เปิดฉากอย่างงดงามกับงานไทยแลนด์โฟกัส 2011”จรัมพร โชติกเสถียร” กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ยิ้มแก้มปริเพราะครั้งนี้นักลงทุนให้ความสนใจร่วมงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับการจัดงาน 5 ครั้งที่ผ่านมา โดยนักลงทุนต่างประเทศเข้าร่วม 80 ราย และนักลงทุนไทยกว่า 100 ราย เนื่องจากสภาพคล่องในตลาดโลกมีสูง ทำให้นักลงทุนต้องการหาที่ลงทุน โดยเฉพาะหลังจากเกิดวิกฤตในญี่ปุ่นและราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนซึ่งมีผลประกอบการดีอย่างต่อเนื่องจาก 8 กลุ่มธุรกิจที่อยู่ ในความสนใจของนักลงทุนต่างประเทศ ร่วมให้ข้อมูล 67 บริษัทมาร์เก็ตแคปกว่า 6.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 88% ของมูลค่าตลาดโดยรวมทั้งหมด …
มีเรื่องที่น่ายินดีก็ต้องมีเรื่องที่อัปยศอดสูตามมา ! หลังจากเปิดเดินรถอย่างเป็นทางการของแอร์พอร์ตลิ้งก์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาก็เกิดเรื่องจนได้ วันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมารฟท.ได้ประกาศหยุดเดินรถด่วนหรือ Express Line เปิดเดินเฉพาะขบวนธรรมดาหรือ City Line โดยระบุว่าเกิดปัญหาด้านเทคนิก
แต่ปัญหาจริงๆ มันเกิดจากการบริหารจัดการของการรถไฟเองที่ไม่มีความพร้อมแต่ประการใดในการบริหารจัดการ เริ่มจากการก่อสร้างที่มาจากคำสั่งทางการเมืองสมัย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นรมว.คมนาคม จะกระทั่งเปิดให้บริการในสมัยที่บิ๊กห้อย กุมอำนาจในกระทรวงคมนาคมแบบเบ็ดเสร็จ
ไม่มีการตั้งหน่วยงานรองรับการบริหารจัดการแต่เปิดเดินรถโดยใช้สัญญาว่าจ้างบริษัทดีบีไอ สัญชาติเยอรมนี บริหารการเดินรถชั่วคราวจนถึงสิ้นเดือนม.ค. 54 การเดินรถด้วยรูปแบบดังกล่าวส่งผลให้เกิดปัญหาขึ้นกับแอร์พอร์ตลิ้งก์ในที่สุดเนื่องจากไม่มีงบประมาณในการซ่อมบำรุง
ซึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับการเดินรถคือแผงคาร์บอนรับกระแสไฟฟ้าโดยขบวนซิตี้ไลน์เมื่อแผงคาร์บอนไม่สามารถใช้การได้ก็ไปถอดจากขบวนเอ็กซ์เพรสมาใส่แทนเป็นการแก้ปัญหาที่ชุ่ยมาก ...หากปล่อยให้การบริหารจัดการของการรถไฟเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกไม่นานแอร์พอร์ตลิ้งก์ทั้งระบบจะต้องหยุดเดินรถแน่นอน และปัญหาจะลามไปถึงรถไฟฟ้าสายสีแดงที่การรถไฟรับผิดชอบในอนาคตที่มีปัญหาฟ้องร้องกันอยู่ซึ่งอาจกลายเป็ฯมหากาพย์โฮปเวลล์ 2 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถึงเวลาแล้วที่ต้องปฏิรูปการรถไฟอย่างแท้จริงไม่งั้นปัญหาเละเทะทั้งหลายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก็จะเกิดซ้ำซากไม่มีวันจบ ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายจงเริ่มลงมือทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศเสียเถิด อย่ามัวแต่ตักตวงผลประโยชน์ให้แก่พวกพ้อง … สงสารประเทศไทยบ้าง!
ส่งท้ายกับผลงานอันยอดเยี่ยมของไออาร์ซีพี โดยสามารถออกสตาร์ทปี 54 ได้แรงสมใจบอสใหญ่ “กังวาล กุศลธรรมรัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน)IRCP ที่เพิ่งจะปิดดีลกับกรมป่าไม้ไปหมาดๆ ล่าสุดก็ส่งมอบโครงการติดตั้งระบบ Disaster Recovery ที่จังหวัดพิษณุโลก ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยไปอีกหนึ่งราย มูลค่าโครงการก็ไม่มากไม่น้อย 71 ล้านบาทเท่านั้น ...
นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนซึ่งมีผลประกอบการดีอย่างต่อเนื่องจาก 8 กลุ่มธุรกิจที่อยู่ ในความสนใจของนักลงทุนต่างประเทศ ร่วมให้ข้อมูล 67 บริษัทมาร์เก็ตแคปกว่า 6.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 88% ของมูลค่าตลาดโดยรวมทั้งหมด …
มีเรื่องที่น่ายินดีก็ต้องมีเรื่องที่อัปยศอดสูตามมา ! หลังจากเปิดเดินรถอย่างเป็นทางการของแอร์พอร์ตลิ้งก์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาก็เกิดเรื่องจนได้ วันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมารฟท.ได้ประกาศหยุดเดินรถด่วนหรือ Express Line เปิดเดินเฉพาะขบวนธรรมดาหรือ City Line โดยระบุว่าเกิดปัญหาด้านเทคนิก
แต่ปัญหาจริงๆ มันเกิดจากการบริหารจัดการของการรถไฟเองที่ไม่มีความพร้อมแต่ประการใดในการบริหารจัดการ เริ่มจากการก่อสร้างที่มาจากคำสั่งทางการเมืองสมัย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นรมว.คมนาคม จะกระทั่งเปิดให้บริการในสมัยที่บิ๊กห้อย กุมอำนาจในกระทรวงคมนาคมแบบเบ็ดเสร็จ
ไม่มีการตั้งหน่วยงานรองรับการบริหารจัดการแต่เปิดเดินรถโดยใช้สัญญาว่าจ้างบริษัทดีบีไอ สัญชาติเยอรมนี บริหารการเดินรถชั่วคราวจนถึงสิ้นเดือนม.ค. 54 การเดินรถด้วยรูปแบบดังกล่าวส่งผลให้เกิดปัญหาขึ้นกับแอร์พอร์ตลิ้งก์ในที่สุดเนื่องจากไม่มีงบประมาณในการซ่อมบำรุง
ซึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับการเดินรถคือแผงคาร์บอนรับกระแสไฟฟ้าโดยขบวนซิตี้ไลน์เมื่อแผงคาร์บอนไม่สามารถใช้การได้ก็ไปถอดจากขบวนเอ็กซ์เพรสมาใส่แทนเป็นการแก้ปัญหาที่ชุ่ยมาก ...หากปล่อยให้การบริหารจัดการของการรถไฟเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกไม่นานแอร์พอร์ตลิ้งก์ทั้งระบบจะต้องหยุดเดินรถแน่นอน และปัญหาจะลามไปถึงรถไฟฟ้าสายสีแดงที่การรถไฟรับผิดชอบในอนาคตที่มีปัญหาฟ้องร้องกันอยู่ซึ่งอาจกลายเป็ฯมหากาพย์โฮปเวลล์ 2 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถึงเวลาแล้วที่ต้องปฏิรูปการรถไฟอย่างแท้จริงไม่งั้นปัญหาเละเทะทั้งหลายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก็จะเกิดซ้ำซากไม่มีวันจบ ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายจงเริ่มลงมือทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศเสียเถิด อย่ามัวแต่ตักตวงผลประโยชน์ให้แก่พวกพ้อง … สงสารประเทศไทยบ้าง!
ส่งท้ายกับผลงานอันยอดเยี่ยมของไออาร์ซีพี โดยสามารถออกสตาร์ทปี 54 ได้แรงสมใจบอสใหญ่ “กังวาล กุศลธรรมรัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน)IRCP ที่เพิ่งจะปิดดีลกับกรมป่าไม้ไปหมาดๆ ล่าสุดก็ส่งมอบโครงการติดตั้งระบบ Disaster Recovery ที่จังหวัดพิษณุโลก ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยไปอีกหนึ่งราย มูลค่าโครงการก็ไม่มากไม่น้อย 71 ล้านบาทเท่านั้น ...
