ธพ.คาดปีนี้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงมูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านบาท เหตุน้ำมันตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง ประเมินครึ่งปีหลังราคาน้ำมันดิบดูไบยังวิ่ง 100-120 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนครึ่งปีแรก การใช้น้ำมันยังพุ่งต่อเนื่อง โดยเฉพาะ LPG และNGV โตผิดปกติ เหตุเบนซินแพงคนหันใช้เพิ่ม
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปี 2554ของไทย (ม.ค.-มิ.ย.) มีการนำเข้ารวม 851,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2% แต่มูลค่านำเข้ารวม 506,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกสูงขึ้นจากเฉลี่ย 77 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ในปี 2553 เป็น 106 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2554 โดยคาดการณ์ว่า เฉลี่ยทั้งปีจะนำเข้าจะอยู่ที่ระดับ 830,000 บาร์เรลต่อวันหรือขยายตัวจากปีที่แล้ว 1.8% โดยมูลค่านำเข้าจะอยู่ระดับ 1-1.1 ล้านล้านบาท
“การนำเข้าทั้งปีอยู่บนสมมติฐานที่เรามองว่าราคาน้ำมันดิบดูไบครึ่งปีหลังน่าจะเคลื่อนไหวระดับ 100-120 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แม้จะเป็นช่วงหน้าหนาว คงจะไม่ขยับมากนัก โดยคาดว่าจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่ราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ในเกณฑ์ที่สูงอยู่แล้ว” นายวีระพลกล่าว
สำหรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรกของปี 2554 เปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2553 พบว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นทุกชนิด ดังนี้ กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 2% จาก 20.1 ล้านลิตรต่อวัน เป็น 20.4 ล้านลิตรต่อวัน กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 4% จาก 52.4 ล้านลิตรต่อวันเป็น 54.1 ล้านลิตรต่อวัน ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV เพิ่มขึ้น 35%จาก 4.7 ล้านกิโลกรัม (กก.) ต่อวันเป็น 6.3 ล้านกก.ต่อวัน ก๊าซหุงต้ม (LPG) เพิ่มขึ้น 24% จาก 14,300 ตันต่อวันเป็น 17,800 ตันต่อวัน
ทั้งนี้ การใช้ LPG 6 เดือนแรกปีนี้มีการใช้เพิ่มขึ้นทุกภาคส่วน โดยปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น 55% รถยนต์ 30% ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 9% และอุตสาหกรรม 5% ทำให้มีการนำเข้า LPG เฉลี่ย 113,000 ตันต่อเดือนมูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องจ่ายชดเชยนำเข้าเป็นจำนวน 12,984 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การใช้ LPG และ NGV ที่ขยายตัวสูงระดับ 30% นั้น ถือว่าสูงผิดปกติจากที่ควรจะอยู่เฉลี่ย 5% เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซินซึ่งมีราคาแพงได้หันมาใช้มากขึ้น เนื่องจากราคา LPG และ NGV ราคาเฉลี่ยถูกกว่า เนื่องจากรัฐบาลยังคงมีนโยบายตรึงราคา ส่งผลให้ปั๊ม LPG จากสิ้นปี 2553 มีทั้งสิ้น 890 แห่ง ขยายมาเป็น 1,030 แห่ง แต่ในขณะนี้การขยายปั๊ม LPG เริ่มชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากการขยายตัวที่ผ่านมาค่อนข้างมากแล้ว
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปี 2554ของไทย (ม.ค.-มิ.ย.) มีการนำเข้ารวม 851,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2% แต่มูลค่านำเข้ารวม 506,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกสูงขึ้นจากเฉลี่ย 77 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ในปี 2553 เป็น 106 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2554 โดยคาดการณ์ว่า เฉลี่ยทั้งปีจะนำเข้าจะอยู่ที่ระดับ 830,000 บาร์เรลต่อวันหรือขยายตัวจากปีที่แล้ว 1.8% โดยมูลค่านำเข้าจะอยู่ระดับ 1-1.1 ล้านล้านบาท
“การนำเข้าทั้งปีอยู่บนสมมติฐานที่เรามองว่าราคาน้ำมันดิบดูไบครึ่งปีหลังน่าจะเคลื่อนไหวระดับ 100-120 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แม้จะเป็นช่วงหน้าหนาว คงจะไม่ขยับมากนัก โดยคาดว่าจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่ราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ในเกณฑ์ที่สูงอยู่แล้ว” นายวีระพลกล่าว
สำหรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรกของปี 2554 เปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2553 พบว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นทุกชนิด ดังนี้ กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 2% จาก 20.1 ล้านลิตรต่อวัน เป็น 20.4 ล้านลิตรต่อวัน กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 4% จาก 52.4 ล้านลิตรต่อวันเป็น 54.1 ล้านลิตรต่อวัน ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV เพิ่มขึ้น 35%จาก 4.7 ล้านกิโลกรัม (กก.) ต่อวันเป็น 6.3 ล้านกก.ต่อวัน ก๊าซหุงต้ม (LPG) เพิ่มขึ้น 24% จาก 14,300 ตันต่อวันเป็น 17,800 ตันต่อวัน
ทั้งนี้ การใช้ LPG 6 เดือนแรกปีนี้มีการใช้เพิ่มขึ้นทุกภาคส่วน โดยปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น 55% รถยนต์ 30% ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 9% และอุตสาหกรรม 5% ทำให้มีการนำเข้า LPG เฉลี่ย 113,000 ตันต่อเดือนมูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องจ่ายชดเชยนำเข้าเป็นจำนวน 12,984 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การใช้ LPG และ NGV ที่ขยายตัวสูงระดับ 30% นั้น ถือว่าสูงผิดปกติจากที่ควรจะอยู่เฉลี่ย 5% เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซินซึ่งมีราคาแพงได้หันมาใช้มากขึ้น เนื่องจากราคา LPG และ NGV ราคาเฉลี่ยถูกกว่า เนื่องจากรัฐบาลยังคงมีนโยบายตรึงราคา ส่งผลให้ปั๊ม LPG จากสิ้นปี 2553 มีทั้งสิ้น 890 แห่ง ขยายมาเป็น 1,030 แห่ง แต่ในขณะนี้การขยายปั๊ม LPG เริ่มชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากการขยายตัวที่ผ่านมาค่อนข้างมากแล้ว
