xs
xsm
sm
md
lg

อุตฯ ลั่นไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย จี้ รง.เพิ่มสินค้าป้อนโมเดิร์นเทรด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมว.อุตฯ ลั่นไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย สั่งเพิ่มโควตาเพื่อบริโภค ยันราคาทรงตัวอย่างน้อยถึงสิ้นปี เพราะต้องรอผลการศึกษาการปรับโครงสร้างอุตฯ ทั้งระบบก่อน จี้ โรงงานส่งน้ำตาลให้โมเดิร์นเทรดเพิ่ม แก้ปัญหาตึงตัว “พาณิชย์” ยอมรับสินค้าขาดตลาดมานานเป็นปีแล้ว เพราะถูกลักลอบส่งออก โรงงานแห่ซื้อโควตา ก เพราะต้นทุนถูกกว่า ปชช.ร้องสายด่วน ถูกโขกราคาขายปลีกเกิน กก.ละ 30 บาท

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าถึงกระแสข่าวการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 30 บาท โดยยืนยันว่า ราคาน้ำตาลทรายจะยังไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นในช่วงนี้แน่นอน พร้อมระบุว่า ราคาน้ำทรายยังคงอยู่ในระดับเดิมต่อไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากต้องรอผลการศึกษาการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทั้งระบบก่อน

ส่วนการตรวจสต็อกน้ำตาลสิ้นงวดค้างกระดานรอจำหน่าย ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่า มีปริมาณมากถึง 1.6 ล้านกระสอบ ซึ่งปริมาณน้ำตาลทรายยังคงเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศ เพราะปีนี้ได้เพิ่มน้ำตาลโควตา ก.จากปีที่แล้วอีก 6 ล้านกระสอบ เป็น 28 ล้านกระสอบ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25

ส่วนปัญหาห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ (โมเดิร์นเทรด) ที่มีปริมาณน้ำตาลทรายบรรจุถุงค่อนข้างตึงตัว เป็นเพราะการบรรจุถุงนั้น มีโรงงานน้ำตาลทรายป้อนโมเดิร์นเทรดเพียง 3 รายเท่านั้น และโรงงานก็ไม่อยากส่งน้ำตาลให้ด้วย เพราะต้องมีค่าดำเนินการและค่าบรรจุถุง ซึ่งทั้งโรงงานและโมเดิร์นเทรด ยังตกลงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ยังไม่ได้

เรื่องดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรม เห็นว่า หากมีความจำเป็นต้องแก้ปัญหาน้ำตาลบรรจุถุงขาดแคลน ก็จะพิจารณานำเงินกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย มาใช้ดำเนินการบรรจุถุงขายให้แก่ประชาชน

นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือให้หน่วยงานความมั่นคงระมัดระวังการลักลอบขนน้ำตาลภายในประเทศไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เพราะพบว่าประเทศเพื่อนบ้านราคาน้ำตาลสูงกว่าประเทศไทยมาก ตามทิศทางราคาน้ำตาลในตลาดโลก โดยช่องทางการทำส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบการลักลอบส่งออกตามชายแดน

นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สถานการณ์น้ำตาลทรายขณะนี้ ยังไม่ถึงขั้นน่าเป็นห่วง แต่อาจมีบางห้างสรรพสินค้าที่จำกัดจำนวนซื้อ เพราะต้นทุนการบรรจุถุงเพิ่มสูงขึ้น แต่น้ำตาลยังไม่ตึงตัว อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะนี้ปริมาณการผลิตอยู่ที่ 25 ล้านกระสอบ และมีน้ำตาลค้างกระดานอยู่ประมาณ 1 ล้านกระสอบต่อสัปดาห์ จึงมั่นใจว่ายังไม่มีปัญหา หากเกิดการตึงตัวขึ้นจริงจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีการลักลอบส่งออกน้ำตาล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน ซึ่งยังไม่พบว่ามีการส่งออกจำหน่ายยังต่างประเทศเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ราคาขายในท้องตลาดสูงกว่าราคาควบคุมเล็กน้อย เพราะราคาน้ำตาลในต่างประเทศสูงกว่า แต่ยังถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ปกติ

ด้านรายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ่งว่า มีประชาชนร้องเรียนปัญหาน้ำตาลทรายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผ่านสายด่วน 1569 ของกรมการค้าภายใน โดยพบว่า ส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดแคลนมาอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ต้นปี 2553 ถึงปัจจุบัน โดยร้านค้าเกือบทุกแห่งมีการขายเกินราคา 23.50 บาท ส่วนห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีก แม้จะขายตามราคาที่รัฐกำหนด แต่ก็จำกัดจำนวนให้ซื้อครอบครัวละ 1-3 ถุง และบางครั้งหากไปไม่ทัน ของหมดก็จะซื้อไม่ได้เลย

ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยที่ทำธุรกิจร้านอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ที่ต้องใช้น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารและเครื่องดื่มเพื่อจำหน่าย ล่าสุด ยังคงประสบปัญหาซื้อน้ำตาลทรายได้ยาก และเมื่อติดต่อไปซื้อกับยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว ก็พบว่า มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 28-30 บาท แต่จำเป็นต้องซื้อในราคาดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจะไม่มีน้ำตาลทรายมาผลิตสินค้าเพื่อจำหน่าย

นอกจากนี้ หากไปซื้อตามห้างค้าปลีกก็ซื้อได้ปริมาณน้อยและจำกัดการซื้อครอบครัวละ 1-2 ถุงเท่านั้น ส่วนร้านค้าย่อย (โชวห่วย) มีน้ำตาลทรายขายน้อยเช่นกัน และมีราคาสูงเกินกิโลกรัมละ 30 บาท

สำหรับสาเหตุที่น้ำตาลทรายขาดตลาด กระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่า ได้เกิดขึ้นมาเป็นปีแล้ว เพราะขณะนี้ราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกมีราคาสูงกว่าราคาขายปลีกในประเทศ ทำให้เกิดการลักลอบส่งออก โดยเฉพาะการนำไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกัน โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำตาลทราย ได้มาแย่งซื้อน้ำตาลทราย โควตา ก.เพราะต้นทุนถูกกว่า ยิ่งทำให้น้ำตาลหายไปจากตลาด
กำลังโหลดความคิดเห็น