xs
xsm
sm
md
lg

พลังงานห่วงกองทุนน้ำมันฯ ติดหล่ม! เตรียมหารือ กพช.ปลดล็อกอุ้มดีเซล 30 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พลังงาน ห่วงดีเซลติดหล่ม! สนพ.เตรียมหารือ กพช.ปลดล็อกมาตรการดูแลราคาดีเซล 20 เม.ย.นี้ หวั่นยุบสภา เกิดสุญญากาศ กองทุนน้ำมันฯ-ผู้ใช้ดีเซล ลอยเคว้ง จับตา กบง.ประชุม 1 เม.ย.นี้ ลดเงินอุดหนุนดีเซล 50 สตางค์ หลังราคาตลาดโลกปรับลง หวังบรรเทาภาระกองทุนฯ พร้อมส่งสัญญาณ ราคาขายปลีกในประเทศ มีแนวโน้มลดลง



นายบุญส่ง เกิดกลาง ผู้ตรวจราชการกระทรวง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ในวันที่ 20 เมษายน 2554 จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อพิจารณาวาระที่คั่งค้างให้เสร็จทันรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของมาตรการดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ที่ขณะนี้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการอุ้มราคาดีเซล เหลือเพียง 15,600 ล้านบาท

รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ สนพ.หากรัฐบาลให้ทยอยปรับราคาดีเซลจะสามารถสะท้อนราคาตลาดโลกทันที เพราะการให้ตรึงราคาต่อไปจะส่งผลให้เงินกองทุนน้ำมันฯ ติดลบ และทางสำนักบริหารกองทุนพลังงาน (สบพ.) จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อกู้เงินจากสถาบันการเงินมาใช้ในการตรึงราคา ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้ผู้ใช้น้ำมันมีภาระในการจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเติม

“แต่หากมีการทยอยปรับขึ้นราคา ภาระกองทุนน้ำมันฯ ก็จะลดน้อยลง แต่หากโชคดีราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลง ทางกระทรวงจะใช้กลไกการบริหารราคาด้วยการลดราคาช้าลง เพื่อให้กองทุนน้ำมันฯ อยู่ในฐานะเป็นบวกต่อไป”

ทั้งนี้ หากยังใช้เงินกองทุนฯ ดูแลราคาน้ำมันดีเซลไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 อาจจะส่งผลกระทบต่อสถานะของกองทุนฯ ดังนั้น สนพ.อยู่ระหว่างการจัดทำมาตรการรองรับ เพื่อเสนอต่อที่ประชุม กพช.พิจารณา ทั้งการปล่อยลอยตัวราคาดีเซลในทันที และการตรึงราคาดีเซลต่อ

“ดีเซลควรจะมีการทยอยปรับขึ้นเพื่อให้สะท้อนต้นทุน คิดว่า ประชาชนและผู้ประกอบการพอรับได้ เพื่อที่จะได้เตรียมบริหารต้นทุนที่เหมาะสมกับตนเอง เพราะไม่มีสินค้าใดที่จะตรึงราคาไว้เท่าเดิมตลอดไป”

นอกจากนี้ การประชุมร่วมกับ กพช.คาดว่า จะมีการหารือถึงการช่วยเหลือผู้ผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ ที่ร้องเรียนราคารับซื้อต่ำกว่า ที่ควรจะเป็น จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.50 บาทต่อหน่วย โดยราคาที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 8 บาทต่อหน่วย

รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ สนพ.กล่าวสริมว่า ในวันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2554 นี้ กระทรวงพลังงาน อาจมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อพิจารณาลดเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซล ลิตรละ 50 สตางค์ เพื่อบรรเทาปัญหาภาระกองทุนน้ำมันฯ จากปัจจุบันที่ชดเชยสูงถึง 5.10 บาทต่อลิตร หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

ขณะนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลงประมาณ 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันสำเร็จดีเซลตลาดสิงคโปร์ ลดลงเหลือ 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบดูไบลดลงเหลือ 108 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศอาจปรับตัวลดลง และในช่วง 1-2 วันนี้

ขณะที่ฐานะเงินกองทุนน้ำมันฯ เมื่อหักหนี้ในอดีตแล้วอยู่ที่ 15,624 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้ที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายแต่จะต้องจ่ายตามนโยบายที่ กพช.อนุมัติไว้สูงถึง 14,361 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินเปลี่ยนเชื้อเพลิงแท็กซี่ใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลพีจี) เป็นก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) วงเงิน 1,200 ล้านบาท เงินชดเชยการนำเข้าไปแอลพีจีรวมเป็น 9,500 ล้านบาท เงินชดเชยราคาเอ็นจีวี 3,600 ล้านบาท ซึ่งหากราคาน้ำมันดีเซลไม่ปรับลดเงินกองทุนน้ำมันฯ จะยังไหลออกประมาณ 307 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 9,000 ล้านบาทต่อเดือน

“หากในช่วง 2 วันนี้ ราคาในตลาดโลก ยังคงปรับตัวลดลงติดต่อกัน ก็มีโอกาสที่จะปรับลดเงินชดเชยลงมาได้ ซึ่งก็ช่วยลดภาระให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แต่หากราคาน้ำมันในตลาดโลก ปรับเพิ่มขึ้นก็จะยังไม่มีการประชุม”

อย่างไรก็ตาม สนพ.ยังคงประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในปีนี้ จะอยู่ที่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งหากสถานการณ์ในตะวันออกกลางและญี่ปุ่น คลี่คลายลงโดยเร็ว ก็จะทำให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงได้
กำลังโหลดความคิดเห็น