ยังคงฝุ่นตลบ! สำหรับโผ "ครม.ปู 1" แน่นอนทุกตำแหน่งต้องได้รับความเห็นชอบจาก "บังแม้วแห่งดูไบ" แต่เชื่อขนมกินได้ ภายใน 3 วัน 7 วันข้างหน้าก็ยังไม่ได้ข้อสรุป...
ความจริงวันนี้? ประเด็นด่วนที่พรรคเพื่อไทย ต้องสะสางก่อนเคาะรายชื่อรัฐมนตรีทั้ง 35 ตำแหน่ง ก็คือ "นโยบายเศรษฐกิจ" ขณะนี้หลายฝ่ายมีความกังวลกับนโยบายประชานิยมของพรรคปูแดง...
"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ต้องยอมรับความจริงแทนการกลายพันธุ์จากปูเป็นปลา (ไหล) นอกจากยอมรับแล้วก็ควรประกาศให้ชัดเจนว่า นโยบายที่เคยประกาศตอนหาเสียง เมื่อดูฐานะและปัจจัยเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ จะพบว่า "นโยบายเศรษฐกิจต้องลดความเข้มข้นลง!!!..."
ขืนเดินหน้าไม่ยอมยืดหยุ่น ขอฟันธงไว้ตรงนี้เลยว่าถึงขั้น "เจ๊ง" ไม่ว่าการขึ้นเงินเดือนข้าราชการขั้นต่ำที่ 15000 บาท การยุบกองทุนน้ำมัน หรือขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท!!..
ส่วนวิธีการผ่อนปรนนโยบาย ยอมรับความจริงแล้วบอกกับประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็ต้องหาเหตุผลมารองรับสนับสนุน อย่างน้อยควรมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญ "นักวิชาการและนักธุรกิจนอกพรรค!" มาประชุมเพื่อรับฟังความเห็นและต้องเชื่อ!...
เป็นการหาทางลงเพื่อให้ประชาชนยอมรับการลดดีกรีประชานิยมเพื่อปากท้อง หรืออาจจะยื้อเวลาออกไปก่อน ก็ไม่เสียหาย ความเคลื่อนไหวเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา การที่ทีมงานของว่าที่นายกฯ หญิง เรียกข้าราชการในกระทรวงหลักๆ "นอกรอบ" สั่งให้ชี้แจงงานกับคณะทำงานของพรรคฟัง โดยอ้างว่าจะนำไปยกร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ถือว่าทำถูกแล้ว!!..
แต่ถ้าให้ดี "ต้องเป็นทางการและโปร่งใส" โดยเฉพาะวันจันทร์นี้ที่มีการเรียกเบอร์ 1 ในหน่วยงานเศรษฐกิจสำคัญของรัฐ อย่าง เลขาฯ สภาพัฒน์ ปลัดกระทรวงการคลังหรือผู้ว่าแบงก์ชาติ มี "ยิ่งลักษณ์" นั่งหัวโต๊ะ เป็นประธานการประชุมที่มีชื่อว่า "EXTRA PLAN" ควรเปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวด้วย!...
เช่นกัน รอบหน้าหากคิวภาคเอกชนก็ต้องโปร่งใส ส่วนจะต่อรองค่าแรงขั้นต่ำลงมาแค่ไหน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้อมูล ข้อเท็จจริง ไม่ใช่เพื่อคะแนนนิยม???...
สุดท้ายเรื่องที่ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยไม่ควรตะแบง ก็คือข้อเสนอให้ยกเลิกระบบอัตราแลกเปลี่ยน Managed Float ไปเป็น Managed Fix เพราะตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยโดยแบงก์ชาติใช้ระบบการบริหารจัดการโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว ไม่เห็นจะมีปัญหาร้ายแรงนอกจากแบงก์ชาติขาดทุนให้ผู้ส่งออกนำรายได้เข้าประเทศ โดยรวม "ถือว่าคุ้ม..."
ประเทศขนาดเล็กอย่างไทยแลนด์ ทำไมต้องกลับไปผูกค่าเงินเลียนแบบยักษ์ใหญ่อย่างจีน อย่าบ้าจี้ "อย่าเห็นช้างขี้ๆ ตามช้าง" หรือว่า "ไอ้โม่ง" อยู่เบื้องหลัง มีวาระซ่อนเร้นจะทุบค่าเงินบาท โกยเงินเข้ากระเป๋าเหมือนเมื่อครั้งต้มยำกุ้งปี 40 ยังไงอย่าย่ามใจ ได้ ส.ส.มาถล่มทลาย สิ่งศักสิทธิ์มีจริง "อย่าเล่นกับของร้อน??@@!!.."
ความจริงวันนี้? ประเด็นด่วนที่พรรคเพื่อไทย ต้องสะสางก่อนเคาะรายชื่อรัฐมนตรีทั้ง 35 ตำแหน่ง ก็คือ "นโยบายเศรษฐกิจ" ขณะนี้หลายฝ่ายมีความกังวลกับนโยบายประชานิยมของพรรคปูแดง...
"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ต้องยอมรับความจริงแทนการกลายพันธุ์จากปูเป็นปลา (ไหล) นอกจากยอมรับแล้วก็ควรประกาศให้ชัดเจนว่า นโยบายที่เคยประกาศตอนหาเสียง เมื่อดูฐานะและปัจจัยเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ จะพบว่า "นโยบายเศรษฐกิจต้องลดความเข้มข้นลง!!!..."
ขืนเดินหน้าไม่ยอมยืดหยุ่น ขอฟันธงไว้ตรงนี้เลยว่าถึงขั้น "เจ๊ง" ไม่ว่าการขึ้นเงินเดือนข้าราชการขั้นต่ำที่ 15000 บาท การยุบกองทุนน้ำมัน หรือขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท!!..
ส่วนวิธีการผ่อนปรนนโยบาย ยอมรับความจริงแล้วบอกกับประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็ต้องหาเหตุผลมารองรับสนับสนุน อย่างน้อยควรมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญ "นักวิชาการและนักธุรกิจนอกพรรค!" มาประชุมเพื่อรับฟังความเห็นและต้องเชื่อ!...
เป็นการหาทางลงเพื่อให้ประชาชนยอมรับการลดดีกรีประชานิยมเพื่อปากท้อง หรืออาจจะยื้อเวลาออกไปก่อน ก็ไม่เสียหาย ความเคลื่อนไหวเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา การที่ทีมงานของว่าที่นายกฯ หญิง เรียกข้าราชการในกระทรวงหลักๆ "นอกรอบ" สั่งให้ชี้แจงงานกับคณะทำงานของพรรคฟัง โดยอ้างว่าจะนำไปยกร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ถือว่าทำถูกแล้ว!!..
แต่ถ้าให้ดี "ต้องเป็นทางการและโปร่งใส" โดยเฉพาะวันจันทร์นี้ที่มีการเรียกเบอร์ 1 ในหน่วยงานเศรษฐกิจสำคัญของรัฐ อย่าง เลขาฯ สภาพัฒน์ ปลัดกระทรวงการคลังหรือผู้ว่าแบงก์ชาติ มี "ยิ่งลักษณ์" นั่งหัวโต๊ะ เป็นประธานการประชุมที่มีชื่อว่า "EXTRA PLAN" ควรเปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวด้วย!...
เช่นกัน รอบหน้าหากคิวภาคเอกชนก็ต้องโปร่งใส ส่วนจะต่อรองค่าแรงขั้นต่ำลงมาแค่ไหน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้อมูล ข้อเท็จจริง ไม่ใช่เพื่อคะแนนนิยม???...
สุดท้ายเรื่องที่ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยไม่ควรตะแบง ก็คือข้อเสนอให้ยกเลิกระบบอัตราแลกเปลี่ยน Managed Float ไปเป็น Managed Fix เพราะตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยโดยแบงก์ชาติใช้ระบบการบริหารจัดการโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว ไม่เห็นจะมีปัญหาร้ายแรงนอกจากแบงก์ชาติขาดทุนให้ผู้ส่งออกนำรายได้เข้าประเทศ โดยรวม "ถือว่าคุ้ม..."
ประเทศขนาดเล็กอย่างไทยแลนด์ ทำไมต้องกลับไปผูกค่าเงินเลียนแบบยักษ์ใหญ่อย่างจีน อย่าบ้าจี้ "อย่าเห็นช้างขี้ๆ ตามช้าง" หรือว่า "ไอ้โม่ง" อยู่เบื้องหลัง มีวาระซ่อนเร้นจะทุบค่าเงินบาท โกยเงินเข้ากระเป๋าเหมือนเมื่อครั้งต้มยำกุ้งปี 40 ยังไงอย่าย่ามใจ ได้ ส.ส.มาถล่มทลาย สิ่งศักสิทธิ์มีจริง "อย่าเล่นกับของร้อน??@@!!.."