บรรยากาศการแถลงนโยบายของรัฐบาล "ปู 1" เมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) แสดงให้เห็นความ "ลุกลี้ลุกลน" ในการเข้ามากุมอำนาจในการเป็นรัฐบาล เพื่อคนๆ เดียว! เห็นได้จากนโยบายที่แถลงฯ เน้นปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ว่าการเมืองหรือเศรษฐกิจ...
"นโยบายทำทันที" ทำมาก่อนแถลงก็คือปูพรหมแดงให้พี่ชายกลับเมืองไทย เมื่อวานนี้ซ่อนไว้ในนโยบายสร้างความปรองดอง หรือแม้แต่วาระแก้รัฐธรรมนูญที่ "เป็ดเหลิม" แพลมออกมา ก็ควรจะเป็นนโยบายท้ายๆ "ไม่ใช่หางโผล่ตั้งแต่วันแรก!!.."
มาดูนโยบายเศรษฐกิจดีกว่า "ปากท้อง" คือด่านแรกที่ต้องเร่งทำ กลับดำเนินนโยบายผิดพลาด ตะแบงนำโฆษณาหาเสียงช่วงเลือกตั้งมาสานต่อ เชื่อว่าสุดท้ายกลายเป็นบ่วงรัดคอ ไม่ว่ายกเว้นภาษีรถคันแรก ดอกเบี้ยบ้านคงที่ 0% 5 ปี ค่าแรงขั้นต่ำ 300 หรือเงินเดือน ป.ตรี 15,000 "นายกฯ ปู" อ่านแถลงการณ์ปรับขึ้นค่าแรงว่าแน่นอน ไม่พอ ประกาศลุยรับจำนำข้าวเปลือก!@!@!...
ไปดูความเห็นนักวิชาการ "อัทธ์ พิศาลวานิช" ผอ.ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย มองว่านโยบายรัฐบาลที่แถลง "ยังไม่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องการแข่งขันของประเทศไทยและตำแหน่งของประเทศ" โดยเฉพาะการขับเคลื่อนกลุ่มอุตสาหกรรมและบริการและภาคการเกษตร ที่จะเป็นจุดขายของประเทศในระยะกลางและระยะยาว...
นโยบายรับจำนำข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาท จะทำให้ชาวนาไทยไม่พัฒนาการแข่งขัน เพราะรัฐบาลรับซื้อข้าวไว้ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ไนประเทศที่ต้องซื้อข้าวแพง ข้าวเวียดนามก็จะถูกกว่า พี่ไทยจะตกอันดับในเวทีโลก ส่งผลต่อการแข่งขันด้านส่งออกที่เคยเป็นจุดแข็งของเศรษฐกิจ "ทราบแล้วปรับด่วน!!!..."
แต่หากเชื่อ "น้องปู" เชื่อ "พี่แม้ว" รัฐบาลก็เดินหน้า เอาประเทศไปเสี่ยง ก็สุดแล้วแต่พณฯ ทั่น!!..
วันเดียวกันนี้เอง "ทักษิณ ชินวัตร" ต้นแบบโคลนนิ่ง ให้สัมภาษณ์ที่ญี่ปุ่น การันตีการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ พี่แกบอกว่าจะเห็นผลหลังพ้น 6 เดือน ไปแล้ว แม้จะต้องเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อแต่จะลดลงได้เอง? "นช.แม้ว" มั่นใจว่าต่อไปคนไทยจะต้องพอใจนโยบายรัฐบาลใหม่ที่ทำให้เศรษฐกิจไทย โตเอาโตเอา เอาไม่เอาพี่น้อง "เอามั๊ยคะ? คริคริ อุ๊ย?..."
ใครขำก็ขำไป แต่สำหรับ "ประสาร ไตรรัตน์วรกุล" ไม่สนุกด้วย ปัญหาเงินเฟ้อพุ่งที่จ่อคอหอยอยู่ในขณะนี้ ทำให้แบงก์ชาติจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม กนง.วันนี้ (23 ส.ค.) แค่ปัจจัยเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายที่อยู่รอบด้าน วิกฤตสหรัฐฯ ยุโรปและญี่ปุ่น ที่ฉุดรั้งการส่งออกของไทย ก็เพียงพอต่การปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว หรือใครว่าไม่จริง...
นอกจากเศรษฐกิจไทยยังมีความท้าทายจากเงินทุนเคลื่อนย้ายและค่าเงินบาทที่ผันผวน "ประสาร" ยืนยันการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป อาจทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างการออมและการใช้จ่าย...
เหตุผลมากขนาดนี้ ขึ้นไปเลยทั่นผู้ว่าฯ แต่ขอเป็นครั้งสุดท้ายได้มั๊ย? ลูกหนี้ไม่อยากจ่ายดอกกู้แพง อุ๊บ! "วันนี้พอหอมปากหอมคอ เด้อค่าเด้อ!@!?..."
"นโยบายทำทันที" ทำมาก่อนแถลงก็คือปูพรหมแดงให้พี่ชายกลับเมืองไทย เมื่อวานนี้ซ่อนไว้ในนโยบายสร้างความปรองดอง หรือแม้แต่วาระแก้รัฐธรรมนูญที่ "เป็ดเหลิม" แพลมออกมา ก็ควรจะเป็นนโยบายท้ายๆ "ไม่ใช่หางโผล่ตั้งแต่วันแรก!!.."
มาดูนโยบายเศรษฐกิจดีกว่า "ปากท้อง" คือด่านแรกที่ต้องเร่งทำ กลับดำเนินนโยบายผิดพลาด ตะแบงนำโฆษณาหาเสียงช่วงเลือกตั้งมาสานต่อ เชื่อว่าสุดท้ายกลายเป็นบ่วงรัดคอ ไม่ว่ายกเว้นภาษีรถคันแรก ดอกเบี้ยบ้านคงที่ 0% 5 ปี ค่าแรงขั้นต่ำ 300 หรือเงินเดือน ป.ตรี 15,000 "นายกฯ ปู" อ่านแถลงการณ์ปรับขึ้นค่าแรงว่าแน่นอน ไม่พอ ประกาศลุยรับจำนำข้าวเปลือก!@!@!...
ไปดูความเห็นนักวิชาการ "อัทธ์ พิศาลวานิช" ผอ.ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย มองว่านโยบายรัฐบาลที่แถลง "ยังไม่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องการแข่งขันของประเทศไทยและตำแหน่งของประเทศ" โดยเฉพาะการขับเคลื่อนกลุ่มอุตสาหกรรมและบริการและภาคการเกษตร ที่จะเป็นจุดขายของประเทศในระยะกลางและระยะยาว...
นโยบายรับจำนำข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาท จะทำให้ชาวนาไทยไม่พัฒนาการแข่งขัน เพราะรัฐบาลรับซื้อข้าวไว้ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ไนประเทศที่ต้องซื้อข้าวแพง ข้าวเวียดนามก็จะถูกกว่า พี่ไทยจะตกอันดับในเวทีโลก ส่งผลต่อการแข่งขันด้านส่งออกที่เคยเป็นจุดแข็งของเศรษฐกิจ "ทราบแล้วปรับด่วน!!!..."
แต่หากเชื่อ "น้องปู" เชื่อ "พี่แม้ว" รัฐบาลก็เดินหน้า เอาประเทศไปเสี่ยง ก็สุดแล้วแต่พณฯ ทั่น!!..
วันเดียวกันนี้เอง "ทักษิณ ชินวัตร" ต้นแบบโคลนนิ่ง ให้สัมภาษณ์ที่ญี่ปุ่น การันตีการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ พี่แกบอกว่าจะเห็นผลหลังพ้น 6 เดือน ไปแล้ว แม้จะต้องเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อแต่จะลดลงได้เอง? "นช.แม้ว" มั่นใจว่าต่อไปคนไทยจะต้องพอใจนโยบายรัฐบาลใหม่ที่ทำให้เศรษฐกิจไทย โตเอาโตเอา เอาไม่เอาพี่น้อง "เอามั๊ยคะ? คริคริ อุ๊ย?..."
ใครขำก็ขำไป แต่สำหรับ "ประสาร ไตรรัตน์วรกุล" ไม่สนุกด้วย ปัญหาเงินเฟ้อพุ่งที่จ่อคอหอยอยู่ในขณะนี้ ทำให้แบงก์ชาติจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม กนง.วันนี้ (23 ส.ค.) แค่ปัจจัยเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายที่อยู่รอบด้าน วิกฤตสหรัฐฯ ยุโรปและญี่ปุ่น ที่ฉุดรั้งการส่งออกของไทย ก็เพียงพอต่การปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว หรือใครว่าไม่จริง...
นอกจากเศรษฐกิจไทยยังมีความท้าทายจากเงินทุนเคลื่อนย้ายและค่าเงินบาทที่ผันผวน "ประสาร" ยืนยันการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป อาจทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างการออมและการใช้จ่าย...
เหตุผลมากขนาดนี้ ขึ้นไปเลยทั่นผู้ว่าฯ แต่ขอเป็นครั้งสุดท้ายได้มั๊ย? ลูกหนี้ไม่อยากจ่ายดอกกู้แพง อุ๊บ! "วันนี้พอหอมปากหอมคอ เด้อค่าเด้อ!@!?..."