กรรมการแข่งขันทางการค้า สั้งสอบ เทสโก้ โลตัส หัวหมอ หลังโฆษณาแจ้งลูกค้านำคูปองที่ออกโดยบิ๊กซี และคาร์ฟูร์ มาใช้ได้ที่ห้าง แถมให้ราคาเพิ่มเท่าตัว หากผิดจริงเจอฟันแน่ พร้อมสั่งปรับเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดใหม่ หวั่นคุมเยอะไปจะกระทบธุรกิจขนาดกลางและเล็ก
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ที่มี นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน วานนี้ (27 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องด้านค้าส่งค้าปลีกไปพิจารณากรณีที่ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ บิ๊กซี และ คาร์ฟูร์ ได้ร้องเรียนพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของเทสโก้ โลตัส ที่ได้โฆษณาให้ลูกค้านำคูปองส่งเสริมการขายของบิ๊กซี และ คาร์ฟูร์ ที่ได้ออกมาใช้เพื่อทำการส่งเสริมการขายให้สามารถนำมาใช้ได้ที่เทสโก้ โลตัส และยังให้คูปองมีค่าเพิ่มเป็น 2 เท่าจากราคาหน้าคูปอง
ทั้งนี้ บิ๊กซี และ คาร์ฟูร์ ได้ออกคูปองส่งเสริมการขาย โดยกำหนดให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าจำนวน 400 บาท จะได้รับคูปองราคา 80 บาท และให้นำคูปองดังกล่าวมาใช้ซื้อสินค้าโดยได้รับส่วนลดในการซื้อครั้งต่อไป แต่ เทสโก้ โลตัส ได้โฆษณาว่า ให้ลูกค้าที่ได้รับคูปองดังกล่าว สามารถนำคูปองมาใช้ได้ที่เทสโก้ โลตัส และจะเพิ่มมูลค่าให้อีก1เท่าตัว คือ 160 บาท โดยมีเงื่อนไขซื้อสินค้าตั้งแต่ 600 บาทขึ้นไป
“ผลจากการโฆษณาให้ลูกค้านำคูปองไปใช้ ได้ส่งผลให้มีการนำคูปองที่ออกโดยบิ๊กซี และคาร์ฟูร์ ไปใช้ที่ เทสโก้ โลตัส 23% ซึ่งถือเป็นการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม คณะกรรมการก็เลยให้คณะอนุกรรมการ ไปดูว่า เทสโก้ โลตัส ได้ทำการแข่งขันที่ไม่เสรี และไม่เป็นธรรมหรือไม่ เพราะให้เอาคูปองของเขามาใช้ที่ตัวเอง และมีการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือไม่และให้รายงานให้คณะกรรมการ พิจารณาตัดสินต่อไป” นายยรรยง กล่าว
นายยรรยง กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการศึกษาเรื่องการกำหนดเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด ของคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง ที่เสนอให้มีการปรับเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด โดยกำหนดยอดขายตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป จากเดิม 1,000 ล้านบาท และกำหนดเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด 3 ระดับ คือ ส่วนแบ่งตั้งแต่ 50% ขึ้นไป ระดับ 2 ส่วนแบ่งตั้งแต่ 30% ขึ้นไป และระดับ 3 ส่วนแบ่งตลาด 3 รายรวมกัน ตั้งแต่ 75% ขึ้นไป ซึ่งในระดับที่ 2 และ 3 จะต้องมีการพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย ได้แก่ ความสามารถในการควบคุมตลาด อุปสรรคการเข้าสู่ตลาด ศักยภาพของคู่แข่ง การจำกัดการแข่งขัน และอื่นๆ
“ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องการกำหนดเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดใหม่ โดยที่ประชุมขอให้คณะอนุกรรมการฯ กลับไปพิจารณาใหม่ เพราะขณะนี้กระแสโลกได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ธุรกิจมีขนาดใหญ่ขึ้น พฤติกรรมผูกขาดตลาดมีเทคนิคมากขึ้น และถ้ายิ่งไปกำหนดหลักเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดให้เล็กลง ก็จะกระทบกับผู้ประกอบธุรกิจรายกลางและเล็ก ธุรกิจผูกขาดในตระกร้าจะมีเยอะขึ้น ก็เลยขอให้ไปพิจารณาทบทวน และให้เสนอกลับเข้ามาใหม่ ซึ่งคาดว่าจะทำได้ทันรัฐบาลชุดนี้” นายยรรยง กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาข้อร้องเรียนกรณีขายเบียร์อาชาต่ำกว่าทุน โดยกรณีผู้ค้าปลีกรายย่อยร้องเรียนห้างแมคโคร สาขาชลบุรี ขายเบียร์ต่ำกว่าทุนลังละ 265 บาท หรือตกขวดละ 22.08 บาท และเป็นราคาต่ำกว่าราคาโรงงาน ซึ่งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องค้าปลีกค้าส่งได้พิจารณาแล้วสรุปว่า แม็คโคร ไม่ได้ขายต่ำกว่าทุน เพราะแม็คโครรับมาเท่าไรก็บวกกำไรนิดหน่อยและขายไป ส่วนกรณีที่ผู้ค้ารถเร่ได้ร้องแม็คโคร สาขาระยอง ที่มีการทำโปรโมชันช่วงคริสต์มาส 7 วัน ขายเบียร์อาชาต่ำกว่าทุน 0.42 บาทต่อขวด ผลการพิจารณาเห็นว่าไม่ได้ขายต่ำกว่าทุน เพราะเป็นการทำโปรโมชันช่วงสั้นๆ และราคาสอดคล้องกับราคาตลาดทั่วไป ส่วนผู้ร้องที่ได้เลิกกิจการ เพราะปัญหาน้ำมันแพง ไม่เกี่ยวกับแม็คโคร จึงไม่มีการฟ้องร้องในเรื่องนี้
สำหรับกรณี บริษัท มิตรราชสีมา จำกัด ที่ได้จำหน่ายเบียร์สิงห์ และลีโอ ได้ฟ้องร้องบริษัท ท๊อฟฟี่โฮลเซลล์ จำกัด ที่เดิมเคยซื้อเบียร์สิงห์และลีโอจากบริษัท แต่ต่อมาได้ไปซื้อเบียร์อาชามาขายด้วย ผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ พบว่า ไม่ได้ขายต่ำกว่าทุน เพราะรับเบียร์มาราคาเท่าไร ก็ขายไปในราคานั้น
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ที่มี นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน วานนี้ (27 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องด้านค้าส่งค้าปลีกไปพิจารณากรณีที่ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ บิ๊กซี และ คาร์ฟูร์ ได้ร้องเรียนพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของเทสโก้ โลตัส ที่ได้โฆษณาให้ลูกค้านำคูปองส่งเสริมการขายของบิ๊กซี และ คาร์ฟูร์ ที่ได้ออกมาใช้เพื่อทำการส่งเสริมการขายให้สามารถนำมาใช้ได้ที่เทสโก้ โลตัส และยังให้คูปองมีค่าเพิ่มเป็น 2 เท่าจากราคาหน้าคูปอง
ทั้งนี้ บิ๊กซี และ คาร์ฟูร์ ได้ออกคูปองส่งเสริมการขาย โดยกำหนดให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าจำนวน 400 บาท จะได้รับคูปองราคา 80 บาท และให้นำคูปองดังกล่าวมาใช้ซื้อสินค้าโดยได้รับส่วนลดในการซื้อครั้งต่อไป แต่ เทสโก้ โลตัส ได้โฆษณาว่า ให้ลูกค้าที่ได้รับคูปองดังกล่าว สามารถนำคูปองมาใช้ได้ที่เทสโก้ โลตัส และจะเพิ่มมูลค่าให้อีก1เท่าตัว คือ 160 บาท โดยมีเงื่อนไขซื้อสินค้าตั้งแต่ 600 บาทขึ้นไป
“ผลจากการโฆษณาให้ลูกค้านำคูปองไปใช้ ได้ส่งผลให้มีการนำคูปองที่ออกโดยบิ๊กซี และคาร์ฟูร์ ไปใช้ที่ เทสโก้ โลตัส 23% ซึ่งถือเป็นการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม คณะกรรมการก็เลยให้คณะอนุกรรมการ ไปดูว่า เทสโก้ โลตัส ได้ทำการแข่งขันที่ไม่เสรี และไม่เป็นธรรมหรือไม่ เพราะให้เอาคูปองของเขามาใช้ที่ตัวเอง และมีการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือไม่และให้รายงานให้คณะกรรมการ พิจารณาตัดสินต่อไป” นายยรรยง กล่าว
นายยรรยง กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการศึกษาเรื่องการกำหนดเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด ของคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง ที่เสนอให้มีการปรับเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด โดยกำหนดยอดขายตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป จากเดิม 1,000 ล้านบาท และกำหนดเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด 3 ระดับ คือ ส่วนแบ่งตั้งแต่ 50% ขึ้นไป ระดับ 2 ส่วนแบ่งตั้งแต่ 30% ขึ้นไป และระดับ 3 ส่วนแบ่งตลาด 3 รายรวมกัน ตั้งแต่ 75% ขึ้นไป ซึ่งในระดับที่ 2 และ 3 จะต้องมีการพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย ได้แก่ ความสามารถในการควบคุมตลาด อุปสรรคการเข้าสู่ตลาด ศักยภาพของคู่แข่ง การจำกัดการแข่งขัน และอื่นๆ
“ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องการกำหนดเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดใหม่ โดยที่ประชุมขอให้คณะอนุกรรมการฯ กลับไปพิจารณาใหม่ เพราะขณะนี้กระแสโลกได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ธุรกิจมีขนาดใหญ่ขึ้น พฤติกรรมผูกขาดตลาดมีเทคนิคมากขึ้น และถ้ายิ่งไปกำหนดหลักเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดให้เล็กลง ก็จะกระทบกับผู้ประกอบธุรกิจรายกลางและเล็ก ธุรกิจผูกขาดในตระกร้าจะมีเยอะขึ้น ก็เลยขอให้ไปพิจารณาทบทวน และให้เสนอกลับเข้ามาใหม่ ซึ่งคาดว่าจะทำได้ทันรัฐบาลชุดนี้” นายยรรยง กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาข้อร้องเรียนกรณีขายเบียร์อาชาต่ำกว่าทุน โดยกรณีผู้ค้าปลีกรายย่อยร้องเรียนห้างแมคโคร สาขาชลบุรี ขายเบียร์ต่ำกว่าทุนลังละ 265 บาท หรือตกขวดละ 22.08 บาท และเป็นราคาต่ำกว่าราคาโรงงาน ซึ่งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องค้าปลีกค้าส่งได้พิจารณาแล้วสรุปว่า แม็คโคร ไม่ได้ขายต่ำกว่าทุน เพราะแม็คโครรับมาเท่าไรก็บวกกำไรนิดหน่อยและขายไป ส่วนกรณีที่ผู้ค้ารถเร่ได้ร้องแม็คโคร สาขาระยอง ที่มีการทำโปรโมชันช่วงคริสต์มาส 7 วัน ขายเบียร์อาชาต่ำกว่าทุน 0.42 บาทต่อขวด ผลการพิจารณาเห็นว่าไม่ได้ขายต่ำกว่าทุน เพราะเป็นการทำโปรโมชันช่วงสั้นๆ และราคาสอดคล้องกับราคาตลาดทั่วไป ส่วนผู้ร้องที่ได้เลิกกิจการ เพราะปัญหาน้ำมันแพง ไม่เกี่ยวกับแม็คโคร จึงไม่มีการฟ้องร้องในเรื่องนี้
สำหรับกรณี บริษัท มิตรราชสีมา จำกัด ที่ได้จำหน่ายเบียร์สิงห์ และลีโอ ได้ฟ้องร้องบริษัท ท๊อฟฟี่โฮลเซลล์ จำกัด ที่เดิมเคยซื้อเบียร์สิงห์และลีโอจากบริษัท แต่ต่อมาได้ไปซื้อเบียร์อาชามาขายด้วย ผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ พบว่า ไม่ได้ขายต่ำกว่าทุน เพราะรับเบียร์มาราคาเท่าไร ก็ขายไปในราคานั้น