กมธ.พลังงาน เตรียมระดมความคิดราคาน้ำมัน เสนอเป็นแนวทางรัฐ กพช.เตรียมถก 2 มาตรการ อุ้มแก๊สโซฮอล์ “ลดภาษี-เพิ่มเงินชดเชย” นายกฯ สั่งส่งสต๊อกน้ำมันใน 7 วัน “บางจาก” ผวายอดขายวูบ เตรียมปรับแผนการตลาดใหม่ ชี้ เบนซิน 91 และแก๊สโซฮอล์ 91 ต่างกันแค่ 23 สตางค์ ขณะที่ ปชช.แห่เติมน้ำมัน คึกคัก ระบุ หลายแห่งน้ำมันเกลี้ยงปั๊ม เบนซิน 91 และดีเซล ไม่มีขาย ชาวบ้านแนะรัฐลดแต่น้ำมันไม่มีความหมาย หากสินค้าอื่นยังแพง
นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลาในปัจจุบัน เป็นเหตุให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น แม้ที่ผ่านมารัฐบาลมีความพยายามที่จะใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วยในอุดหนุนราคาพลังงานไม่ให้ปรับตัวเพิ่มสูงมากจนเกินไปก็ตาม แต่ประชาชนยังได้รับผลกระทบจากปัญหาเหล่านี้
ดังนั้น คณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา จึงเตรียมที่จะจัดการสัมมนาในหัวข้อเรื่อง “นโยบายการตรึงราคาพลังงาน ทางเลือกที่ถูกทางหรือหลงทิศ...?” ขึ้นในวันที่ 7 กันยายน 2554 นี้ ที่โรงแรม โกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ เพื่อระดมความคิดและข้อเสนอแนะจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการหามาตรการและแนวทางในเสนอรัฐบาล นอกจากนี้ ยังจะมีการปาฐกถาพิเศษจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในหัวข้อ “นโยบายรัฐบาลกับการตรึงราคาพลังงานของประเทศ” อีกด้วย
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา (วานนี้) ได้หารือ 2 แนวทางที่รัฐบาลหาเสียงไว้ โดยมีความเป็นไปได้ว่า จะลดภาษีสรรพสามิตแก๊สโซฮอล์ หรือเพิ่มเงินชดเชย เพื่อให้แก๊สโซฮอล์ลดราคา เนื่องจากราคาเบนซินที่ลดลงทำให้คนหันไปใช้เบนซินแทนโซฮอล์ ที่มีส่วนต่างเพียง 1 บาท ซึ่ง 2 วิธีนี้ใช้มูลค่าเงินเท่ากัน
ทั้งนี้ หากใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปชดเชย จะทำให้กองทุนติดลบเพิ่มขึ้น เพราะจากที่กองทุน เริ่มลดเก็บเงิน เมื่อวานนี้ ทำให้กองทุนฯ ติดลบทันที 1,200 ล้านบาทต่อเดือน จากเดิมที่มีเงินไหลเข้ากองทุนเดือนละ 2,700 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ หากลดภาษีสรรพสามิตให้แก๊สโซฮอล์ จะกระทบการจัดเก็บรายได้กระทรวงการคลัง ในอัตราที่ลดลง และที่ประชุม กพช.ยังไม่มีมติว่าจะดำเนินการนานกี่เดือน แต่ได้หารือกันที่ 90 วัน พร้อมกับให้กระทรวงพลังงาน ติดตามการใช้น้ำมันทุกสัปดาห์
นอกจากนี้ นายวีระพล คาดว่า สัปดาห์หน้าจะมีการทยอยส่งยอดสต๊อกน้ำมันกลับมาได้ครบ หลังออกสำรวจเมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อเบิกกับสถาบันบริหารกองทุนพลังงานเชื้อเพลิง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับให้ส่งยอดสต๊อกน้ำมัน ภายใน 7 วัน โดยประเมินยอดชดเชย ประมาณ 3 พันล้านบาท จากประมาณน้ำมันในสต๊อก ที่เก็บสถิติจากสัปดาห์ที่แล้ว ประมาณ 760 ล้านลิตร เป็นดีเซล 680 ล้านลิตร เบนซิน 80 ล้านลิตร
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า การปรับลดราคาน้ำมันเบนซินจะส่งผลกระทบต่อยอดขายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ โดยเฉพาะเบนซิน 91 และแก๊สโซฮอล์ 91 ที่ต่างกันเพียง 23 สตางค์ ขณะที่ปั๊มบางจากที่ไม่ได้ขายเบนซินแล้ว มีจำนวนถึง 600 แห่ง ทำให้สัปดาห์หน้าต้องออกมาตรการทางการตลาด เพื่อกระตุ้นการใช้แก๊สโซฮอล์
สำหรับบรรยากาศตามปั๊มน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า ตลอดทั้งวัน ประชาชนจำนวนมากได้นำรถยนต์ไปเติมน้ำมันกันอย่างคึกคัก หลังคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ให้ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน สำหรับเบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซล ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันชนิดดังกล่าวถูกลงทันที ลิตรละ 3-8 บาท และมีการปรับลดตั้งแต่เวลา 5.00 น. เช้าวันนี้ โดยมีประชาชนเริ่มทยอยไปเติมน้ำมันจนส่งผลให้น้ำมันเบนซิน 91 และดีเซล ในปั๊มน้ำมันหลายแห่งเริ่มหมดลงแล้ว ทำให้ประชาชนที่มาทีหลังไม่มีน้ำมันเติม
ส่วนบรรยากาศในต่างจังหวัดก็คึกคักไม่แพ้กัน มีรายงานข่าวว่า ปั๊มน้ำมันในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก คึกคักเป็นพิเศษ มีประชาชนทั้งชาวไทย และชาวพม่า เดินทางมาเติมน้ำมัน ทำให้บรรดาผู้ใช้รถยนต์ และจักรยานยนต์ เดินทางไปเติมน้ำมันกันอย่างคึกคัก ซึ่งต่างจากช่วงที่ผ่านมา ที่มีผู้ไปเติมน้ำมันกันบางตา เนื่องจากน้ำมันมีราคาแพง
เช่นเดียวกับที่จังหวัดลำปาง ประชาชนเดินทางมาต่อคิวเติมน้ำมันเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และเชื่อว่าตลอดทั้งวัน ประชาชนจะเดินทางมาเติมน้ำมันกันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลังทราบข่าวการประกาศลดราคาน้ำมัน ประชาชนส่วนใหญ่ไม่นำรถมาเติมน้ำมันในช่วงคืนที่ผ่านมา เพื่อรอเติมน้ำมันในวันนี้ เนื่องจากสามารถช่วยประหยัดเงินได้จำนวนมาก
ขณะที่เขตเทศบาลนครนครราชสีมา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนนำรถมาต่อคิวเพื่อเติมน้ำมันกันเป็นจำนวนมากโดยประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยที่รัฐบาลตัดสินใจปรับลดราคาน้ำมันเนื่องจากช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน แต่อยากให้รัฐบาลมองถึงปัญหาการขึ้นราคาของสินค้าชนิดอื่นด้วย
ส่วนที่ พัทยา จ.ชลบุรี ประชาชนที่ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ในเขตเมืองพัทยา จ.ชลบุรี แห่มาใช้บริการอย่างคึกคักและต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งจากการสอบถามพนักงานของสถานบริการน้ำมันดังกล่าวพบว่า วันนี้มีคนทยอยมาเติมน้ำมันดูคึกคักเป็นพิเศษแตกต่างจากเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด และเชื่อว่าจะทยอยมาใช้บริการตลอดทั้งวัน
โดยประชาชนผู้ใช้รถคนหนึ่งให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ภาครัฐลดราคาน้ำมันลง เพราะเป็นการช่วยเหลือประชาชนในการแบ่งเบาค่าใช้จ่ายประจำวันได้ในส่วนหนึ่ง แต่ต้องดูว่าจะมีการลดราคาไปนานแค่ไหน ส่วนตัวอย่างให้พยุงราคาน้ำมันอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่มีกำหนด แต่อย่างไรก็ตามหากราคาน้ำมันลดลง แต่ข้าวของสินค้าอื่นๆ ยังคงมีราคาแพง การช่วยเหลือดังกล่าวจากภาครัฐก็แทบจะไม่มีความหมาย ซึ่งควรให้ความสำคัญในส่วนของสินค้าเครื่องใช้ที่จำเป็นอย่างอื่นด้วยเช่นกัน