและภาษีที่ก่อให้เกิดมลพิษ แน่นอน "เหล้า เบียร์ บุหรี่" วงเงินที่ต้องการ 5 หมื่นล้านบาท อีก 5 หมื่นล้านเล็งไว้ก็คือ "น้ำมันหล่อลื่นกับมือถือ!!.."
สำหรับมาตรการภาษีสนับสนุนการซื้อรถยนต์คันแรกค่อนข้างชัดแล้วว่าใช้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแทนการลดภาษีสรรพสามิต เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้และป้องกันการซื้อเพื่อขายต่อหรือโอนลอย โดยจะให้สิทธิสำหรับซื้ออรถยนต์คันแรก "เฉพาะรถอีโคคาร์และรถกระบะที่เป็นรถใหม่ป้ายแดงเท่านั้น 555..."
ไปกันที่แบงก์ชาติ ชั่วโมงนี้ กำลังถูก "ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" ลูกหม้อที่ไปได้ดิบได้ดีเป็น รมว.คลัง เขย่าทางอ้อม ด้วยการออกมาให้ข่าว กำลังว่าจ้าง ม.หอการค้าไทย หาวิธีนำ "ระบบตะกร้าเงิน" กลับมาใช้อีกครั้ง!!..
"ธีระชัย" อ้างว่าอนาคตสัดส่วนการค้าของประเทศในอาเซียนจะสูงขึ้น รวมถึงจีนและอินเดีย จึงต้องการให้ศึกษาให้สอดคล้องเพื่อเป็นข้อมูลในการดูแลค่าเงินบาท ไม่รู้ว่า พณฯทั่นคิดอะไรอยู่ รู้แต่ว่า ม.หอการค้าไทยจะไปรู้เรื่องค่าเงินดีกว่าแบงก์ชาติได้อย่างไร???!!!...
ปิดท้ายยังอยู่ที่วังบางขุนพรหม เดือน ก.ย.54 พนักงานเกษียณอายุ "ตามวาระปกติ" สิริรวม 110 คน ไฮไลต์ระดับผู้บริหารในตำแหน่งรองผู้ว่าการมี "อัจนา ไวความดี" ส่วนผู้ช่วยผู้ว่าการ ได้แก่ "พิมพา ถาวรายุศม์ วิชาญ อมรโรจนาวงศ์ จิตติมา ดุริยะประพันธ์ อรรคบุษย์ ไกรฤกษ์..."
ขณะที่ "โครงการเกษียณก่อนอายุฯ หรือ เออร์ลี่รีไทร์" รอบนี้เมาท์กันสนั่น ปีนี้เทียบปีก่อนพนักงานสมัครใจเข้าโครงการล้นทะลัก โดยเฉพาะคนเก่าแก่ที่ถูกเด็กใหม่เข้ามากินเงินเดือนสูงกว่า แถมกระโดดข้ามหัวอีกต่างหาก เลยพาลน้อยใจขอเข้าโครงการกันระงม "ฮือๆๆ@!..."
ที่น่าสนใจ ผู้บริหารระดับ "ผู้อำนวยการ" ขอลาออกยุบยั่บ งบประมาณค่อนข้างเยอะ ทำเอา "ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล" ประธานบอร์ด "ปาดเหงื่อ" ก็แค่วันที่ 25 ส.ค.ได้อนุมัติงบไปแล้ว 80 ล้าน จำเป็นต้องรอให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลคัดกรองอีกครั้งหนึ่ง นอกจากเรื่องงบบานแล้ว เดี๋ยวแบงก์ชาติยุคใหม่จะมีแต่เด็กมากเกิน! หืม.."หม่อมเต่า" ชอบมิใช่เหรอ?@!! อุ๊บ?!.
แต่ที่ฮือฮา 1 ในผู้ที่ขอเข้าโครงการก็คือ "นิศารัตน์ ไตรรัตน์วรกุล" ตำแหน่งผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการพิเศษ ด้านนโยบายการกำกับดูแลสากล คุ้นๆ ใช่มั๊ย? ก็ "คุณพี่นิศารัตน์" เธอเป็นภริยา "ทั่นผู้ว่าฯประสาร" นั่นเอง@!..
"บุญทรง" อ้างเป็นดำริของ "นายกฯ ปู" เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชนตามนโยบายพรรคเพื่อไทย พร้อมขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลจากเดิมสิ้นสุดเดือนกันยายนออกไปเป็นสิ้นเดือนตุลาคม...
รายได้กรมสรรพสามิตที่ขาดหายไปมากกว่า 1 แสนล้านบาท เบื้องต้นให้กรมสรรพสามิตไปปรับขึ้นภาษีบาป สินค้าฟุ่มเฟือยและภาษีที่ก่อให้เกิดมลพิษ แน่นอน "เหล้า เบียร์ บุหรี่" วงเงินที่ต้องการ 5 หมื่นล้านบาท อีก 5 หมื่นล้านเล็งไว้ก็คือ "น้ำมันหล่อลื่นกับมือถือ!!.."
สำหรับมาตรการภาษีสนับสนุนการซื้อรถยนต์คันแรกค่อนข้างชัดแล้วว่าใช้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแทนการลดภาษีสรรพสามิต เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้และป้องกันการซื้อเพื่อขายต่อหรือโอนลอย โดยจะให้สิทธิสำหรับซื้ออรถยนต์คันแรก "เฉพาะรถอีโคคาร์และรถกระบะที่เป็นรถใหม่ป้ายแดงเท่านั้น 555..."
ไปกันที่แบงก์ชาติ ชั่วโมงนี้ กำลังถูก "ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" ลูกหม้อที่ไปได้ดิบได้ดีเป็น รมว.คลัง เขย่าทางอ้อม ด้วยการออกมาให้ข่าว กำลังว่าจ้าง ม.หอการค้าไทย หาวิธีนำ "ระบบตะกร้าเงิน" กลับมาใช้อีกครั้ง!!..
"ธีระชัย" อ้างว่าอนาคตสัดส่วนการค้าของประเทศในอาเซียนจะสูงขึ้น รวมถึงจีนและอินเดีย จึงต้องการให้ศึกษาให้สอดคล้องเพื่อเป็นข้อมูลในการดูแลค่าเงินบาท ไม่รู้ว่า พณฯทั่นคิดอะไรอยู่ รู้แต่ว่า ม.หอการค้าไทยจะไปรู้เรื่องค่าเงินดีกว่าแบงก์ชาติได้อย่างไร???!!!...
ปิดท้ายยังอยู่ที่วังบางขุนพรหม เดือน ก.ย.54 พนักงานเกษียณอายุ "ตามวาระปกติ" สิริรวม 110 คน ไฮไลต์ระดับผู้บริหารในตำแหน่งรองผู้ว่าการมี "อัจนา ไวความดี" ส่วนผู้ช่วยผู้ว่าการ ได้แก่ "พิมพา ถาวรายุศม์ วิชาญ อมรโรจนาวงศ์ จิตติมา ดุริยะประพันธ์ อรรคบุษย์ ไกรฤกษ์..."
ขณะที่ "โครงการเกษียณก่อนอายุฯ หรือ เออร์ลี่รีไทร์" รอบนี้เมาท์กันสนั่น ปีนี้เทียบปีก่อนพนักงานสมัครใจเข้าโครงการล้นทะลัก โดยเฉพาะคนเก่าแก่ที่ถูกเด็กใหม่เข้ามากินเงินเดือนสูงกว่า แถมกระโดดข้ามหัวอีกต่างหาก เลยพาลน้อยใจขอเข้าโครงการกันระงม "ฮือๆๆ@!..."
ที่น่าสนใจ ผู้บริหารระดับ "ผู้อำนวยการ" ขอลาออกยุบยั่บ งบประมาณค่อนข้างเยอะ ทำเอา "ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล" ประธานบอร์ด "ปาดเหงื่อ" ก็แค่วันที่ 25 ส.ค.ได้อนุมัติงบไปแล้ว 80 ล้าน จำเป็นต้องรอให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลคัดกรองอีกครั้งหนึ่ง นอกจากเรื่องงบบานแล้ว เดี๋ยวแบงก์ชาติยุคใหม่จะมีแต่เด็กมากเกิน! หืม.."หม่อมเต่า" ชอบมิใช่เหรอ?@!! อุ๊บ?!.
แต่ที่ฮือฮา 1 ในผู้ที่ขอเข้าโครงการก็คือ "นิศารัตน์ ไตรรัตน์วรกุล" ตำแหน่งผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการพิเศษ ด้านนโยบายการกำกับดูแลสากล คุ้นๆ ใช่มั๊ย? ก็ "คุณพี่นิศารัตน์" เธอเป็นภริยา "ทั่นผู้ว่าฯประสาร" นั่นเอง@!..