นายกฯ มั่นใจมาตรการตรึงดีเซลถึงสิ้น ก.ย.ไม่กระทบสถานะกองทุนน้ำมันฯ เพราะสถานการณ์น้ำมันโลก ขึ้น-ลง ในปัจจุบัน สามารถบริหารจัดการได้สบายมาก ไม่จำเป็นต้องกู้ยืมเงินสำรอง โดยวานนี้ ได้มีการโชว์เงินสด 2.4 หมื่นล้านในบัญชีพร้อมถอน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มั่นใจกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีเงินเพียงพอให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ใช้ดำเนินมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้สูงเกิน 30 บาทต่อลิตร จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2554 โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินของกองทุนน้ำมันฯ จนต้องไปกู้เงินมาใช้ดำเนินการมาตรการดังกล่าว
“การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไปจนถึงเดือนกันยายนจะไม่มีปัญหาอะไร และรัฐบาลจะพยุงราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาท ถ้าราคาน้ำมันโลกขึ้น-ลง อยู่แบบนี้ก็ไม่มีปัญหา เพราะอยู่ในระดับที่เขาสามารถจัดการได้ และกองทุนน้ำมันไม่มีความจำเป็นต้องไปกู้ยืมอะไรเลย”
ส่วนกรณีที่มีข่าวสถานะของกองทุนน้ำมันฯ มีเงินเหลืออยู่แค่ 280 ล้านบาทนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เงินในกองทุนน้ำมันฯ มีหลายประเภท ทั้งเงินสด และการชดเชยราคาแก๊สหุงต้ม (LPG) สำหรับการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2554 เป็นแนวทางที่รัฐบาลกำหนดนโยบายไว้ และหากสถานการณ์น้ำมันโลกยังปรับตัวเคลื่อนไหวขึ้นลงเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องกู้ยืมเงินสำรองกองทุนน้ำมันฯ
“ค่อนข้างชัดเจนว่าในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเกิดจากการเก็งกำไร และสถานการณ์การเมืองในประเทศต่างๆ แต่หลังจากที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่มีท่าทีขยายการผลิตมากขึ้น สถานการณ์ก็ดีขึ้นเป็นลำดับ”
โดยวานนี้ นายศิวะนันท์ ณ นคร ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์กรมหาชน) กล่าวว่า แม้เงินสดสุทธิจะเหลืออยู่เพียง 343 ล้านบาท แต่เงินสดในบัญชียังมีอยู่ 23,863 ล้านบาท โดยขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ ยังจ่ายหนี้ให้บรรดาผู้ค้าน้ำมัน โรงกลั่น ทุกบาททุกสตางค์