xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออก พ.ค.โต 17.6% พิษสึนามิฉุดรถยนต์วูบ-คาดไม่เกิน 2 เดือนฟื้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ส่งออก พ.ค.โตไม่หยุด เพิ่มขึ้น 17.6% สินค้าเกษตรพระเอกช่วยดันยอด แต่ภาคอุตสาหกรรมแผ่วลง โดยรถยนต์ส่งออกวูบ 36.9% หลังเจอพิษสึนามิ “พรทิวา” คาด ไม่เกิน 2 เดือน ยานยนต์ฟื้น ส่วนยอดทั้งปีเข้าเป้า 15% แน่นอน

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยในเดือน พ.ค.2554 มีมูลค่า 19,464 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 17.6% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 580,049.3 ล้านบาท ขยายตัว 9.5% การนำเข้ามีมูลค่า 19,187.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 33.8% หรือเป็นเงินบาทมีมูลค่า 579,069.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.7% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 277.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ส่วนการส่งออกในช่วง 5 เดือนของปี 2554 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่า 93,903.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 25.2% หรือคิดเป็นเงินบาทมูลค่า 2.828 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 91,724.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 29.1% หรือคิดเป็นเงินบาทมูลค่า 2.796 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.6% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้ามูลค่า 2,178.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยเดือน พ.ค.2554 ที่เพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า โดยสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 2.1% สินค้าส่งออกสำคัญที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สิ่งพิมพ์ เพิ่มขึ้น 154.4% เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก 43.3% ผลิตภัณฑ์ยาง 34.8% อัญมณีและเครื่องประดับ 33.4% เครื่องเดินทาง 32.8% วัสดุก่อสร้าง 22.3% เครื่องใช้ไฟฟ้า 13.5% เครื่องอิเลกทรอนิกส์ 3.7% โดยสินค้าที่ส่งออกลดลงมีแค่ยานยนต์ 22.8% เป็นการลดลงของรถยนต์ 36.9% แต่ชิ้นส่วนเพิ่มขึ้น 1.9% ด้านสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร และสินค้าอื่นๆ เพิ่มขึ้น 58.8% โดยสินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเพิ่มขึ้น 99% ยางพารา 86.5% มันสำปะหลัง 36.8% อาหาร 27%

ขณะที่การนำเข้า ขยายตัวทุกหมวด โดยสินค้าวัตถุดิบ กึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 47.6% สินค้าทุน 12.9% สินค้าเชื้อเพลิง 45.2% สินค้าอุปโภคบริโภค 23.5% และยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง 1.8% และอาวุธยุทธปัจจัย 20%

ทางด้านตลาดส่งออกสำคัญ มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นทุกตลาด โดยตลาดหลักเพิ่มขึ้น 24.4% ได้แก่ ญี่ปุ่น 30.4% สหภาพยุโรป (15 ประเทศ) 20.7% สหรัฐฯ 21.9% ตลาดศักยภาพสูง เพิ่มขึ้น 28.1% ได้แก่ ไต้หวัน 46.5% อินเดีย 24.9% ฮ่องกง 31.7% เกาหลีใต้ 32.1% จีน 21.2% และตลาดศักยภาพรอง เพิ่มขึ้น 4.1% ได้แก่ รัสเซียและซีไอเอส เพิ่มขึ้น 120.9% แคนาดา 45.5% ละตินอเมริกา 14.1% แอฟริกา 34.3% และตะวันออกกลาง 26.1% แต่ส่งออกไปออสเตรเลียลดลง 42.3% โดยเป็นการส่งออกทองคำลดลง 100% และรถยนต์นั่ง รถแวน รถปิกอัพ อุปกรณ์ และส่วนประกอบลดลง 57.9%

นางพรทิวา กล่าวว่า การส่งออกเดือน พ.ค.ที่ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นเพราะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ทำให้มีกำลังสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเพิ่ม โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่มีปริมาณส่งออกสูงขึ้น และราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่า แนวโน้มการส่งออกทั้งปีนี้จะเติบโตได้ดี และขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% โดยมีแรงหนุนจากราคาสินค้าเกษตรเป็นหลัก ส่วนสาเหตุการส่งออกรถยนต์ที่ลดลง เป็นผลจากการขาดชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ แต่คาดว่าภายใน 2 เดือนข้างหน้า สถานการณ์จะคลี่คลาย และสามารถส่งออกขยายตัวได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลัง แม้จะไม่มีปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆ เข้ามากระทบ แต่ต้องระมัดระวังผลกระทบจากราคาน้ำมัน หากราคาสูงขึ้นมาก จะกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจโลก และทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจนกระทบต่อศักยภาพการแข่งขัน รวมถึงปัญหาความไม่แน่นอนการเมืองในประเทศ ที่แม้จะมีการเลือกตั้ง แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนแฝงอยู่ ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ที่ภาคแรงงานเคลื่อนย้ายกลับไปทำงานภาคเกษตร จนทำให้หลายอุตสาหกรรมเริ่มมีแรงงานไม่เพียงพอ
กำลังโหลดความคิดเห็น