xs
xsm
sm
md
lg

“น้ำมันถั่วเหลือง-ปุ๋ยเคมี-นม-เหล็ก” จ่อขึ้นราคา พณ.ถกนายกฯ-อุตฯ ลดราคาน้ำตาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พณ.จับตาสินค้า 4 รายการ น้ำมันถั่วเหลือง-ปุ๋ยเคมี-นม-เหล็ก ยื่นขอปรับราคา ยอมรับต้นทุนสุงขึ้นจริง เตรียมจับมือ เกษตรฯ-พลังงาน-อุตสาหกรรม ดูแลโครงสร้างต้นทุนทั้งหมด เล็งถก “มาร์ค-ชัยวุฒิ” ปรับลดราคาขายปลีกน้ำตาลทราย ชง 2 แนวทางให้เลือก คาดอีก 1-2 เดือน น้ำตาลปรับลงราคาแน่

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำชับกระทรวงพาณิชย์ติดตามราคาสินค้าที่ยื่นขอปรับขึ้นราคา ทั้งน้ำมันถั่วเหลือง ปุ๋ยเคมี นม และเหล็ก โดยหากจะปรับราคาขึ้นจะต้องสะท้อนต้นทุนแท้จริง เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มอบหมายให้กรมการค้าภายในติดตามราคาสินค้า 4 รายการอย่างใกล้ชิด และคณะอนุกรรมการแต่ละชุดอยู่ระหว่างพิจารณาต้นทุนที่แท้จริง

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 รายการสินค้าถือว่าต้นทุนสูงขึ้นจริง เพราะวัตถุดิบโดยเฉพาะราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ จะต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ต้องทำงานร่วมกันเพื่อดูแลต้นทุนที่แท้จริงของราคาสินค้าทั้งระบบ

ส่วนน้ำตาลทราย ซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 23.50 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อหมดภาระการชดเชยราคาน้ำตาลของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2554 คาดว่า จะทำให้ราคาน้ำตาลทรายในท้องตลาด ปรับลดลงได้อย่างน้อย 5 บาทต่อกิโลกรัม

ทั้งนี้ ในวันที่ 22 มีนาคม 2554 (พรุ่งนี้) รมว.พาณิชย์ ได้เตรียมหารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม เพื่อหาแนวทางปรับลดราคาขายปลีกน้ำตาลทรายลงทั่วประเทศ

โดยกระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้เลือก 2 แนวทาง แนวทางแรก ให้เลื่อนการจ่ายเงินชดเชยน้ำตาลทรายเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 5 บาท ในปี 2554 ไปจ่ายในปี 2555 หรือแนวทางที่ 2 ให้แบ่งจ่ายชดเชย 2 งวด งวดแรกปี 2554 จ่ายกิโลกรัมละ 2 บาท และปี 2555 จ่ายส่วนที่เหลืออีกกิโลกรัมละ 3 บาท

ทั้งนี้ ราคาขายปลีกน้ำตาลทรายทั่วประเทศปัจจุบันเฉลี่ยกิโลกรัมละ 23.50-27.50 บาท โดยราคานี้รวมการจ่ายชดเชยเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายแล้ว ดังนั้นหากมีการปรับสัดส่วนชดเชยเงินกองทุนน่าจะช่วยให้ราคาขายปลีกลดลงได้ และบรรเทาความเดือดร้อนค่าครองชีพของประชาชน เพราะน้ำตาลทรายถือเป็นต้นทุนสำคัญของการผลิตสินค้าอื่นอีกหลายชนิด

“กระทรวงพาณิชย์มีความตั้งใจลดราคาขายปลีกน้ำตาลทรายเพื่อลดค่าครองชีพประชาชน เพราะปีนี้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นหลายชนิด แต่จะทำคนเดียวไม่ได้ เพราะน้ำตาลจะถูกเหลือแพง ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับกระทรวงพาณิชย์ ต้องขึ้นอยู่กับต้นทาง คือ กระทรวงอุตสาหกรรม และโรงงานผลิตในการกำหนดราคามา จากนั้นกระทรวงพาณิชย์จึงค่อยดูราคาขายปลีกให้เหมาะสมตามระยะทางขนส่ง ไม่ได้มีการเรียกเก็บใต้โต๊ะตามที่กล่าวหากัน” นางพรทิวา กล่าวสรุปทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น