นักวิชาการหวั่น ประชาชนหันมาใช้เบนซินแทนแก๊สโซฮอล์ เพราะสิ้นเปลืองน้อยกว่า แนวโน้ม "อีโคคาร์" ขายไม่ออก เพราะพฤติกรรมผู้ซื้อจะหันไปใช้รถที่คันใหญ่กว่า ขณะที่ผลกระทบข้างเคียงเพียบ ทั้งชาวไร่อ้อย และมันสัมปะหลัง ขณะที่รัฐยังไร้คำตอบแผนพลังงานทดแทน และเชื้อเพลิงสะอาด
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันและพลังงาน กล่าวถึงการที่รัฐบาลประกาศปรับลดราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลลงมาในครั้งนี้ จะส่งผลให้ประชาชนหันมาใช้เบนซิน 91 และเบนซิน 95 แทนแก๊สโซฮอล์ อี10 และแก๊สโซฮอล์ อี20 มากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าสิ้นเปลืองน้อยกว่า ทั้งนี้ คงไม่ห่วงว่าประชาชนจะหันมาเติมน้ำมันเบนซิน 95 มากขึ้น เนื่องจากหาซื้อได้ยากเมื่อเทียบกับเบนซิน 91 ซึ่งเชื่อว่า หากนโยบายนี้ดำเนินต่อเนื่องไปนานกว่านี้ บริษัทผู้ค้าน้ำมันคงต้องปรับแผนการตลาดใหม่
การหันไปใช้น้ำมันเบนซินแทนแก๊สโซฮอล์ จะส่งผลกระทบต่อเนื่องทำให้ยอดขายเอทานอลน้อยลงตามไปด้วย ที่สุดจะส่งผลกระทบต่อแนวทางการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่เดินหน้ามาแล้วหลายปีจนไม่ประสบผลสำเร็จได้ในที่สุด และอาจกระทบต่อผู้ผลิตเอทานอล หากมีการประกาศใช้แนวทางดังกล่าวเป็นเวลานาน และจะกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันนำปะหลังและอ้อยที่นำมาผลิตเอทานอลในที่สุด
นายมนูญกล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันเบนซินถูกลงมากกว่า 7-8 บาทต่อลิตร เชื่อว่าประชาชนจะใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น จะหันมาขับรถยนต์มากขึ้น คนที่เคยวางแผนใช้รถยนต์ประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) อาจไม่ซื้อหัน ไปซื้อรถขนาดใหญ่มากขึ้น แม้รัฐบาลแจ้งว่า การลดราคาน้ำมันเบนซินเป็นมาตรการชั่วคราวก็ตาม และหากพิจารณาด้านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะพบว่า ผลจากการปรับลดราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล ลงในครั้งนี้ จะทำให้แทบไม่มีเงินเข้าไหลเข้ากองทุนฯ เนื่องจากรายได้ส่วนนี้หายไป ในขณะที่ภาวะชดเชยราคาแก๊สหุงต้ม (แอลพีจี) และเชื้อเพลิงธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ยังคงทำอยู่ กองทุนฯ ต้องไปกู้เงินเพื่อมาใช้อุดหนุนราคาในเบื้องต้นคาดว่าจะต้องกู้ในวงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งในที่สุดรัฐบาลต้องหาทางชดใช้หนี้ดังกล่าว และที่สุดแล้วภาระจะตกอยู่กับผู้ใช้น้ำมัน
ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการ คือ เมื่อมีการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงทั้งเบนซินและดีเซลในครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันให้ราคาถูกลง แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการต่อเนื่องไป คือ ลดอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มและเอ็นจีวี หากทำได้จะทำให้การปรับโครงสร้างราคาน้ำมันถูกต้อง พร้อมกันนี้ควรพิจารณาใช้มาตรการทางภาษีสรรสามิต เพื่อให้ระดับราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์มีความแตกต่างกัน โดยน้ำมันเบนซินต้องแพงกว่าแก๊สโซฮอล์
นายสิริวุทธิ์ เสียงภักดี นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทยกล่าวว่า การประกาศลดราคาน้ำมันดีเซลและเบนซินลงของรัฐบาลในครั้งนี้ หากเปรียบเทียบราคาเบนซิน 91 กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 จะพบว่า เบนซิน 91 แพงกว่าเพียง 23 สตางค์เท่านั้น ซึ่งประชาชนมองว่าเติมแก๊สโซฮอล์ 91 ไม่คุ้ม ดังนั้น ราคาน้ำมันเบนซิน 91 ควรแพงกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่ลิตรละ 1.05 บาท และเห็นว่าการปรับลดราคาน้ำมันครั้งนี้จะกระทบแผนส่งเสริมพลังงานทดแทนของไทย และยังกระทบนโยบายการประหยัดพลังงาน เนื่องจากประชาชนอาจไม่ประหยัดเพราะเห็นว่า ราคาน้ำมันถูกจึงหันมาใช้น้ำมันมากขึ้น
นอกจากนี้ เมื่อน้ำมันแก๊สโซฮอล์ขายได้น้อยลง ก็จะส่งผลกระทบต่อชาวไร่ผู้ปลูกมันสัมปะหลังและชาวไร่อ้อยที่ใช้เป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานผลิตเอทานอล โดยชาวไร่เมื่อขายได้น้อยลงก็จะลดการปลูกพืชผลดังกล่าวลง อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ผลกระทบกับผู้ผลิตเอทานอนยังไม่สามารถประเมินได้ ปัจจุบันมีผู้ผลิตเอทานอลรวม 19 โรงงาน มีกำลังการผลิตรวม 2.95 ล้านลิตรต่อวัน ผลิตจริงเพียง 1.4 ล้านลิตรต่อวัน โดยเป็นระดับการผลิตที่เพียงกับความต้องการภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งปกติอยู่ที่ประมาณวันละ 1.8 ล้านลิตร ทั้งนี้ไม่รวมส่งออกที่มีปริมาณไม่มากนัก โดยตั้งแต่ต้นปี 2554 จนถึงขณะนี้ ประเทศไทยส่งออกเอทานอลไปแล้วรวม 45 ล้านลิตร และการส่งออกยังติดปัญหากรมสรรพสามิตมองว่า เป็นสุรา จึงไม่อนุญาตให้โรงงานรวมเก็บและรวมส่งออกเอทานอล หากทำได้ก็จะช่วยให้ผู้ผลิตมีอำนาจต่อรองในการขายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สมาคมต้องการความชัดเจนจากนโยบายของรัฐบาล เรื่องการลดราคาน้ำมันเบนซินว่าจะนานเพียงใด 6 เดือน หรือ1 ปี และรัฐบาลน่าจะใช้โอกาสนี้ ยกเลิกน้ำมันเบนซิน 91 ให้เหลือเพียงแก๊สโซฮอล์ 91 เนื่องจากขณะนี้ราคาใกล้เคียงกัน ส่วนที่เกรงว่ามอเตอร์ไซค์ 2 จังหวะที่เติมน้ำมันเบนซิน 91 หากยกเลิกน้ำมันเบนซิน 91 จะได้รับผลกระทบ เชื่อว่า จักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน 91 เครื่องยนต์ 2 จังหวะในปัจจุบันมีจำนวนไม่มากนัก เพราะประชาชนส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็นจักรยนต์ที่ใช้เครื่อง 4 จังหวะแล้ว นอกจากนี้ การใช้น้ำมันเบนซินยังเกิดมลพิษมากกว่าแก๊สโซฮอล์ ที่ผ่านมารัฐบาลผลักดันการใช้นโยบายประหยัดพลังงานทดแทนมาแล้ว 4-5 ปี จะเลิกนโยบายนี้ไปหรืออย่างไร และไบโอดีเซลจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่อย่างไร เนื่องจากจะได้รับผลกระทบในลักษณะคล้ายกับแก๊สโซฮอล์
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ผู้บริหารเครือสหพัฒน์ กรุ๊ป กล่าวว่า การที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ให้ลดเงินกองทุนน้ำมัน มองว่าภาคขนส่งได้รับประโยชน์ต้นทุนปรับลดลงด้วยนั้น โดยภาพรวมต้นทุนของผู้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่หากเป็นในอดีตภาคการขนส่งได้รับประโยชน์อย่างมาก แต่ขณะนี้ภาคการขนส่งและการผลิตสินค้าหันมาใช้แก๊สมากกว่าน้ำมัน ดังนั้น จึงไม่ได้รับประโยชน์มากนัก โดยกลุ่มที่ได้รับประโยชน์สูงสุดน่าจะเป็นกลุ่มคนที่ใช้น้ำมันเบนซินและผู้ที่ใช้รถในกลุ่มดีเซลมากกว่า
อย่างไรก็ตาม จากมาตรการดังกล่าวที่รัฐบาลประกาศลดราคาน้ำมันทั้ง 2 กลุ่มในครั้งนี้ จะเป็นแรงกดดันไม่ให้ผู้ผลิตสินค้าโดยรวมอ้างขอปรับราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะได้บริหารงานเกี่ยวกับสินค้ามีความสะดวกมากขึ้น เพราะโดยรวมต้นทุนผลิตสินค้าปรับตัวลดลงบ้าง จึงทำให้การขอปรับราคาสินค้าในบางกลุ่มสินค้าทำได้ยากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการจะอ้างปรับขึ้นสินค้าในแต่ละรายการทำได้ยากเช่นกัน ซึ่งการปรับลดน้ำมันของรัฐบาลในครั้งนี้ถือว่าเป็นการช่วยเหลือลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการทางอ้อม โดยที่ผ่านมากลุ่มสหพัฒน์ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนการปรับขึ้นราคาสินค้าในกลุ่มแม้จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่จะขอปรับขึ้นเป็นกลุ่มสุดท้าย
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า การปรับลดราคาน้ำมันในครั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคติดตามตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศอย่าได้มีการกักตุนหรือปฎิเสธการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91-95 และดีเซลหลังจากปรับลดราคาน้ำมันลงมาแล้วในครั้งนี้ หากสถานีบริการใดไม่ยอมจำหน่ายเข้าข่ายกันตุนมีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับส่วนในเรื่องของราคาสินค้านั้น โดยภาพรวมการปรับลดราคาน้ำมันในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับต้นทุนการผลิตสินค้าจะเป็นต้นทุนด้านการขนส่ง แต่เมื่อราคาน้ำมันปรับลดลงเช่นนี้จะให้กรมการค้าภายในเข้าไปตรวจสอบดูต้นทุนผลิตสินค้าในแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด หากต้นทุนสินค้ากลุ่มใดปรับลดลงมามากก็จะให้พิจารณาปรับลดลงราคาสินค้าในกลุ่มนั้นลงมาเพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันในหลายแห่งพบว่า ประชาชนที่เคยใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่หลายคนหันมาเติมน้ำมันเบนซิน 91 แทน เนื่องจากเข้าใจว่า น้ำมันเบนซิน 91 หากวัดระยะทางวิ่งของรถจักรยานยนต์และรถยนต์จะประหยัดมากกว่า แต่ก็มีบ้างที่ยังคงยืนยันที่จะเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 เนื่องจากโรงงานรถยนต์กำหนดให้ใช้น้ำมันในคุณสมบัตินั้น
นายทองอยู่ คงขันธ์ ที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับนโยบายการลดราคาน้ำมันดีเซลแม้เป็นมาตรการชั่วคราว แต่ช่วยบรรเทาต้นทุนผู้ประกอบการขนส่งและชาวไร่ชาวนาที่ใช้น้ำมันดีเซลลงได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ต้นทุนอื่นๆ เช่น ยางรถยนต์ แบตเตอรี่ และน้ำมันเครื่อง ราคาปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยจะมีการประชุมเพื่อประเมินมาตรการลดราคาน้ำมันของรัฐบาลกับผลที่เกิดขึ้นกับกลุ่มธุรกิจขนส่งอีกครั้งในต้นเดือนกันยายนที่จะถึงนี้