“ปิยสวัสดิ์” เผย มีแผนสำรองหาก “ไทยไทเกอร์” แท้ง หลังคมนาคมยื้ออนุมัติงบลงทุน หนักใจวิกฤตการเมืองลิเบียหวั่นลุกลามประเทศผลิตน้ำมัน เล็งปรับค่าต๋งน้ำมันชดเชยต้นทุนประคองผลประกอบการ พร้อมยันกฎเหล็กคุมรอบเอวพนักงานเพื่อแข่งขันธุรกิจ ยอมรับสู้สิงคโปร์ไม่ได้ ขณะที่เปิดตัวบริการ “บินสบายง่ายแค่คลิก” เจาะไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่จองตั๋วผ่านมือถือ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนซี้อต๋วผ่านเน็ต 12% ภายในสิ้นปี 54 ตัดค่านายหน้าเอเยนต์
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยถึงความคืบหน้าการร่วมทุนตั้งสายการบินไทยไทเกอร์ ว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมทุน (Shareholders’ Agreement) กับผู้ถือหุ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว โดยขั้นตอนจากนี้ คือ รอการอนุมัติงบลงทุนจากกระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ดังนั้น ต้องเลื่อนแผนเปิดบินในเดือน เม.ย.2554 ออกไปก่อน แต่หากไม่ได้รับการอนุมัติงบลงทุนให้ตั้งไทยไทเกอร์ บริษัทได้เตรียมแผนสำรองในการดำเนินการไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเป็นความลับทางธุรกิจ
“ในสัญญาร่วมทุนมีการเขียนเงื่อนไขไว้ในหลายกรณี และถ้าไม่ได้ตั้งไทยไทเกอร์ การบินไทยก็มีแผน 2 แผน 3 แต่บอกไม่ได้ว่าจะเอามาใช้เมื่อไร เพราะธุรกิจการบินมีคู่แข่งขันสูง ตอนนี้เรื่องตั้งไทยไทเกอร์ไม่สำคัญเลย เมื่อเทียบกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน การบินไทยมีเรื่องให้ทำอีกมาก บอกได้คำเดียวว่า ธรรมะต้องชนะอธรรมแน่นอน” นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
*** เล็งปรับค่าต๋งน้ำมันชดเชยต้นทุน
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นอย่างมาก จากปัญหาการเมืองในประเทศลิเบียที่รุนแรง และมีแนวโน้มลุกลามไปประเทศอื่นในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมัน และอาจกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทได้นั้น นอกจากบริษัทจะทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน (Hedging) ไว้ที่ประมาณ 50% ของปริมาณการใช้แล้ว ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลประกอบการพิจารณาปรับค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Surcharge) ซึ่งเป็นการชดเชยต้นทุนค่าน้ำมันอีกทางหนึ่ง
****ยันกฎเหล็กรอบเอว พนง.ตามมาตรฐาน
ส่วนกรณีที่บริษัทออกประกาศหลักเกณฑ์การปรับปรุงบุคลิกภาพของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน (แอร์โฮสเตส และสจ๊วร์ต) โดยใช้เกณฑ์การชี้วัดจาก Body Mass Index (BMI) หรือดัชนีมวลกายกำหนดพนักงานหญิง มีรอบเอวไม่เกิน 32 นิ้ว และผู้ชายมีรอบเอวไม่เกิน 35 นิ้วนั้น นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ผู้โดยสารร้องเรียนมาว่าไม่ต้องการลูกเรืออ้วน ซึ่งบริษัทไม่ได้บังคับทันที แต่ให้เวลาพนักงานปรับตัวมาระยะหนึ่งแล้ว และเกณฑ์ที่กำหนดไม่ได้เข้มงวดมากเมื่อเปรียบเทียบกับสายการบินคู่แข่ง ขณะเดียวกัน บริษัทให้ความสำคัญในการบริการผู้โดยสารและความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ซึ่งรูปร่างของลูกเรือเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการที่สำคัญ แต่ลูกเรือยังจะต้องรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารด้วยทุกกรณี
“เกณฑ์ที่ตั้งถือว่าผ่อนปรนมาก ตอนนี้ค่าเฉลี่ยของพนักงานการบินไทยสู้สิงคโปร์แอร์ไลน์ไม่ได้ ถ้าไม่ทำอะไรก็ต้องถามว่าอยากให้เป็นแบบนี้ต่อไป หรือต้องการให้เป็นสายการบินชั้นนำของโลก”
****เปิดบริการจองตั๋วผ่านมือถือ
วานนี้ (2 มี.ค.) การบินไทยได้เปิดตัวบริการ “บินสบายง่ายแค่คลิก” ซึ่งเป็นการพัฒนาบริการเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารและลูกค้าที่ต้องการเดินทาง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเที่ยวบิน ตารางการบิน สำรองที่นั่ง การเช็กอิน การตรวจสอบข้อมูลและอื่นๆ โดยใช้บริการเว็บบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการพัฒนาระบบดังกล่าวจะทำให้บริษัทเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายตั๋วผ่านอินเทอร์เน็ตจากปัจจุบันที่ 8.7% เป็น 12% ภายในสิ้นปี 2554 ซึ่งนอกจากช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนของพนักงานบริษัทที่ทำหน้าที่จองตั๋วแล้วยังประหยัดค่าคอมมิชชันเอเย่นต์ขายตั๋วลงได้ ซึ่งปัจจุบันนายหน้าเอเยนต์ตั๋วอยู่ที่ 5-9%
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยถึงความคืบหน้าการร่วมทุนตั้งสายการบินไทยไทเกอร์ ว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมทุน (Shareholders’ Agreement) กับผู้ถือหุ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว โดยขั้นตอนจากนี้ คือ รอการอนุมัติงบลงทุนจากกระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ดังนั้น ต้องเลื่อนแผนเปิดบินในเดือน เม.ย.2554 ออกไปก่อน แต่หากไม่ได้รับการอนุมัติงบลงทุนให้ตั้งไทยไทเกอร์ บริษัทได้เตรียมแผนสำรองในการดำเนินการไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเป็นความลับทางธุรกิจ
“ในสัญญาร่วมทุนมีการเขียนเงื่อนไขไว้ในหลายกรณี และถ้าไม่ได้ตั้งไทยไทเกอร์ การบินไทยก็มีแผน 2 แผน 3 แต่บอกไม่ได้ว่าจะเอามาใช้เมื่อไร เพราะธุรกิจการบินมีคู่แข่งขันสูง ตอนนี้เรื่องตั้งไทยไทเกอร์ไม่สำคัญเลย เมื่อเทียบกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน การบินไทยมีเรื่องให้ทำอีกมาก บอกได้คำเดียวว่า ธรรมะต้องชนะอธรรมแน่นอน” นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
*** เล็งปรับค่าต๋งน้ำมันชดเชยต้นทุน
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นอย่างมาก จากปัญหาการเมืองในประเทศลิเบียที่รุนแรง และมีแนวโน้มลุกลามไปประเทศอื่นในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมัน และอาจกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทได้นั้น นอกจากบริษัทจะทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน (Hedging) ไว้ที่ประมาณ 50% ของปริมาณการใช้แล้ว ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลประกอบการพิจารณาปรับค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Surcharge) ซึ่งเป็นการชดเชยต้นทุนค่าน้ำมันอีกทางหนึ่ง
****ยันกฎเหล็กรอบเอว พนง.ตามมาตรฐาน
ส่วนกรณีที่บริษัทออกประกาศหลักเกณฑ์การปรับปรุงบุคลิกภาพของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน (แอร์โฮสเตส และสจ๊วร์ต) โดยใช้เกณฑ์การชี้วัดจาก Body Mass Index (BMI) หรือดัชนีมวลกายกำหนดพนักงานหญิง มีรอบเอวไม่เกิน 32 นิ้ว และผู้ชายมีรอบเอวไม่เกิน 35 นิ้วนั้น นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ผู้โดยสารร้องเรียนมาว่าไม่ต้องการลูกเรืออ้วน ซึ่งบริษัทไม่ได้บังคับทันที แต่ให้เวลาพนักงานปรับตัวมาระยะหนึ่งแล้ว และเกณฑ์ที่กำหนดไม่ได้เข้มงวดมากเมื่อเปรียบเทียบกับสายการบินคู่แข่ง ขณะเดียวกัน บริษัทให้ความสำคัญในการบริการผู้โดยสารและความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ซึ่งรูปร่างของลูกเรือเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการที่สำคัญ แต่ลูกเรือยังจะต้องรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารด้วยทุกกรณี
“เกณฑ์ที่ตั้งถือว่าผ่อนปรนมาก ตอนนี้ค่าเฉลี่ยของพนักงานการบินไทยสู้สิงคโปร์แอร์ไลน์ไม่ได้ ถ้าไม่ทำอะไรก็ต้องถามว่าอยากให้เป็นแบบนี้ต่อไป หรือต้องการให้เป็นสายการบินชั้นนำของโลก”
****เปิดบริการจองตั๋วผ่านมือถือ
วานนี้ (2 มี.ค.) การบินไทยได้เปิดตัวบริการ “บินสบายง่ายแค่คลิก” ซึ่งเป็นการพัฒนาบริการเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารและลูกค้าที่ต้องการเดินทาง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเที่ยวบิน ตารางการบิน สำรองที่นั่ง การเช็กอิน การตรวจสอบข้อมูลและอื่นๆ โดยใช้บริการเว็บบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการพัฒนาระบบดังกล่าวจะทำให้บริษัทเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายตั๋วผ่านอินเทอร์เน็ตจากปัจจุบันที่ 8.7% เป็น 12% ภายในสิ้นปี 2554 ซึ่งนอกจากช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนของพนักงานบริษัทที่ทำหน้าที่จองตั๋วแล้วยังประหยัดค่าคอมมิชชันเอเย่นต์ขายตั๋วลงได้ ซึ่งปัจจุบันนายหน้าเอเยนต์ตั๋วอยู่ที่ 5-9%