ม.หอการค้าฯ ประเมินภัยพิบัติญี่ปุ่น ฉุดส่งออกไทยหดตัว 0.3-0.7% คิดเป็นมูลค่า 735-1,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ “พรศิลป์” เผย การค้า-ขนส่ง หยุดชะงักแค่ 7 วัน ส่งออกไทยสูญไปแล้ว 4 พันล้านบาท แนะจับตาราคาอาหารโลกทะยาน
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลกระทบให้ยอดส่งออกของไทยในปีนี้ลดลงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 12% คิดเป็นสัดส่วน 0.3-0.7% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 735-1,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดส่งออกของไทยไปยังประเทศญี่ปุ่นอยู่ในอันดับสอง รองจากประเทศสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัว ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องการชะลอตัวของผู้บริโภคในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า
ขณะที่คาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นจะขยายตัวในปีนี้ประมาณ 0.6-1.1% เท่านั้น หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิมที่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวถึง 1.6%
นายอัทธ์ กล่าวว่า เบื้องต้นประเมินว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่นจะใช้เวลา 2-3 ปี และจะต้องใช้เม็ดเงินเป็นจำนวนมากกว่า 1.8 แสนล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะการฟื้นฟูภาคการผลิต
ด้าน นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า การค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ที่หยุดชะงักไปประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะการขนส่งสินค้าทั้งทางเรือ และอากาศมีปัญหา อาจสูญเสียมูลค่าการค้าระหว่างกัน 3,000-4,000 ล้านบาท และอาจทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ญี่ปุ่นเติบโตลดลง
“คาดว่า ในระยะสั้นราคาอาหารในญี่ปุ่นอาจสูงขึ้น เพราะพื้นที่เกษตร อาทิ ข้าว ได้รับความเสียหาย ทำให้ผลผลิตภายในไม่เพียงพอต่อการบริโภค หากญี่ปุ่นต้องเร่งนำเข้าข้าวและอาหารจากต่างประเทศ อาจกระทบต่อราคาอาหารโดยรวมในตลาดโลก”