ASTVผู้จัดการรายวัน-“มาร์ค”ไม่ขวางแก้ รธน. ดักคอ “เพื่อไทย” ถ้าปูทางนิรโทษกรรมให้กับ “ทักษิณ”ถือไม่เหมาะ ด้าน “ส.ส.เพื่อไทย” ตั้งเป้าเริ่มสอบ 172โครงการ ที่อาจส่อไปในทางทุจริตในรัฐบาลที่แล้ว ต้นเดือน ก.ย.นี้
วานนี้ (29 ส.ค) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนโยบายพรรคเพื่อไทย ต่อแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน โดยเตรียมจะมีการแก้ไขในมาตรา 291 เพื่อเปิดช่องให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ว่า ในเมื่อรัฐบาลระบุเป็นนโยบายและยืนยันชัดเจนก็คงเป็นขั้นตอนการทำงานของเขา โดยพรรคประชาธิปัตย์ก็จะติดตามและศึกษาเรื่องนี้ว่าแนวโน้มเป็นอย่างไร การปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม รวมไปถึงการยกร่างรัฐธรรมนูญให้มีความเหมาะสมนั้นไม่ได้เป็นปัญหาถ้าไปในลักษณะที่จะทำให้การเมืองดีขึ้น แต่สิ่งที่ห่วงใยคืออย่ามีการปกปิดเพื่อนำไปสู่วิธีการนิรโทษกรรมหรือทำลายองค์กรตรวจสอบและกระทบกับสถาบันหลักประเทศชาติ ทั้งนี้คงต้องดูที่สาระและวิธีการต่าง แต่ในการประชุมรัฐสภารองนายกฯ ก็พยายามยืนยันแล้วว่าไม่มีเรื่องนิรโทษกรรม จึงต้องดูว่าข้อเท็จจริงจากนี้จะเป็นอย่างไร
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่ขั้นตอนการนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เวลานี้คงไปพูดล่วงหน้าลำบาก เพราะต้องดูในแง่เนื้อหาสาระที่จะมีการแก้ไข แต่อยากให้รัฐบาลยืนยันให้ประชาชนเข้าใจว่าจะไม่มีเรื่องนิรโทษกรรมโดยเด็ดขาด
ถามถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมจะกลับมาเป็นผู้นำประเทศหากประชาชนต้องการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเช่นนั้นคงไม่ใช่การแก้รัฐธรรมนูญ แต่เป็นการนิรโทษกรรม และกระบวนการที่นำไปสู่ตรงนั้นมีปัญหามากมาย ส่วนการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นการสอดรับกับความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น คงต้องดูไปว่าแนวคิดที่จะแก้ไขมาตรา291 จะมีขอบเขตอย่างไรเพราะทราบว่าจะมีการหารือในกลุ่มของพรรคร่วมรัฐบาลก่อน ดังนั้นต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนได้ว่าจะไม่นำมาสู่ความขัดแย้ง โดยเฉพาะเรื่องนิรโทษกรรม เพราะการสำรวจความคิดเห็นก็ค่อนข้างสะท้อนว่าประชาชนกังวลในเรื่องนี้ อีกทั้งเรื่องดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะในขณะนี้มีเรื่องของปากท้อง น้ำท่วม ภัยพิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเอาใจใส่
ที่กระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550ว่า ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีไม่ได้หมายความว่าจะเสร็จเร็ว แต่คงต้องให้ทันการเลือกตั้งทั่วไปสมัยหน้า ซึ่งประเด็นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้แก้เพื่อคนๆเดียว แต่เป็นการทำเพื่อส่วนร่วม จะเห็นได้จากการที่นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ก็ยังออกมาสนับสนุน เพราะฉะนั้นถ้าชี้แจงให้ทุกฝ่ายเข้าใจในจุดนี้ได้ กระแสต่อต้านไม่น่าเกิดขึ้น
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนขอยืนว่าไม่เคยพูดว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐสภา แต่เมื่อมีการใช้รัฐธรรมนูญไปแล้วระยะหนึ่ง เมื่อเห็นว่ามีความจำเป็นต้องแก้ไขก็พิจารณากันไปไม่เกี่ยวกับ กกต. ส่วนการจะนำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้หรือไม่นั้นตนไม่มีความคิดเห็น
**พท.เริ่มสอบ 172โครงการก.ย.นี้
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมตรวจสอบ 172โครงการที่อาจส่อไปในทางทุจริตในรัฐบาลที่แล้วว่า ตน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ นายพิชิฎ ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.นครพนม พร้อมด้วยส.ส.และคณะทำงานด้านกฎหมายของพรรค ร่วมประชุม ตรวจสอบ172โครงการที่อาจส่อไปในทางทุจริตในรัฐบาลที่แล้ว พร้อมทั้งกำหนดกรอบการทำงานเบื้องต้น โดยจะเดินหน้าตรวจสอบอย่างเป็นรูปธรรมในเดือนก.ย. ขณะนี้มี 2โครงการที่มีข้อมูลหลักฐานชัดเจน คาดว่าน่าจะเอาผิดไปถึงนักการเมืองหรือหน่วยงานต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ โดยผลตรวจสอบที่ได้จะนำไปมอบให้ประธานคณะกรรมาธิการในชุดนั้นๆ และมอบให้องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการต่อไป
คณะทำงานชุดดังกล่าวของพรรคไม่ได้ตรวจสอบเฉพาะโครงการจากรัฐบาลที่แล้ว หากรัฐบาลนี้มีประชาชนร้องเรียนมา ก็พร้อมตรวจสอบเช่นกัน ในฐานะที่เป็นตัวแทนประชาชนได้รับเลือกมาต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่ใช่เลือกปฏิบัติ เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน รวมทั้งยังไม่ได้ยินถึงกระแสข่าวว่าบางโครงการรัฐบาลเริ่มมีการหารือเตรียมหาเงินทอนกันแล้ว วันนี้ได้รับแต่เรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมว่าบางพื้นที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชยน้ำท่วม
**โฆษกปชป. ปัดซัด“รบ.-พท.”บ่ายเบี่ยง
อีกด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ ว่าที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านที่ทำงานไม่สร้างสรรค์ว่า ตั้งแต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านมีหลายประเด็นตั้งคำถามไปยังรัฐบาล แต่มักจะได้รับคำตอบเดิมๆ จากโฆษก และสมาชิกพรรคเพื่อไทย หรือรัฐบาลที่บอกว่าไม่สร้างสรรค์ ตั้งคำถามอะไรไปก็ไม่ตอบ บอกแต่เพียงเราไม่สร้างสรรค์ โดยเฉพาะในกรณีประเทศญี่ปุ่นออกวีซ่าให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยก็ทำอย่างเดียวคือฟ้องร้อง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นการฟ้องแก้เกี้ยวหรือไม่ ทั้งนี้ ตนไม่เห็นว่าไปทำอะไรที่เป็นการสร้างเรื่องเหมือนกับที่พรรคเพื่อไทยกล่าวอ้าง สุดท้ายก็มาชี้แจงบ่ายเบี่ยงมาบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สร้างสรรค์
กรณีต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษหรือญี่ปุ่นต่างก็มีกฎระเบียบชัดเจนว่าการให้บุคคลใดเข้าหรือไม่เข้าประเทศต่างก็มีกฎระเบียบ และข้อกฎหมายใดที่เกี่ยวข้องบ้าง การที่ประเทศญี่ปุ่นบอกเข้าไม่ได้เนื่องจากมีทาจำคุก แต่การให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศญี่ปุ่นได้นั้นเป็นกรณีพิเศษ เพราะได้รับการร้องขอจากรัฐบาลไทย แต่พรรคเพื่อไทยก็พยายามบ่ายเบี่ยงว่าเราไม่สร้างสรรค์แท้ที่จริงตอบคำถามไม่ได้ กรณีที่มีข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางเข้าประเทศอังกฤษนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็มีปัญหาในการทำธุรกิจอยู่ ทางประเทศอังกฤษจึงได้ยกเลิกการเข้าวีซ่าเองไม่เกี่ยวกับรัฐบาลขณะนั้น หากพ.ต.ท.ทักษิณจะเข้าประเทสอังกฤษเขาก็ต้องมีคำตอบที่ชัดเจนว่าให้เพราะอะไร นายพร้อมพงษ์ไม่ต้องร้อนตัว กลัวว่าใครจะไปทำอะไรที่ละเมิดความสัมพันระหว่างประเทศได้ ดังนั้น ตนอยากแนะนำให้ไปทำความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบระหว่างประเทศในการอนุญาตให้คนเข้าเมืองมากกกว่า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวหารัฐบาลขอความช่วยเหลือรัฐบาลญี่ปุ่นให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าประเทศว่า เป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่ต้องการกลั่นแกล้งรัฐบาล แต่เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นระบุชัดว่า รัฐบาลไทยเป็นผู้ร้องขอความช่วยเหลือ หากไม่ใช่เรื่องจริง รัฐบาลควรทำหนังสือประท้วงไปยังประเทศญี่ปุ่น และต้องพร้อมให้พรรคประชาธิปัตย์ตรวจสอบ
วานนี้ (29 ส.ค) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนโยบายพรรคเพื่อไทย ต่อแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน โดยเตรียมจะมีการแก้ไขในมาตรา 291 เพื่อเปิดช่องให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ว่า ในเมื่อรัฐบาลระบุเป็นนโยบายและยืนยันชัดเจนก็คงเป็นขั้นตอนการทำงานของเขา โดยพรรคประชาธิปัตย์ก็จะติดตามและศึกษาเรื่องนี้ว่าแนวโน้มเป็นอย่างไร การปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม รวมไปถึงการยกร่างรัฐธรรมนูญให้มีความเหมาะสมนั้นไม่ได้เป็นปัญหาถ้าไปในลักษณะที่จะทำให้การเมืองดีขึ้น แต่สิ่งที่ห่วงใยคืออย่ามีการปกปิดเพื่อนำไปสู่วิธีการนิรโทษกรรมหรือทำลายองค์กรตรวจสอบและกระทบกับสถาบันหลักประเทศชาติ ทั้งนี้คงต้องดูที่สาระและวิธีการต่าง แต่ในการประชุมรัฐสภารองนายกฯ ก็พยายามยืนยันแล้วว่าไม่มีเรื่องนิรโทษกรรม จึงต้องดูว่าข้อเท็จจริงจากนี้จะเป็นอย่างไร
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่ขั้นตอนการนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เวลานี้คงไปพูดล่วงหน้าลำบาก เพราะต้องดูในแง่เนื้อหาสาระที่จะมีการแก้ไข แต่อยากให้รัฐบาลยืนยันให้ประชาชนเข้าใจว่าจะไม่มีเรื่องนิรโทษกรรมโดยเด็ดขาด
ถามถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมจะกลับมาเป็นผู้นำประเทศหากประชาชนต้องการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเช่นนั้นคงไม่ใช่การแก้รัฐธรรมนูญ แต่เป็นการนิรโทษกรรม และกระบวนการที่นำไปสู่ตรงนั้นมีปัญหามากมาย ส่วนการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นการสอดรับกับความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น คงต้องดูไปว่าแนวคิดที่จะแก้ไขมาตรา291 จะมีขอบเขตอย่างไรเพราะทราบว่าจะมีการหารือในกลุ่มของพรรคร่วมรัฐบาลก่อน ดังนั้นต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนได้ว่าจะไม่นำมาสู่ความขัดแย้ง โดยเฉพาะเรื่องนิรโทษกรรม เพราะการสำรวจความคิดเห็นก็ค่อนข้างสะท้อนว่าประชาชนกังวลในเรื่องนี้ อีกทั้งเรื่องดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะในขณะนี้มีเรื่องของปากท้อง น้ำท่วม ภัยพิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเอาใจใส่
ที่กระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550ว่า ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีไม่ได้หมายความว่าจะเสร็จเร็ว แต่คงต้องให้ทันการเลือกตั้งทั่วไปสมัยหน้า ซึ่งประเด็นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้แก้เพื่อคนๆเดียว แต่เป็นการทำเพื่อส่วนร่วม จะเห็นได้จากการที่นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ก็ยังออกมาสนับสนุน เพราะฉะนั้นถ้าชี้แจงให้ทุกฝ่ายเข้าใจในจุดนี้ได้ กระแสต่อต้านไม่น่าเกิดขึ้น
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนขอยืนว่าไม่เคยพูดว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐสภา แต่เมื่อมีการใช้รัฐธรรมนูญไปแล้วระยะหนึ่ง เมื่อเห็นว่ามีความจำเป็นต้องแก้ไขก็พิจารณากันไปไม่เกี่ยวกับ กกต. ส่วนการจะนำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้หรือไม่นั้นตนไม่มีความคิดเห็น
**พท.เริ่มสอบ 172โครงการก.ย.นี้
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมตรวจสอบ 172โครงการที่อาจส่อไปในทางทุจริตในรัฐบาลที่แล้วว่า ตน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ นายพิชิฎ ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.นครพนม พร้อมด้วยส.ส.และคณะทำงานด้านกฎหมายของพรรค ร่วมประชุม ตรวจสอบ172โครงการที่อาจส่อไปในทางทุจริตในรัฐบาลที่แล้ว พร้อมทั้งกำหนดกรอบการทำงานเบื้องต้น โดยจะเดินหน้าตรวจสอบอย่างเป็นรูปธรรมในเดือนก.ย. ขณะนี้มี 2โครงการที่มีข้อมูลหลักฐานชัดเจน คาดว่าน่าจะเอาผิดไปถึงนักการเมืองหรือหน่วยงานต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ โดยผลตรวจสอบที่ได้จะนำไปมอบให้ประธานคณะกรรมาธิการในชุดนั้นๆ และมอบให้องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการต่อไป
คณะทำงานชุดดังกล่าวของพรรคไม่ได้ตรวจสอบเฉพาะโครงการจากรัฐบาลที่แล้ว หากรัฐบาลนี้มีประชาชนร้องเรียนมา ก็พร้อมตรวจสอบเช่นกัน ในฐานะที่เป็นตัวแทนประชาชนได้รับเลือกมาต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่ใช่เลือกปฏิบัติ เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน รวมทั้งยังไม่ได้ยินถึงกระแสข่าวว่าบางโครงการรัฐบาลเริ่มมีการหารือเตรียมหาเงินทอนกันแล้ว วันนี้ได้รับแต่เรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมว่าบางพื้นที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชยน้ำท่วม
**โฆษกปชป. ปัดซัด“รบ.-พท.”บ่ายเบี่ยง
อีกด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ ว่าที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านที่ทำงานไม่สร้างสรรค์ว่า ตั้งแต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านมีหลายประเด็นตั้งคำถามไปยังรัฐบาล แต่มักจะได้รับคำตอบเดิมๆ จากโฆษก และสมาชิกพรรคเพื่อไทย หรือรัฐบาลที่บอกว่าไม่สร้างสรรค์ ตั้งคำถามอะไรไปก็ไม่ตอบ บอกแต่เพียงเราไม่สร้างสรรค์ โดยเฉพาะในกรณีประเทศญี่ปุ่นออกวีซ่าให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยก็ทำอย่างเดียวคือฟ้องร้อง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นการฟ้องแก้เกี้ยวหรือไม่ ทั้งนี้ ตนไม่เห็นว่าไปทำอะไรที่เป็นการสร้างเรื่องเหมือนกับที่พรรคเพื่อไทยกล่าวอ้าง สุดท้ายก็มาชี้แจงบ่ายเบี่ยงมาบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สร้างสรรค์
กรณีต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษหรือญี่ปุ่นต่างก็มีกฎระเบียบชัดเจนว่าการให้บุคคลใดเข้าหรือไม่เข้าประเทศต่างก็มีกฎระเบียบ และข้อกฎหมายใดที่เกี่ยวข้องบ้าง การที่ประเทศญี่ปุ่นบอกเข้าไม่ได้เนื่องจากมีทาจำคุก แต่การให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศญี่ปุ่นได้นั้นเป็นกรณีพิเศษ เพราะได้รับการร้องขอจากรัฐบาลไทย แต่พรรคเพื่อไทยก็พยายามบ่ายเบี่ยงว่าเราไม่สร้างสรรค์แท้ที่จริงตอบคำถามไม่ได้ กรณีที่มีข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางเข้าประเทศอังกฤษนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็มีปัญหาในการทำธุรกิจอยู่ ทางประเทศอังกฤษจึงได้ยกเลิกการเข้าวีซ่าเองไม่เกี่ยวกับรัฐบาลขณะนั้น หากพ.ต.ท.ทักษิณจะเข้าประเทสอังกฤษเขาก็ต้องมีคำตอบที่ชัดเจนว่าให้เพราะอะไร นายพร้อมพงษ์ไม่ต้องร้อนตัว กลัวว่าใครจะไปทำอะไรที่ละเมิดความสัมพันระหว่างประเทศได้ ดังนั้น ตนอยากแนะนำให้ไปทำความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบระหว่างประเทศในการอนุญาตให้คนเข้าเมืองมากกกว่า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวหารัฐบาลขอความช่วยเหลือรัฐบาลญี่ปุ่นให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าประเทศว่า เป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่ต้องการกลั่นแกล้งรัฐบาล แต่เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นระบุชัดว่า รัฐบาลไทยเป็นผู้ร้องขอความช่วยเหลือ หากไม่ใช่เรื่องจริง รัฐบาลควรทำหนังสือประท้วงไปยังประเทศญี่ปุ่น และต้องพร้อมให้พรรคประชาธิปัตย์ตรวจสอบ