“พาณิชย์” สั่งลดราคาเนื้อไก่ทุกชนิดลง กก.ละ 5 บาท มีผล 21 ก.ค.นี้ พร้อมฝากวอน ปชช.อย่าแตกตื่นข้าวถุงแพงแห่กักตุน เตรียมจัดงาน “พาณิชย์เดย์” ดึงห้างลดราคาสินค้า 10-50%
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยผลการประชุมกับตัวแทนภาคเอกชนผู้เลี้ยงไก่และผู้จำหน่ายไก่สด เช่น สมาคมผู้เลี้ยงไก่ สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ และห้างโมเดิร์นเทรด โดยระบุว่า ตนเองได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้มีการปรับราคาแนะนำจำหน่ายเนื้อไก่ลง โดยไก่สดทั้งตัว (รวมเครื่องใน) ราคา 65 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ลดจากราคาเดิมที่ 70 บาทต่อ กก.ไก่สดทั้งตัว (ไม่รวมเครื่องใน) ราคา 70 บาท ลดจากเดิมที่ราคา 75 บาทต่อ กก. และเนื้อไก่ราคา 80-85 บาทต่อ กก.ลดจากเดิมที่ราคา 85-92 บาทต่อ กก.
ส่วนราคาในแต่ละภาคจะแตกต่างกันออกไป โดยภาคเหนือจะสูงกว่าราคาแนะนำไม่เกิน กก.ละ 2 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สูงกว่าไม่เกิน กก.ละ 3 บาท และภาคใต้สูงกว่าไม่เกิน กก.ละ 5 บาท โดยราคาดังกล่าวจะออกประกาศและมีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.เป็นต้นไป
“สาเหตุของการปรับลดราคาจำหน่ายไก่เนื้อทุกประเภท เนื่องจากเห็นว่า ราคาไก่มีชีวิตได้ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ราคาขายปลีกก็ต้องลดลงตาม ซึ่งถือเป็นการดูแลค่าครองชีพให้กับผู้บริโภค”
พร้อมกันนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมที่จะลดค่าครองชีพให้กับประชาชนทั่งประเทศ เนื่องในวันพาณิชย์ 20 ส.ค.2554 โดยได้ขอความร่วมมือห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) และห้างสรรพสินค้า จัดกิจกรรมลดราคาสินค้าทั่วประเทศระหว่างวันที่ 19-21 ส.ค.2554 ซึ่งได้รับการตอบรับแล้ว โดยยินดีที่จะลดราคาสินค้าตั้งแต่ 10-50% ทุกสาขาทั่วประเทศ และห้างค้าปลีกบางแห่งให้ความร่วมมือลดราคาสินค้าลงถึง 70%
ส่วนการแก้ไขปัญหาข้าวถุงมีราคาแพง ที่ล่าสุดประชาชนแตกตื่นว่าข้าวในประเทศจะขาดแคลน และห้างค้าปลีกบางแห่งจำกัดการซื้อ โดยขอยืนยันว่า ข้าวในประเทศไม่ได้ขาดแคลนและมีเพียงพอต่อการบริโภค โดยเฉพาะข้าวสารบรรจุถุง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าราคาขายยังไม่ได้มีการปรับขึ้น และกระทรวงพาณิชย์ก็ไม่มีนโยบายที่จะให้สินค้าข้าวถุงปรับขึ้นราคาด้วย ดังนั้น ประชาชนไม่ควรแตกตื่น และเร่งซื้อข้าวสารมาเก็บไว้ เพราะการจำกัดการซื้อข้าวถุงในห้างค้าปลีกบางแห่งนั้น เป็นเพียงข้าวถุงที่เข้าร่วมส่งเสริมการขาย หรือโปรโมชั่นลดราคาเท่านั้น